Jump to content


Photo
- - - - -

ทำไมนั่งสมาธิแล้วหัวตื้อๆหูอื้อ


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
7 replies to this topic

#1 นางสาว โมทนา

นางสาว โมทนา
  • Members
  • 15 posts

Posted 11 June 2009 - 12:45 PM

เรานั่งสมาธิแล้วตั้งจิตนิมิตที่รูปภาพองค์เทพก่อนแล้วเมื่อผ่านไปก็ไม่เห็นนิมิตแล้วเราก็เพ่งไปที่ความว่างผ่านไปสักพัก น้ำลายเราก็จะไหลพยายามจะหุบปากก็แต่เดี๋ยวก็อ้าอีก แล้วสัดพักก็เห็นแสงสว่างมาแล้วก็ไปแล้วก็มาอีก เราจะรู้สึกหนักๆแล้วก็หายใจไม่ค่อยออก เหมือนมึนๆนะคะ อย่างนี้เขาเรียกว่าถึงขั้นไหนแล้วคะ แล้วอาการอย่างนี้เกิดจากอะไรคะ ใครมีประสบการณ์ช่วยบอกเราหน่อยเถอะค่ะ ขอโมทนาบุญด้วยนะคะ

#2 ลูกอินทรีย์หัดบิน

ลูกอินทรีย์หัดบิน
  • Members
  • 369 posts

Posted 11 June 2009 - 05:45 PM

ถ้านั่งแล้วรู้สึกไม่สบายนี่คงไม่ใช่แล้วหละครับ

ถูกวิธีต้อง ง่าย ๆ สบาย ๆ รู้สึกเป็นสุขอยากนั่งอยู่แบบนี้ นาน ๆๆ
จนรู้สีกว่าแป๊ปเดียว ทั้งที่ผ่านไปหลายชั่วโมง

ลองโหลดไป ฝึกดูนะครับ ปิดไฟมืด ๆ สลัว ๆ เปิดแอร์ให้เย็นสบาย แล้วทำตามเสียง

http://www.kalyanami...d...d=2&page=10

นำนั่งสมาธิครับ



http://www.dmc.tv/fo...a...ost&id=6466 เพลง สบาย สบาย

รายการชีวิตในสังสารวัฏ

ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม

http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html


หนังสือเรียนธรรมะ DOU           http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html

GL 101 จักรวาลวิทยา                            http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา                              http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม                             http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์           http://book.dou.us/gl305.html


#3 ส.เสือ

ส.เสือ
  • Members
  • 7 posts

Posted 11 June 2009 - 05:58 PM

ผมปฏิบัติ ธรรมมาเกือบ 3 ปี ก็มีประสบการณ์ บ้าง
#นั่งสมาธิ แล้วอ้าปาก บางครั้งรู้สึกน้ำลายไหลด้วย เป็นบ่อยๆช่วงแรกๆ ก็พบ ว่า เป็นอาการหลับไปแล้ว
#นั่งสมาธิ แล้วเห็นแสงสว่าง เช่น เห็นจุดเล็กๆ ขนาดเท่ากับ ดาวบนท้องฟ้า แล้วก็หายไป เพราะ ไปจับภาพด้วยการเพ่งที่จุดสว่างนั้น
#เห็นแสงสว่าง เหมือนตอนฟ้า สางๆ เช้ามืด แต่ก็หายไป เพราะ ใจร้อน คิดว่า จะต้องเห็นดวง หรือ องค์พระแล้วแน่เลย จึงไปเร่ง
#นั่งแล้วตัวหนัก แน่นๆ รู้สึกไม่ค่อยสบาย เพราะ ไปบังคับใจนิดๆ ให้อยู่กลางท้อง

เคยได้มีโอกาสถาม ผู้ที่มีประสบการณ์เข้าถึงธรรมมานาน(เป็นใครไม่ขอเอยนามนะครับ)

สรุปมาว่า
เป็นสมาธิแล้ว แต่ ผม คุ้นกับ ลุ้น เร่ง เพ่ง จ้อง จึงแย่ๆอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ของคนทั่วๆไป
แต่เคยเห็นองค์พระ อยู่หลายครั้ง
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไม่นานมานี้ รู้สึกประทับใจกว่าทุกครั้ง
ประมาณ ตี 2กว่า ก่อนนั่ง รู้สึกเบิกบาน เพราะ ความกังวลเรื่องธุรกิจการงานบรรเทาลงมากๆ ก็เลยไปนั่งเล่นๆ บนที่นอน
โดยไม่ได้นึกอะไรเลย ไม่ทำอะไรทั้งนั้น ไม่วางใจ ไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ เพียงแต่นั้งเฉยๆ มีแต่ความสบายใจ กะว่า จะนั่งไปเรื่อยๆแล้วก็หลับไปเลย ความรู้สึกก็ยังไม่รู้สึกง่วงนอน
พอนั่งไปประมาณสักพัก
รู้สึก ตัวโล่งๆ เบา ก่อนแล้วเริ่มเห็นแสงสว่าง ก็เฉยๆเพราะ รู้สึกไม่อยากเห็นอะไรในตอนนั้น กะว่าจะนั่งไปเรื่อยๆจนหลับ
พอสักพัก ก็รู้สึกถูกดูดไปเรื่อยๆ จนหูเริ่มอื้อๆ มีเสียงหวีดๆ ช้าๆจนเริ่มเร็วขึ้น ดังหวีดๆๆๆๆๆๆๆ จนตอนนั้นมีความคิดอยู่เพียงอย่างเดียวว่า จะเป็นอะไรเกิดอะไรขึ้นๆ ก็ชั่งเถิด เพราะไม่รู้จะทำอะไรต่อไป

แต่ขณะนั้น มีความรู้สึก สนุกมากๆ มีความสุขประหลาดๆ มันบอกไม่ถูกว่าเป็นอย่างไร รู้สึก รวมๆ ว่า มีความสุข สนุก และมันส์มากๆ

สักพักก็ สว่างโล่ง เห็นดวงใสๆผุดผ่านเร็วมากๆ แล้วก็ไปเห็นองค์พระใสๆ เหมือนที่ หลวงพ่อจำลองมาให้ดู นั้นแหละครับ
ในใจ ก็รู้สึกเฉยๆ เห็นองค์พระแล้วก็เฉยๆ จนสักพัก ก็ นึกตื่นเต้นขึ้นมาได้ว่า
อ้าว!!! เราเห็นองค์พระ แล้วนี่ สวยจังเลย แล้วท่านก็ค่อยๆหายไป ผมลืมตาขึ้นแล้วก็ ดีใจมากๆ ลงไปกราบเท้าแม่ที่ท่านนอนอยู่ในห้อง แล้วก็ไปนอนกอดท่าน ท่านก็ถามว่าเป็นอะไร ผมก็ตื่นเต้นอยู่ในใจ บอกแม่ว่า เมื่อสักครู่ นั่งสมาธิ แล้วเห็นองค์พระท่านก็ สาธุ ถามว่าเป็นยังไง ผมก็เล่าให้แม่ฟังแบบที่เล่ามานี้ละครับ
ผมก็ ดีใจมาก จนนอนไม่หลับ ไปนั่งต่อ แต่ก็ไม่เห็นอะไรอีก เพียงแค่โล่งๆ เบาๆ สว่างสลัวๆ นั่งจนหลับไปเลย
ตื่นขึ้นมา นึกว่าจะตื่นสาย กลายเป็น 6 โมงกว่าแบบที่เคยตื่น แต่กลับสดชื่นยิ่งกว่า นอนมาหลายชั่วโมง

ยังมีอีกหลายประสบการณ์ แต่ยังไม่ขอเล่านะครับ เพราะเป็นประสบการณ์ที่ยังไม่มั่นคง เป็นเพียงแค่ กุศลนิมิตร เท่านั้น

ยังไม่ได้ไปเป็นองค์พระ หรือเข้าถึงพระธรรมกายอะไร
เพราะตอนนี้ โดนมรสุมชีวิต แบบพูดไม่ออกบอกไม่ได้ ก็เลยมืดๆ สว่างๆ อยู่ แต่ก็นั่งทุกวันครับ ฝึกฝนทุกอริยบท แบบที่หลวงพ่อท่านสอนนั้นแหละครับ

ยังไงๆก็นั่งไปเถิดครับ นั่งบ่อยๆ เดี๋ยวประสบการณ์ก็จะมีมาให้รู้เห็นเองครับ บางทีก็ง่ายจนน่าแปลกใจ เพราะไม่ต้องทำอะไรเลย เฉยๆ นิ่งๆ ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น เดี๋ยวก็จะดีได้เห็นเองครับ

เอาบุญแบ่งให้นิดๆนะครับ ถ้าอยากได้บุญเต็มๆ ก็นั่งเองนะครับ

#4 นางสาว โมทนา

นางสาว โมทนา
  • Members
  • 15 posts

Posted 11 June 2009 - 07:57 PM

โมทนา สาธุ กับกัลยาณิมิตรทุกท่านนะคะ เรามีกำลังใจขึ้นเยอะเลย หรือมีคำแนะนำอะไรที่ดีอีกจะขอบพระคุณมากเลยค่ะ

#5 tor

tor
  • Members
  • 356 posts
  • Location:BKK
  • Interests:meditation

Posted 11 June 2009 - 08:09 PM

อันนี้เป็นขั้นเบื้องต้นๆ เลยครับ สมัยผมนั่งแรกๆ ก็เห็นยุบยับไปหมดแบบนี้แหละครับ ต้องใจเย็นๆ นิ่งๆ อย่าไปสนใจเดี๋ยวมันก็จะหายไปเอง แล้วจะค่อยๆ สบาย กว้างโล่ง สว่างๆ ครับ

ที่คุณเห็นน่ะเห็นจริง แต่สิ่งที่คุณเห็นมันยังไม่ใช่ของจริงครับ อดทนต่อไปเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้นะครับ สาธุ

อัตตาหิ อัตตโนนาโถ = กายเป็นที่พึ่งแห่งกาย

#6 จอมเทพreturn

จอมเทพreturn
  • Members
  • 33 posts

Posted 11 June 2009 - 11:26 PM

น้ำลายไหล555 เป็นบ่อยเหมือนกันครับ แต่เขาบอกว่าการที่เกิดอาการเช่นนี้เพราะสาเหตุมาจาก สติหย่อนครับ แก้ง่ายๆโดยการเอามือฟลุ๊บรองรับน้ำลายที่ไหลหยาดเยิ้มไว้ด้วยความไวแบบมืออาชีพ ( อะล้อเล่น ) เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ให้เราตั้งหลักใหม่ครับ สติหย่อนก็ดึงสติกับสบายกลับมา แล้วทำให้ทั้งสองอย่างนี้ มีอย่างละ50% คือสติก็ตั้งไว้ที่50%สบายก็ตั้งไว่ที่50% อย่าให้มีอย่างใดอย่างหนึ่งเลื่อมลั้มกันนะครับ ถ้าสติเยอะไปมันก็ตึง ถ้าสบายเยอะไป มันก็หลับน้ำลายไหลอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการนั่งหลับก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะครับ บางคนเริ่มต้นนั่งปั๊บก็ตั้งท่าหลับปุ๊บ โดยให้เหตุผลง่ายๆว่า อ่ะผมทำตามหลักวิชานะ ก็หลวงพ่อบอกว่าไง ง่วงก็หลับ ฟุ้งก็ลืมตาม่ายช่ายเหรอ เอ่อก็ใช่นะ 555 เล่นไปซะนานกว่าจะยืดตัวขึ้นมาตั้งหลักใหม่ได้ เอ่าก็ไม่ว่ากัน ค่อยๆปรับๆกันไปก็แล้วกัน แต่ก็อย่ากันปรับนานไปนะครับ

ส่วนที่เจ้าตัวบอกว่า นั่งไปแล้วรูสึกว่าหายใจม่ายค่อยออกนั้น สันนิฐานว่า ไม่ใช่หายใจไม่ออกหรอกครับ แต่เป็นเพราะว่าคุณรู้สึกว่าไม่ได้หายใจซะมากกว่า เพราะนั่นมันเป็นอาการเริ่มต้นของประสบการณ์ครับ เมื่อใจเราเริ่มรวมหยุดเป็นจุดเดียวกัน อาการตัวยืดดด ตัวขยาย หรือเหมือนว่าไม่ได้หายใจนี้ก็จะค่อยๆเกิดขึ้นมาเอง ให้เราแค่ทำเฉยๆอย่าตามรู้ตามลุ้นประสบการณ์ก็เป็นพอ อุ้ย ว่าจะตอบสั้นๆนะเนี่ย ไปดีกว่า
"กุญแจวิเศษ"

#7 usr29468

usr29468
  • Members
  • 99 posts

Posted 12 June 2009 - 08:12 PM

ประสบการณ์ดีที่สุดของผมเหมือนเห็นองค์พระแต่ภาพที่เห็นจางมากเหมือนท่านอยู่ในหมอก แต่ที่เห็นบ่อยๆก็สว่างๆอาการโล่งๆ นึกว่าใครเปิดไฟทุกทีเลยเพราะจะชอบนั่งตอนกลางคืนก่อนนอน วันละไม่เกิน 30 นาทีแล้วก็ขี้เกียจหลับไปเฉย ตื่นขึ้นมายังงงกับตัวเองทุกทีเลยว่า ตัวเองอยู่ในท่านอนแล้วได้อย่างไร 555 biggrin.gif
แต่ที่เคยบ่อยมากๆ ก็
นั่งแล้วน้ำลายไหลเป็นประจำช่วงนั่งแรกๆ ตอนนี้ก็ยังเป็นบ้าง เป็นอาการหลับแน่นอน ไม่เป็นสมาธิแน่นอน พันล้าน% ต้องแก้ไข เพราะผมเองชอบหลับเป็นประจำ แก้ไขแล้วก็ยังขี้เกียจอยู่เหมือนเดิม sad.gif
เพราะช่วงแรก นั่งแล้ว ตึงๆเครียดๆ แน่นๆ แบบคุณ นางสาวโมทนา เลยครับ
จนพระอาจารย์ท่านแนะนำว่า ต้อง สบายและมีสติควบคู่กันไปเท่านั้น อย่าปล่อยใจให้หลับ ถ้าทนไม่ไหวก็หลับไปสักพักก็ได้แล้วตื่นขึ้นมานั่งใหม่ ผมก็ทำตามครับ แต่หลับยาวกลายเป็นนอนหลับทุกทีเลย (ตัวขี้เกียจในตัวมันเยอะไปหน่อย) sick_smile.gif

สาธุกับผลการปฏิบัติธรรมของทุกๆคนครับ ก็เคยได้ยินประสบการณ์คล้ายๆแบบคุณ ส.เสือมาเหมือนกันครับ
แต่อยากรู้สึกบ้างจังเลยครับ ว่าความสุข แบบ สนุก มันส์ มันเป็นยังไงน้า นึกว่าจะมีแต่ความสุขอย่างเดียว ถ้ามันมี ความสนุกมันส์ ปนมาด้วยแบบนี้ก็น่าสนอย่างมากๆเลยครับ happy.gif
มีบุญมากจังเลยครับ แต่ผมก็จะขอมีบุญมากบ้างนะครับ laugh.gif
สาธุๆๆคราบบ cool.gif glare.gif

#8 ส.เสือ

ส.เสือ
  • Members
  • 7 posts

Posted 12 June 2009 - 09:16 PM

ประสบการณ์ ของผม เป็นแค่ กุศล นิมิตร เท่านั้นนะครับ ยังไม่ใช่การเข้าถึงธรรมมะ ของจริง (สงสัย คุณครูไม่ใหญ่ท่านช่วยให้มีประสบการณ์ดีๆมากกว่า)
เพราะ เท่าที่ ได้ทราบมา ท่านช่วยทุกคนในโลกให้ได้เข้าถึงธรรมอย่างง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมงทุก อนุวินาที ยิ่งลูกๆของท่านทั้งเขตใน,นอก และชาวDMCทั้งหลาย คอยตั้งใจปฏิบัติธรรมแบบนี้ ท่านก็จะช่วยเป็นพิเศษ
ผมเองก็ ขยันเป็นพักๆ ขี้เกียจก็บ่อย เพราะมั่วแต่ห่วงเงินห่วงงาน เลยแย่ๆอยู่ แทนที่จะปฏิบัติดีขึ้น กลับแย่ลงๆ จนบางทีก็ลืมตัว เพราะมั่วแต่ ขี้คุยขี้โม้มัวแต่เล่นๆกับธุรกิจการงานอยู่ หลังๆดีที่สุดก็ แค่โล่งๆ สว่างๆ
เคยได้ฟังธรรมมะของครูไม่ใหญ่ ท่านเล่าว่า
"มหาเศรษฐีของโลก ดอกเตอร์ทั้งหลาย มาหาหลวงพ่อ บอกถ้าแลกกันได้ก็อยากจะแลก(สิ่งที่พวกเขามีอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ทรัพย์สิน,ความรู้)
ขอเพียงได้เห็น พระธรรมกายแค่เพียงนิดเดียว"
ผมเองละอายใจอย่างมากๆ ก็เพราะยัง ห่วงเงิน ห่วงงาน อยู่เลย แต่กลับได้มีประสบการณ์การปฏิบัติธรรมดีๆ เกินคาดคิดไว้
เพราะท่านมีเมตตาอันจะนับประมาณมิได้แก่ พวกเราในหมู่คณะและชาวDMCทั้งหลาย อย่างมากมายมหาศาล มากกว่าพวก มหาเศรษฐีของโลก ดอกเตอร์ทั้งหลาย ที่มาพบท่าน เสียอีกนะครับ

ขออนุโมนทนากับทุกท่านครับ happy.gif