ช่วงนี้รู้สึกใจ ขุ่นๆ
#1
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 08:48 AM
พอมีข่าวตำรวจใช้ความรุนแรงกับประชาชน ในใจก็คิดจะเอาคืน แต่ก็พยายามห้ามใจไม่ให้คิดแบบนั้น ผมลองนั่งสมาธิแผ่เมตตาก็ ช่วยได้บ้าง
ไม่ทราบใครมีวิธีไหนแน่ะนำบ้างครับ จะได้เตรียมใจไว้รองรับบุญในวันที่ 10 นี้ ครับ
#2
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 09:24 AM
ตัวหนึ่ง ปิดปาก
ตัวหนึ่ง ปิดตา
ตัวหนึ่ง ปิดหู
นั่นแหละค่ะ ทำอย่างนั้น อย่าไปพูด ฟัง ดู
หากบังเอิญผ่านเข้ามาเอง โดยเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ สัมมา อะระหัง ไปเรื่อยๆ ให้ใจอยู่ที่คำนี้ มันเข้าได้ที่ละอย่างค่ะ กุศล กับอกุศล เราก็เอาแต่กุศลซิค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 09:34 AM
ต่อเรื่องที่ว่าใครผิดใครถูกนั้น โดยส่วนตัวแล้วผมไม่สามารถสรุปได้จากการดูทีวีหรืออ่านข่าวครับ เพราะหลายๆ ครั้งที่ผมพบว่าข้อมูลนำเสนอไม่ครบถ้วน เราจะทราบที่มาที่ไปได้อย่างแท้จริง หากเรารู้แจ้งเท่านั้น สำหรับเมืองไทยในวินาทีนี้ ผมมีสติมากขึ้นจริงๆ ในการรับฟังข้อมูลข่าวสาร ต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนว่าฝ่ายหนึ่งทำอะไร แล้วอีกฝ่ายทำอะไร เบื้องหน้า เบื้องหลังที่ซ้อนกันอยู่หลายๆ ชั้นเป็นอย่างไร เหตุการณ์ถึงเป็นอย่างนี้ อย่างไรก็ตามผมไม่ขอพาดพิงในที่นี้นะครับ
เราอาจจะคิดว่าฝ่ายนั้นถูก ฝ่ายนี้ผิด ซึ่งคนไทยในทุกระดับชั้นตอนนี้คงกำลังตกอยู่ในวังวนนี้ แต่ไม่ว่าเราจะเข้าใจถูก หรือเข้าใจผิด ที่แน่ๆ คือ กฏแห่งกรรม ไม่เคยทำงานผิดพลาด ผู้ใดที่คิดอกุศล พูดอกุศล ทำอกุศล ย่อมได้รับผลอันเป็นโทษ ไม่ว่าเขาจะอยู่ฝ่ายใดก็ตามครับ ปลูกถั่วย่อมได้ถั่ว ปลูกงาย่อมได้งา
ถึงท้ายที่สุด ผมอยากจะเชิญชวนคุณเจ้าของกระทู้ และสมาชิกเว็บบอร์ดมาปลูกบุญกุศลร่วมกันในวันที่ 10 ตุลาคม นี้ครับ อย่าลืมว่าใจเป็นธาตุสำเร็จ หากเราคิดถึงเรื่องที่หม่นหมอง ใจก็พลอยหม่นหมอง เปลี่ยนมาคิดเรื่องบุญกุศลไม่ดีกว่าหรือครับ ใจจะได้เป็นบุญเป็นกุศล หากใจขุ่นมัวนัก ก็ลองเดินออกไปบอกบุญบ้าง คุยธรรมะกับบุคคลรอบข้างบ้าง เพียงแค่นี้ความสุขก็จะกลับคืนมาครับ
#4
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 09:54 AM
คือตอนนี้ เป็นช่วงที่จะตักตวงบุญใหญ่บุญพิเศษ
ใครทำอะไรไม่ดี ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมคับ
ไม่สนใจ ไม่ฝักใฝ่ ไม่ค้นหา
จิตก็ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว
ตอนนี้เบิกบานมาก ตรึกคิดถึงแต่หลวงปู่และก็หลวงปู่เท่านั้น
รอคอยวันที่ สิบ อย่างเดียว
แล้วซักวันเมื่อ มาร อ่อนแรง
เรื่องที่ทำให้ขุ่นใจก็จะหมดไปแบบเป็นอัศจรรย์คับ
ผมมั่นใจในวิชชาธรรมกายของพระเดชพระคุณหลวงปู่คับ
เลือกเอา ใจใสๆ
#5
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 09:56 AM
๑. หาคลิปวิดีโอขำๆ มานั่งดูสิครับ จะเป็นเดี่ยวก็ได้ อะไรที่ดูแล้วฮาๆ ขำๆ และ ไม่ทำให้จิตตก
ย้ำ!! ว่าต้องไม่ทำให้จิตตก (ใน maxnettv.tv มีคลิปฮาเยอะครับ)
๒. แล้วก็หาเพลงฟังสบายๆ จะเป็นเพลงบรรเลงชุด Nivara ของคุณจำรัส เศวตาภรณ์ ให้ใจสบายๆ
๓. แล้วหาเสียงธรรมะของหลวงพ่อ ฟังใสๆ สบายๆ นั่งธรรมะ สบายๆ
๔. สวดสรรเสริญหลวงปู่ ขอให้ธรรมะคุ้มครอง อธิษฐานจิตตามใจปรารถนา
แล้วใจจะสงบขึ้นครับ...
ผมอนะวิธีข้อที่ ๑ เพราะผมทำแล้วได้ผลจริงๆ หัวเราะน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง ลืมเรื่องที่ทำใจขึ่นไปเลย นั่งธรรมะจะสบายใจขึ้น
#6
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 10:25 AM
หากใจขุ่น อย่าให้ขุ่นนาน ระงับความขุ่นนั้นไว้ ฝึกทุกวันเดี๋ยวต่อไปเราก็จะบังคับใจได้ครับ
ใจขุ่นแค่1นาที คนดีเขาก็เป็นกัน
หากใจขุ่นนานๆ จะพาลสุขภาพจิตเสีย
ใจขุ่น1ชั่วโมง ยังพอจรรโลงหัวใจ
หากใจขุ่นข้ามวัน นั่นมันบ้าแล้วพี่น้อง - -"ล
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#7
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 10:41 AM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#8
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 11:16 AM
#9
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 11:35 AM
#10
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 12:22 PM
1. งดการดูทีวี เว้น DMC
2. งดเข้าเว็บไซด์อื่นๆที่ไม่จำเป็น เว้น www.dmc.tv.
3. เข้มงวด หมั่นทบทวนการบ้าน 10ข้อของคุณครูไมใหญ่
เพราะมักจะมีเหตุให้ใจขุ่น ออกจากศูนย์ บางทีก็เจ็บป่วยกระทันหัน ฯลฯ
สงสัยมาร 5ฝูง ขยันทำงาน
#11
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 01:54 PM
#12
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 04:00 PM
#13
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 03:29 PM
เป้าหมายของเราจะติดตามหลวงปู่ไปทุกชาติ จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม
ถึงตอนนั้นเราก็สามารถช่วยเขาได้แล้วครับ
#14
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 07:07 PM
พระเดชพระคุณ หลวงพ่อท่านกล่าวไว้บ่อยๆ ว่า
ไม่มีเหตุการณ์ใด เป็นเหตุบังเอิญ ที่เกิดขึ้นมาในโลก
ทุกอย่าง เป็นผลมา จากการประกอบเหตุในอดีต ทั้งสิ้น..
กลุ่ม ที่มีความแตกต่าง ทางความคิด ความเชื่อ ทางการเมืองตอนนี้
ถ้าคิดเงียบๆ อยู่ในหมู่ของตน ก็อาจเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ถ้า รุนแรง ถึงกับออกมา ออกมาเย้วๆๆ จะทำลายล้างกัน
ก็คือ เขาผูกเวร กันมาข้ามชาตินั่นเอง
ผลัดกัน เป็นผู้กระทำ ผู้ถูกกระทำ..
แล้ว จะเข้าไปร่วมวง อาฆาตมาดร้าย กับพวกเขาทำไม..กันล่ะจ๊ะ
เหนื่อยไปเพื่ออะไร เพื่อใคร
แค่ดู ยังเหนื่อยไม่พอหรือ..
ทำใจเรา ให้เป็นอุเบกขาเถิด เรื่องของ มาร ทั้งนั้น
หน้าที่เรา คือทำใจ ให้เข้าถึง พระธรรมกาย
เท่านั้น..
แค่นั้น เวลาที่มี ยังไม่รู้ว่า จะทันไหม..จ้า