ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

พระกับสตรี


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 47 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#31 พักผ่อน

พักผ่อน
  • Members
  • 422 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 11:58 PM

คือหยุดในหยุดนิ่งแน่นไม่ถอยหลังกลับ ไม่มีอะไรมาขัดจังหวะได้

#32 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 01:33 AM

QUOTE
หากต้องการบวชอีกเขาสามารถบวชได้เพียงแค่สามเณร แต่ไม่สามารถอุปสมบทเป็นพระภิกษุได้ครับ แล้วอาบัติปาราชิกนี่ ถ้าต้องแล้วเป็นมรรคาวรณ์ คือ ห้ามมรรคผล (ห้ามการบรรลุธรรม) เลยนะครับ

โออ ohmy.gif ไม่เคยทราบเลยนึกว่า เว้นวรรค แล้วบวชได้อีก แบบว่าหลังจากสำนึกได้แล้ว
QUOTE
ตายแล้วลงอเวจีมหานรกสถานเดียวอีกด้วยครับ

แล้วสมมุติว่า มีคนประสงค์ร้ายกับพระสงฆ์อย่างเช่น แผนนารีพิฆาต ใส่ยาให้ท่านดื่มแล้วท่านเกิดไปเสพกาม จนต้องอาบัติปาราชิก ตายแล้วลงอเวจีนรกเลยเหรอค่ะ
QUOTE
การขาดผ้าครองเป็นต้น

ช่วยขยายความหน่อยค่ะ
QUOTE
อาบัติกลุ่มที่เหลือนี้ ทำการปลงอาบัติก็หลุดแล้วครับ เพราะถือว่าเป็นอาบัติที่ไม่ร้ายแรง

การปวงอาบัติที่ว่านี่ ทำอย่างไรหรือค่ะ ต้องสารภาพต่อหน้าพระสงฆ์องค์อื่น อย่างนี้เหรอค่ะ
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#33 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 02:24 AM

QUOTE
โอ! ไม่เคยทราบเลยนึกว่า เว้นวรรค แล้วบวชได้อีก แบบว่าหลังจากสำนึกได้แล้ว

nerd_smile.gif หากเขาผู้นั้นจะกลับมาบวช เขาสามารถบวชได้เพียงแค่สามเณรเท่านั้น แต่ไม่สามารถอุปสมบทเป็นพระภิกษุได้อีกต่อไปครับ

QUOTE
แล้วสมมุติว่า มีคนประสงค์ร้ายกับพระสงฆ์อย่างเช่น แผนนารีพิฆาต ใส่ยาให้ท่านดื่มแล้วท่านเกิดไปเสพกาม จนต้องอาบัติปาราชิก ตายแล้วลงอเวจีนรกเลยเหรอค่ะ

nerd_smile.gif ผมต้องขอย้อนถามด้วยเช่นกันว่า จริงอยู่แม้ว่าท่านจะถูกวางยา แต่ท่านจะไม่รู้ตัวเทียวหรือครับว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่? (เพราะคนเมานั้น หาได้หมดความรู้สึกรับรู้ทางกายและทางอารมณ์ไปเสียทุกส่วนเหมือนกับคนที่หลับลึกนะครับ) เพราะฉะนั้นกรณีนี้ลงอเวจีมหานรกครับ เพราะเป็นการกระทำโดยเจตนาแบบขาดสติ กรณีนี้ก็คล้ายกับกรณีของการดื่มเหล้าจนเมามายแล้วขับรถไปชนคนตายด้วยความประมาทนั่นแหละครับ

QUOTE
อาบัติกลุ่มที่เหลือนี้ ทำการปลงอาบัติก็หลุดแล้วครับ เพราะถือว่าเป็นอาบัติที่ไม่ร้ายแรง แล้วการปลงอาบัติที่ว่านี่ทำอย่างไรหรือค่ะ ต้องสารภาพต่อหน้าพระสงฆ์องค์อื่นอย่างนี้เหรอค่ะ

nerd_smile.gif สำหรับกรณีของพระภิกษุที่เสร็จกิจจากการไปอยู่ปริวาสแล้วต้องเข้าสังฆกรรมด้วยการประจานตนเองในท่ามกลางสงฆ์นั้น เป็นวิธีการปลงอาบัติของภิกษุที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสสแต่เพียงเท่านั้นครับ อธิบายว่า อาบัติสำหรับพระภิกษุนั้น มีหลักๆ อยู่ด้วยกัน ๗ กอง ได้แก่ ปาราชิก สังฆาทิเสส ถุลลัจจัย ปาจิตตีย์ นิสสัคคียปาจิตตีย์ ปาฏิเทสนียะ ทุกกฏ-ทุพภาสิต ซึ่งอาบัติอันเป็นครุกาบัติ (อาบัติหนัก) คือ อาบัติปาราชิกและสังฆาทิเสส ส่วนอาบัติที่เหลืออีก ๕ กองนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นลหุกาบัติ (อาบัติเบา) ทั้งสิ้น ซึ่งอาบัติเบานี้มีวิธีการปลงอาบัติโดยการปลงแบบคู่ ใน ๑ คู่จะประกอบไปด้วยภิกษุผู้มีพรรษามากกว่าหรือเป็นผู้บวชก่อน เรียกว่า "ภันเต" ส่วนภิกษุที่เป็นผู้มีพรรษาน้อยกว่าหรือเป็นผู้บวชในภายหลังนั้น เรียกว่า "อาวุโส" จากนั้นจึงเริ่มทำการปลงอาบัติโดยฝ่ายของภิกษุผู้อาวุโสจะเป็นผู้บอกอาบัติให้แก่ภิกษุผู้เป็นภันเตก่อน จากนั้น เมื่อภิกษุผู้อาวุโสได้บอกอาบัติเป็นภาษาบาลีแก่ภิกษุผู้ภันเตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภิกษุผู้ภันเตจึงจะกล่าวคำบอกอาบัติเป็นภาษาบาลีแก่ภิกษุผู้อาวุโสเป็นอันเสร็จพิธีครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#34 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 10:37 AM

QUOTE
QUOTE
การขาดผ้าครองเป็นต้น

ช่วยขยายความหน่อยค่ะ

สำหรับที่มาของพระวินัยเรื่องการขาดครองข้อนี้ เกิดขึ้นจากพระฉัพพัคคีย์ทำผ้าจีวรหาย แล้วชาวบ้านติเตียนว่า สิ่งของแค่นี้พระภิกษุยังดูแลไม่ได้ พระพุทธองค์เลยบัญญัติสิกขาบทข้อนี้ขึ้น

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ผ้าไตรจีวรประกอบด้วย จีวร สบง สังฆาฏิ และผ้าไตรจีวรของพระมี ๒ ประเภท คือ
๑. ผ้าครอง พระภิกษุ ๑ รูปจะมีผ้าครองเพียง ๑ ชุด
๒. ผ้าอาศัย พระภิกษุ ๑ รูปมีได้มากกว่า ๑ ชุด

พระวินัย บัญญิติให้พระภิกษุต้องรักษาไตรจีวรครองให้อยู่ในช่วง ๑ หัตถบาทในระหว่างเวลาที่อรุณขึ้น มิฉะนั้น ปรับเป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์

แปลเป็นภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆ คือ ช่วงที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นจากขอบฟ้า ผ้าไตรจีวรครองทั้งสำรับจะต้องอยู่กับพระภิกษุผู้เป็นเจ้าของในระยะ ๑ ช่วงแขนเอื้อมถึง ถ้าพ้นจาก ๑ ช่วงแขนเอื้อมถึงในช่วงพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นซึ่งกินระยะเวลาประมาณ ๑๐-๑๕ นาทีแม้ชั่วพริบตาเดียว พระภิกษุนั้นต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ เรื่อง การขาดครอง

การขาดครองนั้น ไม่มีกรณียกเว้น แม้ภิกษุจะนำผ้าครองไปซักในช่วงกลางคืนก็ตาม ก่อนช่วงอรุณขึ้นก็ต้องนำไตรครองทั้งสำรับมาเก็บไว้กับตัว แต่ถ้าผ้าครองไม่แห้ง ก็ต้องไปยืนเฝ้าผ้าครองที่ลานตากผ้าในช่วงเวลาอรุณขึ้น จนกระทั่งเลยช่วงระยะเวลาอรุณขึ้น คือ ประมาณ ๑๕ นาทีไปแล้ว จึงจะสามารถผละ ละจากผ้าครองที่ตากอยู่ไปทำกิจอย่างอื่นได้ แล้วค่อยย้อนมาเก็บผ้าเมื่อผ้าแห้งแล้วในภายหลังได้ครับ

จุดประสงค์ของพระวินัยข้อนี้ก็เพื่อให้ภิกษุมีความรับผิดชอบต่อสิ่งของของตนครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#35 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 05:52 PM

ขอบคุณทุกคำตอบครับ

ครับ สมัยนี้ต้องมีสรรเสริญด้วย เพราะว่าพระพุทธศาสนาเพิ่มมีการปลอมปนแล้ว
หลักธรรมที่แท้จริง เสื่อมไป ปฏิบัติเข้าถึงจริง ๆ ได้ยากมาก ต้องมาแสวงหาความจริงกันใหม่
เช่น เรื่อง มิจฉาสมาธิ และ สัมมาสมาธิ ปะปนกันจนดูไม่ออก เพราะมันเสื่อมจากภายในนี่เอง
ภายนอกก็เป็นปัจจัยเสริม


หยุดคือตัวสำเร็จ

#36 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 06:55 PM

QUOTE
แปลเป็นภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆ คือ ช่วงที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นจากขอบฟ้า ผ้าไตรจีวรครองทั้งสำรับจะต้องอยู่กับพระภิกษุผู้เป็นเจ้าของในระยะ ๑ ช่วงแขนเอื้อมถึง ถ้าพ้นจาก ๑ ช่วงแขนเอื้อมถึงในช่วงพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นซึ่งกินระยะเวลาประมาณ ๑๐-๑๕ นาทีแม้ชั่วพริบตาเดียว พระภิกษุนั้นต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ เรื่อง การขาดครอง


QUOTE
การขาดครองนั้น ไม่มีกรณียกเว้น


เป็นความรู้ใหม่ ขอบคุณค่ะ
นุ่งห่มให้เรียบร้อยเป็นการสร้างศรัทธาแก่สาธุชนตั้งแต่รุ่งอรุณกันเลยทีเดียว
สาธุ

QUOTE
แปลเป็นภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆ

จำเป็นมากๆค่ะ tongue.gif
โอออ ขอบคุณทั้ง 2 ท่านมากๆค่ะ ไม่เคยรู้ลึกซึ้งขนาดนี้มาก่อนเลย
แล้วผ้าครองกับผ้าอาศัยต่างกันอย่างไรค่ะ พระพุทธองค์ท่านอนุญาติให้พระสงฆ์มีไว้ในครอบครองได้ทั้งหมดกี่ชุดค่ะ

#37 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 11:07 PM

QUOTE
พระพุทธองค์ท่านอนุญาตให้พระสงฆ์มีไว้ในครอบครองได้ทั้งหมดกี่ชุดคะ?

nerd_smile.gif ๓ ผืน คือ สบง จีวร สังฆาฏิ ๒ ชุด ได้แก่
๑. ผ้าครอง พระภิกษุ ๑ รูป สามารถมีผ้าครองได้เพียง ๑ ชุด
๒. ผ้าอาศัย พระภิกษุ ๑ รูป สามารถมีผ้าอาศัยได้มากกว่า ๑ ชุด

nerd_smile.gif เพราะฉะนั้นสรุปว่า "๓ ผืน ๒ ชุด" ครับผม
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#38 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 01:16 PM

โออ เข้าใจแล้ว ขอบคุณค่า
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#39 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 12:49 PM

http://www.geocities.../02/newsfeb.htm

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#40 ป่าน072

ป่าน072
  • Members
  • 371 โพสต์
  • Location:โคราช
  • Interests:การศึกษาต่อในวิชา วิทยาศาสตร์<br />วิศวะปิโตรเคมี

โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 02:32 PM

เป็นความรู้ที่ดีมากๆเลยนะคะ
เมื่อดวงตาปิดสนิมอย่างละมุน
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง

#41 Song Seung-Heon

Song Seung-Heon
  • Members
  • 10 โพสต์
  • Location:อยู่ในใจคุณของคุณเท่านั้น
  • Interests:ความสุขที่แท้จริง

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 03:36 PM

ฉะนั้น ต้องมีอินทรีย์สังวรณ์ และสอนตัวเองให้มากๆ นะครับ

#42 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 07 October 2006 - 11:59 AM

สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมครับ พระคุณท่านองค์ใด ในอดีตชาติเคยทำเวรกรรม แกล้งให้ผู้อื่นเคลื่อนจากพรหมจรรย์ สุดท้ายกรรมนั้นต้องกลับมาหาพระคุณท่านองค์นั้นครับ นี้คือความจริง อย่าไปโกรธหรือว่าร้ายพวกนารีพิฆาตเลยน่ะครับ ขอให้เมตตามากๆ เสมอๆ เหมือนพระพุทธเจ้าเมตตานางจิญจมาณวิกา และพระเทวทัต
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#43 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 08 October 2006 - 06:37 PM

QUOTE
QUOTE
แล้วสมมุติว่า มีคนประสงค์ร้ายกับพระสงฆ์อย่างเช่น แผนนารีพิฆาต ใส่ยาให้ท่านดื่มแล้วท่านเกิดไปเสพกาม จนต้องอาบัติปาราชิก ตายแล้วลงอเวจีนรกเลยเหรอค่ะ


ผมต้องขอย้อนถามด้วยเช่นกันว่า จริงอยู่แม้ว่าท่านจะถูกวางยา แต่ท่านจะไม่รู้ตัวเทียวหรือครับว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่? (เพราะคนเมานั้น หาได้หมดความรู้สึกรับรู้ทางกายและทางอารมณ์ไปเสียทุกส่วนเหมือนกับคนที่หลับลึกนะครับ) เพราะฉะนั้นกรณีนี้ลงอเวจีมหานรกครับ เพราะเป็นการกระทำโดยเจตนาแบบขาดสติ กรณีนี้ก็คล้ายกับกรณีของการดื่มเหล้าจนเมามายแล้วขับรถไปชนคนตายด้วยความประมาทนั่นแหละครับ


ไม่มั้งครับ เจตนาเป็นตัวกรรมไม่ใช่เหรอ

เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#44 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 08 October 2006 - 10:12 PM

สา..ธุค่ะ คุณไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี และคุณ MiraclE...DrEaM

อึ้ง และ ทึ่ง มากๆๆๆๆ เลยค่ะ กับความ รอบรู้ และ รู้รอบ ของท่านทั้งสอง

ขออนุโมทนากับธรรมทานนี้ด้วยนะคะ สา...ธุค่ะ
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#45 จะไปให้ถึงทีสุดแห่งธรรม

จะไปให้ถึงทีสุดแห่งธรรม
  • Members
  • 160 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:belgium

โพสต์เมื่อ 11 January 2007 - 09:16 AM

ขอเพิ่มสักนิดนะครับ
อาจไม่ต่อยตรงกับคำถามเท่าไร
แต่ไม่อยากตั้งเป็นกระทู้ใหม่

คือ อยากให้ช่วยกัน
เพราะ เราอยู่ได้ก็ด้วยพระเป็นที่พึ่ง
พระอยู่ได้ ก็เพราะเราถวายทาน

อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย รวมทั้งสาธุชนด้วย
ต้องช่วยกันให้พระเณรท่านได้อยู่ในเพศสมณะให้ได้ตลอดรอดฝั่ง
ในไทยผมไม่ทราบ แต่ในต่างประเทศนั้นเห็นได้บ่อย
คือ สีกาไม่ค่อยสำรวม โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกาย
ยิ่งช่วงที่ศูนย์สาขาเข้าไปใหม่ ๆ นั้น
ต้องใช้เวลาปรับกันนานพอสมควร

อีกเรื่องคือ ตอนนี้ คุณครูไม่ใหญ่จัดสอบทางก้าวหน้าระดับประชาชน

ถ้าจะให้พระท่านติวให้ ก็ขอให้ตั้งใจเรียนจากท่านให้มาก
ใช้เวลาให้น้อยที่สุด เพราะท่านก็มีภารกิจ
และควรติวเป็นกลุ่มนะครับ ไม่ควรสองต่อสอง

เพราะเคยมีมาแล้วว่า สีกาสอบได้นักธรรม
แต่ติวเตอร์น้องสึก ตอนนี้ไม่ทราบว่ายังอยู่ด้วยกันหรือเปล่า
น่าเสียดายมากเพราะกว่าท่านจะได้มีโอกาสบวชนั้นยาก


ถ้าหากข้อคิดเห็นของกระผม

ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใด

เกิดความไม่สบายกายไม่สบายใจ

ขออโหสิกรรมไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


#46 ลูกพระธัมฯ Merry Ma

ลูกพระธัมฯ Merry Ma

    The STRONGEST is the GENTLEST!!!

  • Members
  • 891 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Bangkok, Thailand

โพสต์เมื่อ 17 March 2007 - 01:25 AM

สาธุค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านที่ตอบคำถามในกระทู้นี้ค่ะ มีเนื้อหาสาระที่ดีมาก

ในฐานะที่เกิดเป็นผู้หญิง เราควรเตรียมตัวให้ดีให้ถูกต้องไว้ก่อนค่ะ
แล้วอธิษฐานว่าเมื่อเราเกิดเป็นชายได้บวช อย่าได้เจอสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้องจากผู้หญิงเลย

จากประสบการณ์การที่ได้เป็นอาสาสมัครช่วยงานวัด ได้ประสานงานกับพระอาจารย์
ซึ่งในช่วงต้นเราก็ต้องแสดงความเคารพ สำรวมกับท่านอยู่มาก ซึ่งยังอาจจะดูเกร็งๆอยู่
แต่เมื่อได้ร่วมงานเป็นประจำและไม่มีฝ่ายใดเลยที่คิดในทางที่ไม่ดีหรือผิดอะไร ตั้งใจรับงานบุญ
ก็จะคุยกันในเรื่องงานบุญอย่างสบายๆมากขึ้น พระอาจารย์มอบหมายงานให้ต่อเนื่อง
ท่านพูดกับเราในเรื่องงานอย่างเปิดได้ละเอียดมากขึ้น แล้วท่านก็มีคำแนะนำแบบสบายๆเมตตาๆ
คำทักทายของพระอาจารย์ก็จะเกิดขึ้นพร้อมกับความผ่องใส มีคำขมด้วยเมตตาที่เราทำงานได้เสร็จด้วยดี
ซึ่งทำให้เรารู้สึกสบายใจ ว่าเราทำดี ไม่ได้เป็นนารีพิฆาต หรือสิ่งที่น่ากลัวอะไรกับท่านเลยค่ะ

ฉะนั้นความระมัดระวังเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง และฝึกหัด ปรับตัวให้ได้ในช่วงแรก
เราต้องมีความเคารพต่อพระอาจารย์ด้วยมัทวัง แต่ไม่ใช่ด้วยมายา จริตผู้หญิงค่ะ
มีแต่ความตั้งใจที่จะรับงานบุญ และสร้างบารมีของเรา ซึ่งตรงนี้พระอาจารย์ท่านจับออกค่ะ
แล้วความถูกต้อง ความสบายใจของทุกฝ่ายก็จะเกิดตามมาค่ะ ความสร้างสรรค์ในการประสานงานก็เกิดขึ้น
ทีนี้เราก็จะได้รับมอบงานบุญเพิ่มจากท่าน แล้วเราจะได้บ่มบารมีของเราให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นไงคะ
The Strongest is The Gentlest!

ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด

#47 Ray

Ray
  • Members
  • 168 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 May 2008 - 06:17 PM

น่ากลัว ไม่น่าเกิดเป็นหญิงเลย น่ากลัว ต้องระวังตัวให้มาก

#48 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 June 2008 - 06:58 PM

อ่านหัวข้อนี้แล้วได้ความรู้มากๆๆๆ

น่าปลื้มที่มีเหล่ากัลยาณมิตร และพี่เลี้ยงอย่างคุณไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี
เห็นแผน นารีพิฆาต แล้วออกเป็นห่วงพระภิกษุสงฆ์ โดยเฉพาะรูปที่ท่านมีคุณประโยชน์ เป็นที่น่านับถือมากๆ จะเป็นเป้าของคนพวกนี้
ซึ่งคงมีทั้งเหตุที่จะให้ด่างพร้อยทางศาสนา
และต้องการขู่กรรโชกทรัพย์ จากการแบลกเมล์
ถ้าท่านเหล่านั้นไม่ทราบ ท่านก็คงไม่ทันระวังตัว ระวังองค์ท่าน
ถ้าทราบ ก็เกรงจะอยู่ด้วยความระแวง แม้อาหารที่ขบฉัน
เฮ้อ...กลุ้ม
เป็นหู เป็นตา ช่วยกันดูแลแล้วกันนะ