ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

โปรแกรมหน้าวิญญานอาฆาต


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 05 November 2008 - 11:15 AM

เมื่อวานนี้เพื่อนผมชวนไปดูหนัง เนื่องจากผมไม่ได้ไปดูมาหลายเดือนแล้ว เลยตกลงปลงใจไปกับเพื่อน เพื่อนผมก็พาไปดู"โปรแกรมหน้าวิญญานอาฆาต" ดูมัน เป็นคนกลัวผีแล้วดันชวนไปดูหนังผี - -" แต่เนื่องจากเป็นหลานหลวงปู่ เป็นลูกศิษย์ครูไม่ใหญ๋ และเป็นหลานคุณยาย จึงไม่มีความกลัวเกิดขึ้นในใจแม้แต่น้อย แต่กลับมีคำถามเกิดขึ้นในใจแทน ระหว่างที่ดูไปก็นั่งคิดไปว่า

1. คนที่ตายพร้อมความอาฆาตจิตใจย่อมต้องเศร้าหมองและย่อมต้องมีอบายเป็นที่ไป แต่จะมีบ้างหรือไม่ที่เป็นเหมือนอย่างในหนัง คือไม่ไปอบายแต่คอยตามทวงความแค้นคนที่เขาอาฆาตอยู่
2. สำหรับวิญญานที่ทวงแค้นได้สำเร็จ น่าจะเป็นการก่อบาปเพิ่ม วิญญานนั้นจะลงสู่อบายในทันทีที่ทวงแค้นสำเร็จหรือไม่
3. วิญญานที่มีความอาฆาตแค้นอยู่ หากเป็นคนที่รู้จักและเคียดแค้นเรา หากเราอุทิศส่วนบุญไปให้ เขาจะได้รับหรือไม่ได้รับส่วนบุญนั้นๆ จะเป็นไปได้หรือไม่หากเขาแค้นเราจนปฏิเสธส่วนบุญที่เราอุทิศไปให้(หนังผีที่เกี่ยวกับความแค้นจะมีบ่อยที่ผีปฏิเสธบุญที่แผ่ไปให้) แล้วหากเขาปฏิเสธบุญที่เราอุทิศไปให้จะกลับคืนมาที่เราหรือเป็นของเขาและรอส่งผลที่ยมโลก (คงไม่งงกันนะครับ)
4. เคยได้ฟังหลายเคสจากครูไม่ใหญ่ ที่ว่าวิญญานที่อยู่ภพภูมิเดียวกับเรา บางทีก็นึกสนุกมาแกล้งเราดลบันดาลให้เราเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ จนเกิดความกลัว อยากทราบว่าวิญญานที่มาแกล้งเราเล่นเช่นนั้น จะเป็นการทำผิดศีลหรือไม่ ถ้าเป็นการผิดศีลบาปย่อมต้องเกิดจริงไหมครับ แล้วจะไปอบายในทันทีเลยหรือเปล่า ที่ผมสงสัยเพราะอย่างที่ทุกท่านรู้กันว่า วิญญานที่อยู่ภพภูมิเดียวกับเราศ่วนใหญ่จะเป็นสัมพเวสีซึ่งวิญญานเหล่านี้เป็นจำพวกที่บุญก็ทำ ก็สร้าง หรือพูดง่ายๆคือบุญบาปเท่ากันจริงไหมครับ หากเขาทำความดีน่าจะมีผลบุญส่งให้เขามีสภาพที่ดีขึ้น และหากเขาทำบาปก็น่าจะลงสู่อบายทันที

ที่ผมสงสัยมีเยอะกว่านี้ แต่เนื่องจากผมมีเวลาไม่มาก เอาแค่4ข้อก่อนแล้วกันนะครับ อยากให้พี่ๆเพื่อนๆช่วยวิเคราะห์ไขความกระจ่างทีนะครับ ^ ^

แต่ถ้าWMเห็นว่าไม่เหมาะสม ลบได้เลยนะครับ


1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#2 Crystar Boyz

Crystar Boyz
  • Members
  • 107 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 November 2008 - 12:06 PM

พี่ถามคำถามที่ผมไม่คิดว่าอยากรู้
แต่ถามได้ชวนติดตามมากเลยครับ

^^

เดี๋ยวมีคนตอบแล้วจะมาอ่านต่อนะครับ

#3 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 05 November 2008 - 12:37 PM

1. มีครับ เพราะบาปจากการอาฆาตนั้น เป็นมโนกรรม คือ ให้ผลอ่อนที่สุดเมื่อเทียบกับ กายกรรม และวจีกรรม ดังนั้น วิญญาณที่ถูกฆ่าตาย และไม่มีวิบากกรรมหนัก อีกทั้งยังไม่หมดอายุขัย จึงยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาพาตัวไป และบาปก็ยังไม่พอลงนรก ดังนั้น จึงไปเกิดเป็น ภูติ และยังสามารถวนเวียนไปตามอาฆาตผู้อื่นได้ครับ
ศึกษาเรื่องนี้ได้จาก Case Study เรื่องไนท์คลับ ครับ
http://www.dmc.tv/pa...2547-10-12.html

2. หากการทวงแค้น หมายถึง เอาชีวิตล่ะก็ ใช่ครับ แต่หากการทวงแค้น เป็นเพียงต้องการให้เขาเข้าคุก อย่างนี้ถึงเป็นกรรมก็เบาบางครับ ดังเคสเรื่อง ไนท์คลับ

3. แม้เขารับบุญแล้ว แต่ยังคงแค้นอยู่ ก็เป็นไปได้ครับ ดังเช่น พระเทวทัตแค้นพระพุทธเจ้ามาจนชาติสุดท้าย แม้พระพุทธเจ้าอุทิศบุญ แผ่เมตตาให้ พระเทวทัตก็ไม่หายแค้น จนชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าทีเีดียว ส่วนบุญที่อุทิศ หากไปไม่ถึงผู้รับ เพราะผู้รับไม่อนุโมทนา ก็จะกลับมาหาผู้ส่ง หรือ อาจไปคอยในยมโลก แล้วแต่กรณี

4. การแกล้งก็มีหลายอย่าง หากเป็นหน้าที่เช่น เขามีหน้าที่เฝ้าสมบัติ ใครมาขุด เขาก็แกล้งให้เห็นภาพลวงตาต่างๆไปบ้าง อย่างนี้ผมว่า เขาไม่มีกรรม เพราะเป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา แต่ถ้าแกล้งเล่นสนุกๆ ซึ่งก็มี ก็ย่อมเป็นกรรม แต่ก็ไม่หนักหนาอะไร เพราะไม่ได้มีเจตนาทำร้าย
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#4 ติงตังมาว

ติงตังมาว
  • Members
  • 58 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 November 2008 - 02:40 PM

ออ...เหรอ omg_smile.gif
สา..ธุ

#5 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 November 2008 - 08:17 PM

QUOTE
ส่วนบุญที่อุทิศ หากไปไม่ถึงผู้รับ เพราะผู้รับไม่อนุโมทนา ก็จะกลับมาหาผู้ส่ง

มีด้วยหรอคะ เหมือนส่งไปรษณีย์เลย ฟ้าร้างว่า ไม่มีการส่งกลับนะคะ ผู้ส่งบุญให้ อย่างไร ก็ได้รับบุญอยู่แล้ว แต่ถ้าฝ่ายผู้รับไม่อนุโมทนาบุญ บุญนั้นก็สูญไป ไม่น่ามีการตีกลับนะคะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#6 Nu~NamMonz~

Nu~NamMonz~
  • Members
  • 107 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 November 2008 - 11:42 AM

QUOTE
เหมือนส่งไปรษณีย์เลย

มาขำ นิดนึงค่ะ

แต่กระทู้นี้ดีจริงๆค่ะ มีหลายเรื่องที่อยากรู้ รวมอยู่ในกระทู้นี้กระทู้เดียวเลย ค่ะ


หนูชื่อ "น้องคิดดี" ค่ะ ^_^

#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 06 November 2008 - 12:34 PM

ตอบน้องฟ้าร้าง

เคยฟังครูไม่ใหญ่ว่าไว้ใน Case Study น่ะครับ คือ กรณีอุทิศบุญไปให้ผู้ที่อยู่มหานรกเขาจะไม่ได้รับบุญ บุญนั้นจะไปคอยอยู่ในยมโลก

แต่ถ้ากรณีอุทิศบุญให้ผู้รับ แล้วผู้รับกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกรอบ ซึ่งผู้รับก็จะรับบุญไม่ได้ บุญนั้นก็จะย้อนกลับมาหาผู้อุทิศ เพียงแต่จำไม่ได้ว่า Case ไหน ลองค้นรอบแรกดูก็ยังหาไม่เจอ เดี๋ยวจะลองค้นใหม่อีกที
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 ความสุข....อยู่ที่ใจนะครับ

ความสุข....อยู่ที่ใจนะครับ
  • Members
  • 42 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:นวมินทร์ กทม.

โพสต์เมื่อ 06 November 2008 - 04:06 PM

อย่างนี้เองเหรอครับ

อือแต่ส่วนตัวผมจะไม่ชอบดูหนังผีเพราะรู้สึกดูแล้วมันทำให้ใจเราไม่ใสแถมบางเรื่องดูแล้วหมองเลยอ่ะครับ มันก็จะเป็นผลเสียกะเราเองนะครับ แนะนำว่าอย่าไปดูดีที่สุดครับ

#9 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 06 November 2008 - 04:55 PM

อ่ะนะ นรอ.เคยเข้าวัด ตอนแรกก็คิดว่าใครมาโพสต์เรื่องไร้สาระ
สุดท้ายอ่านจนหมดแล้ว ก็เลยคลิกเข้ามาอ่าน อืมมนะ...ก็มีสาระ

แต่ว่าไม่คิดตามด้วยล่ะค่ะ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#10 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 November 2008 - 10:08 PM

เหมือนกันค่ะ...ตอนแรกนึกว่าโพสเรื่องอะไรเนี่ย หนังผี เข้ามาอ่านก็มีสาระอยู่นะ

#11 WB

WB
  • Members
  • 267 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 November 2008 - 09:30 PM

หนังเรื่องนี้ไร้ซึ่งสาระอันสิ้นเชิง 5555555555555555555555555555 ถ้าสังเกตุดีๆ ผีตอนแรกกะตอนที่เห็นเป็นรอยเท้าสีดำๆ ขาจัหักคนละข้างกัน 555 ขำดี แต่ผมให้ credit costume นะครับ แต่งหน้าผีน่ากลัวดี


ขอถามคุณหัดฝันเพื่อความกระจ่างอีกรอบอะครับ
คือว่า วิญญาณอาฆาตที่เป็นผลมาจากมโนกรรมนั้น ผมยัง งง ว่า ทำไมวิญญาณเหล่านั้นจึง... ใช้ศัพท์ไม่ถูก ... (ขอใช้คำว่า เฮี้ยน แล้วกันนะครับ) ทำไมวิญญาณเหล่านั้นจึงเฮี้ยนขนาดฆ่ามนุษย์ได้หละครับ ถ้าวิญญาณนั้นอยุ่วิทยาธรก็ไม่สงสัยเลย แต่ถ้าเป็นวิญญาอาฆาตปกติ สามารถที่จะสัมผัส หรือว่า มีกายหยาบพอที่จะฆ่ามนุษย์ได้เลยหรอครับ (พูดง่ายๆ ผมสงสัยว่า วิญญาณนั้น มีกายหยาบพอจะสัมผัสมนุษย์ได้เลยหรอครับ)

#12 พี่ต่อใหญ่

พี่ต่อใหญ่
  • Members
  • 65 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 07 November 2008 - 11:30 PM

ก็จะฆ่าได้เฉพาะคนที่กรรมปาณาติบาตอย่างแรง ซึ่งมีกรรมเพียงพอให้ตายได้ ก็จะฆ่าได้ และกายละเอียดที่จะฆ่าใครได้ ต้องมีกำลังบุญ ถ้าเป็นพวกเสวยวิบากร้องโอย ๆ ก็แค่ตัวเองยังเอาไม่รอดคงไม่สามารถทำอะไรใครได้ และเมื่อใช้บุญของตัวฆ่าคนอื่นก็จะได้บาป เมื่อกรรมส่งผลก็จะต้องไปอบายเหมือนกัน

#13 Meawmeow

Meawmeow
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 01:30 AM

กระทู้นี้แปลกดี ถ้าความรู้ใหม่ๆเพิ่ม อนุโมทนาผู้ตอบด้วยนะคะ

#14 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 12:36 PM

ขอบคุณ คุณมหาต่อ ที่ช่วยตอบแทนให้นะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร