สัตว์หิมพานต์ Himmapan creatures
#1
โพสต์เมื่อ 05 April 2006 - 04:23 PM
เราจัดหมวดหมู่สัตว์หิมพานต์อย่างไร
--------------------------------------------------------------------------------
นายช่วง สเลลานนท์ ประพันธ์หนังสือ “ศิลปไทย” ในปีพ.ศ. ๒๔๙๔ และได้มีการกล่าวถึงสัตว์หิมพานต์ ท่านได้จำแนกสัตว์หิมพานต์เป็น ๓ ประเภทคือ สัตว์ทวิบาท (สองขา) สัตว์จตุบาท (สี่ขา) และ ประเภทปลา
ในเวปไซต์นี้ เราได้เปลี่ยนวิธีการจำแนกสัตว์หิมพานต์ ตามคงามคล้ายคลึงทางสรีระภาพของสัตว์ เพื่อให้ผู้อ่านจดจำได้ง่ายขึ้น
เราได้จำแนกสัตว์หิมพานต์เป็น ๑๕ ประเภทดังนี้
เปิดเวบนี้ ครับ รายละเอียดครบครัน http://www.himmapan...._creatures.html
+ สัตว์ประเภทกิเลน
- กิเลนจีน
- กิเลนไทย
- กิเลนปีก
+ สัตว์ประเภทกวาง
- มารีศ
- พานรมฤค
- อัปสรสีหะ
+ สัตว์ประเภทสิงห์
- บัณฑุราชสีห์
- กาฬสีหะ
- ไกรสรราชสีห์
- ติณสีหะ
- เกสรสิงห์
- เหมราช
- คชสีห์
- ไกรสรจำแลง
- ไกรสรคาวี
- ไกรสรนาคา
- ไกรสรปักษา
- โลโต
- พยัคฆ์ไกรสร
- สางแปรง
- สกุณไกรสร
- สิงฆ์
- สิงหคาวี
- สิงหคักคา
- สิงหพานร
- สิงโตจีน
- สีหรามังกร
- เทพนรสีห์
- ฑิชากรจตุบท
- โต
- โตเทพสิงฆนัต
- ทักทอ
+ สัตว์ประเภทม้า
- ดุรงค์ไกรสร
- ดุรงค์ปักษิณ
- เหมราอัสดร
- ม้า
- ม้าปีก
- งายไส
- สินธพกุญชร
- สินธกนธี
- โตเทพอัสดร
- อัสดรเหรา
- อัสดรวิหค
+ สัตว์ประเภทแรด
+ สัตว์ประเภทช้าง
- เอราวัณ
- กรินทร์ปักษา
- วารีกุญชร
- ช้างเผือก
+ สัตว์ประเภทวัวควาย
- มังกรวิหค
- ทรพี / ทรพา
+ สัตว์ประเภทลิง
- กบิลปักษา
- มัจฉานุ
+ สัตว์ประเภทสุนัข
+ สัตว์ประเภทนก
- อสูรปักษา
- อสุรวายุพักตร์
- ไก่
- นกการเวก
- ครุฑ
- หงส์
- หงส์จีน
- คชปักษา
- มยุระคนธรรพ์
- มยุระเวนไตย
- มังกรสกุณี
- นาคปักษี
- นาคปักษิณ
- นกหัสดี
- นกอินทรี
- นกเทศ
- พยัคฆ์เวนไตย
- นกสดายุ
- เสือปีก
- สกุณเหรา
- สินธุปักษี
- สีหสุบรรณ
- สุบรรณเหรา
- นกสัมพาที
- เทพกินนร
- เทพกินรี
- เทพปักษี
- นกทัณฑิมา
+ สัตว์ประเภทปลา
- เหมวาริน
- กุญชรวารี
- มัจฉนาคา
- มัจฉวาฬ
- นางเงือก
- ปลาควาย
- ปลาเสือ
- ศฤงคมัสยา
+ สัตว์ประเภทจระเข้
- กุมภีร์นิมิต
- เหรา
+ สัตว์ประเภทปู
+ สัตว์ประเภทนาค
+ สัตว์ประเภทมนุษย์
- คนธรรพ์
- มักกะลีผล
#2
โพสต์เมื่อ 06 April 2006 - 06:48 PM
และภาพก็สวยมากค่ะ
อนุโมทนาบุญค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 06 April 2006 - 07:20 PM
#4
โพสต์เมื่อ 06 April 2006 - 07:23 PM
- คนธรรพ์
- มะกาลีผล
มะกาลีผล?
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#5
โพสต์เมื่อ 07 April 2006 - 09:51 AM
ตัวสะกดที่ถูกต้อง คือ "มักกะลีผล" นะครับ
#6
โพสต์เมื่อ 07 April 2006 - 10:11 AM
ภาพสวยดีค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 08 April 2006 - 01:07 AM
นกหัสดีลิงค์ พาหนะสู่สวรรค์ ประเพณีลากปราสาท ล้านนา
จากพงศาวดารโยนก ตอนหนึ่ง จุลศักราช 940 ปีขาล สัมฤทธิศก เดือนอ้าย ขึ้น 12 ค่ำ
.....นางพระญาวิสุทธิเทวี....
ต๋นนั่งเมืองนครพิงค์...
ถึงสวรรคต พระญาแสนหลวงจึงแต่งการพระศพ
ทำเป๋นวิมานบุษบกตั้งอยู่บนหลัง....
นกหัสดินทร์ตั๋วใหญ่...
แล้วฉุดลากไปด้วยแฮงจ๊างคชสาร......
จาวบ้าน จาวเมืองเดินตวยก้น.....
เจาะก๋ำแปงเมืองออกไปตางต่งวัดโลกโมฬี....
และทำก๋ารถวายพระเพลิง ณ ตี้นั้น.....
เผาตึงฮูปนกหัสฯและวิมานบุษบกนั้นตวย.....
นกหัสดีลิงค์ เป็นนกใหญ่ตัวโตเท่าช้าง เรียก ชื่อตามเจ้าของภาษาว่า
หัตถิลิงคะสะกุโณ เรียกตามภาษาของเราว่า นกหัสดีลิงค์
ตามประวัติศาสตร์ล้านนาที่เล่าขานต่อกันมาว่า นกหัสดีลิงค์เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์
ที่มีความพิเศษคือมีเพศเพียงดั่งช้าง เป็นนกที่มีหัวเป็นช้าง มีหางเป็นหงส์
มีพละกำลังดั่งช้างเอราวัณ ๓-๕ เชือกรวมกัน
ซึ่งเป็นสัตว์คู่บารมีของกษัตรา เจ้าเมืองผู้มีอำนาจบารมีสูง
โดยความเชื่อของชาวล้านนามาแต่อดีตกาล
นิยมสร้างปราสาทนกหัสดีลิงค์เพื่อบรรจุศพของกษัตริย์เจ้านายฝ่ายเหนือ
รวมถึงพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่มรณภาพลง
เพื่อให้พิธีศพมีความสง่างาม สมฐานะบารมี
และเป็นการส่งดวงวิญญาณไปสู่ชาติสรวงสวรรค์ชั้นพรหมโลก เทวโลก แต่ในปัจจุบันปราสาทนกหัสดีลิงค์นิยมใช้ในพิธีศพของพระเถระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น
เมื่อพระสงฆ์ถึงแก่มรณภาพ จะจัดศพอย่างสมเกียรติ คือทำ ปราสาท ใสโลงศพ วางบนบุษบก
ทำเป็นเรือนยอดและตั้งบนหลังนกหัสดีลิงค์ ทำแม่เรือวางปราสาทสำหรับลากไปสู่สุสาน
ในวันทำศพคนจะมากันมากมาย เพราะถือว่าเป็นบุญกุศลอย่างสำคัญ
การลากศพนั้น....นิยมแก่เจ้านายในแผ่นดินล้านนา เจ้าผู้ครองนคร...เจ้านายบุตรหลาน....
และพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ แก่พรรษาที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ
โดยรูปลักษณะของตัวนกหัสดีลิงค์นั้น มีรูปร่างโครงสร้างส่วนหัวและลำตัวทำจากโครงไม้
ตัดแต่งกระดาษเป็นลวดลายทำเป็นเกล็ด
ส่วนหัวช้าง มีความพิเศษของการเคลื่อนไหวไปมาได้
โดยชิ้นส่วนคอและหัวต้องเคลื่อนไหวหมุนไปมาได้ ใบหู สามารถพับกระพือได้
ส่วนงวงทำจากผ้าเย็บเป็นทรงกระบอก เลียนแบบงวงช้าง
มีเชื้อกร้อยอยู่ด้านในสำหรับดึง เคลื่อนไหวได้
ดวงตา ต้องมีลักษณะกลมมน ขนตายาวสวย กะพริบได้ เหมือนมีชีวิตจริงๆ
ภาพประกอบ : นกหัสดีลิงค์ อัญเชิญสรีระนักรบกองทัพธรรม
พระครูวรธรรมโชติ หรือท่านครูบาอินตา
อายุ 61 ปี 41 พรรษา เจ้าอาวาสวัดตองกาย
ต. หนองควาย อ.หางดง เชียงใหม่
คำบรรยายภาพ :
รอบปราสาท 4 ทิศ จะมีเสาไม้ไผ่สูงสุดลำ ขึงผ้าสังฆาฏิ (ผ้าพาดบ่า) ของพระสงฆ์ผู้มรณภาพ
มีความหมายแทนศีลของพระสงฆ์ เรียกว่าจตุปริสุทธศีล
เสาต้นที่ ๑ หมายถึง ศีลทั้ง4 ข้อ คือ
ปาติโมกข์สังวร อินทรียสังวร อาชีวะปริสุทธศีล ปัจจัยสัจนิจศีล
หลังการจุดไฟประชุมเพลิงเผาศพปราสาท แล้วศรัทธาญาติโยม
รวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาของพระมหาเถระที่มรณภาพจะรอแย่งผ้าเพดาน
ที่ขาดปลิวลงมาถึงพื้นเพื่อเก็บเป็นเครื่องสักการบูชา เป็นวัตถุมงคลไว้ติดตัว
ไฟล์แนบ
#8
โพสต์เมื่อ 10 April 2006 - 02:08 AM
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#9
โพสต์เมื่อ 10 April 2006 - 04:28 AM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
#10
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 01:07 AM
#11
โพสต์เมื่อ 13 April 2006 - 01:59 AM
น้าจี้
#12
โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 09:48 PM
เพราะฉะนั้นขอยืนยันตามหลวงพ่อครับว่า มักกะลีผล ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็นผลไม้
#13
โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 11:21 PM
DMC The only one
ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก
ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี้แหละเป็นตัวสำเร็จ
ผลไม้ดกนกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย
คติธรรม พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
#14
โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 03:31 PM
เขาไม่ได้เรียกว่านารีผลหรอกหรือคะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที