ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ทำบุญน้อยได้บุญมาก


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 July 2008 - 09:48 PM

ในสมัยพุทธกาล มีเพื่อนของวังคันตพราหมณ์ผู้เป็นบิดาของพระสารีบุตรเถระ
ชื่อมหาเสนพราหมณ์ อยู่ในกรุงราชคฤห์ เป็นคนยากจน ไม่มีสมบัติอะไรเลย
เช้าวันหนึ่ง พระสารีบุตรเถระได้ออกไปบิณฑบาตที่บ้านของพราหมณ์นั้น
เพื่ออนุเคราะห์เขา แต่เขาคิดว่า บุตรของเรามาบิณฑบาตที่บ้านเรา
ตอนนี้เราเป็นคนยากจน ทรัพย์สมบัติหรือวัตถุสิ่งของอะไรๆ ที่จะใส่บาตรก็ไม่มี
บุตรของเราอาจจะไม่รู้เรื่องนี้ก็ได้
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงหลบหน้า ไม่กล้าออกมาพบพระเถระ
ในวันต่อมาพระเถระก็ได้ไปบิณฑบาตอีก
พราหมณ์ก็ได้หลบหน้า อีกเช่นเคย แต่ในใจเขาก็คิดอยู่ว่า
... ถ้าวันไหนเรามีอะไรที่จะถวายพระเถระเราก็จะถวายแก่ท่าน... แต่วันแล้ววันเล่าเขาก็ไม่ได้วัตถุสิ่งของอะไรที่จะถวายพระเถระเลย



ต่อมาวันหนึ่งเขาได้ข้าวปายาสเต็มถาด
และผ้าสาฎกเนื้อหยาบผืนหนึ่งจากที่แห่งหนึ่ง
เมื่อกลับไปถึงบ้านจึงนึกถึงพระเถระขึ้นมาว่า
... เราควรจะถวายสิ่งของเหล่านี้แก่พระเถระ... ในขณะเดียวกันนั่นเอง พระเถระซึ่งกำลังนั่งสมาธิเข้าฌานอยู่
เห็นพราหมณ์ในนิมิต และคิดว่า... ขณะนี้พราหมณ์ได้ไทยธรรมแล้ว และอยากถวายสิ่งของเหล่านั้นกับเรา เราควรจะไปที่นั่น... คิดดังนั้นแล้วจึงลุกขึ้นห่มผ้าจีวรพร้อมพาดสังฆาฏิ
เดินอุ้มบาตรไปยืนอยู่ที่หน้าบ้าน ของพราหมณ์



ฝ่ายพราหมณ์เมื่อมองไปเห็นพระเถระยืนอุ้มบาตรอยู่หน้าบ้าน
ก็เกิดมีจิตเลื่อมใสเป็น อย่างยิ่ง จึงเข้าไปไหว้และนิมนต์ให้เข้าไปนั่งในบ้าน แล้วนำข้าวปายาสมาถวาย ขณะที่เขานำข้าวปายาสใส่ลงไปในบาตรอยู่นั้น พอใส่ไปได้ครึ่งหนึ่งพระเถระก็เอามือปิดบาตรไว้คิดว่าน่าจะพอแล้ว
เหลือไว้ให้พราหมณ์ได้กินบ้าง
เพราะเขาเป็นคนจนไม่มีอะไรเลย แต่พราหมณ์กลับบอกว่า



... ข้าวปายาสนี้มีนิดเดียว ขอท่านจงสงเคราะห์ผมในโลกหน้าเถิด
อย่าสงเคราะห์ในโลก นี้เลย กระผมอยากจะถวายทั้งหมด...
กล่าวแล้ว พราหมณ์จึงตักข้าวปายาสทั้งหมดใส่ลงไปในบาตร



เมื่อพราหมณ์ใส่บาตรเรียบร้อยแล้วพระเถระก็นั่งฉันอยู่ที่บ้านของพราหมณ์นั่นเอง
หลังจากฉันเสร็จ พราหมณ์ก็นำผ้าสาฎกมาถวายอีก
แล้วตั้งความปรารถนาไว้ว่า
... ขอให้กระผมบรรลุธรรมเหมือนอย่างที่พระคุณเจ้าบรรลุเถิด...
พระเถระจึงให้พรว่า ... จงสำเร็จอย่างนั้น พราหมณ์...



จากอานิสงส์ที่ได้ถวายทานด้วยจิตที่เลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง
จึงทำให้เกิดความอิ่มอก อิ่มใจมาก
และพราหมณ์นี้ก็มีความเคารพรักในพระเถระยิ่งนัก
ดังนั้น เมื่อตายไปจึงไปบังเกิดในตระกูลของคนที่เป็นผู้อุปัฏฐากพระเถระ ในกรุงสาวัตถี



ในขณะที่มารดาของเขาตั้งครรภ์ นางได้งดการบริโภคอาหารที่ร้อนจัด
เย็นจัด และเปรี้ยวจัด เป็นต้น
ในเวลาแพ้ท้อง นางคิดว่า อยากจะนิมนต์ภิกษุสัก ๕๐๐ รูป มีพระสารี-บุตรเถระเป็นประธานมาที่บ้านแล้วถวายข้าวปายาส แล้วตนเองก็บริโภคข้าวปายาสที่เหลือจาก ที่พระฉัน นางได้ทำอย่างที่คิดนั้นความแพ้ท้องจึงสงบลง



เมื่อทารกคลอดออกมา พวกญาติจึงอาบน้ำให้แล้วให้นอนบนผ้ากัมพล
ที่มีราคาแพงถึง หนึ่งแสน และในวันนั้นก็ได้นิมนต์พระมาฉันภัตตาหารที่บ้าน ทารกที่นอนอยู่บนผ้ากัมพลนั้นก็ได้แลดูพระเถระและคิดว่า
พระเถระนี้เป็นบุรพจารย์ของเรา เราได้สมบัตินี้เพราะอาศัยพระเถระนี้ เราควรจะทำบุญด้วยการบริจาคทานอย่างใดอย่างหนึ่งแก่ท่าน



ดังนั้นในขณะที่พวกญาติอุ้มทารกไปรับศีลจากพระ
ทารกน้อยได้เอานิ้วก้อยเกี่ยวผ้ากัมพลนั้นไว้
พวกญาตินึกว่าผ้าไปเกี่ยวติดมือเด็กจึงเอาออก ทำให้ทารกร้องไห้
พวกญาติจึงพูดกันว่า ... พาไปที่อื่นเถอะ อย่าให้เด็กมาร้องไห้แถวนี้เลย... แต่ก่อนจะพาทารกน้อยออกไป นั้นก็ได้พาไปกราบลาพระ
ขณะนั้นเอง ทารกก็ชักนิ้วมือออกจากผ้ากัมพล
ทำให้ผ้ากัมพลตกลงใกล้เท้าของพระเถระ พวกญาติจึงพูดขึ้นว่า
... ผ้านี้อันบุตรของพวกข้าพเจ้าถวายแล้ว จงเป็นอันบริจาคแล้วเถิด...



หลังจากนั้นต่อมาเมื่อทารกน้อยเจริญวัย อายุได้ ๗ ขวบ
จึงได้ขอบวชเป็นสามเณรใน สำนักของพระเถระ
และกลายเป็นผู้มีลาภมากอย่างน่าอัศจรรย์
จากผลแห่งการทำทานใน อดีตชาติเมื่อครั้งยังเป็นพราหมณ์ผู้ยากจนนั่นเอง ในครั้งหนึ่งชาวเมืองสาวัตถีทราบข่าวว่า สามเณรจะเข้าไปบิณฑบาต ได้พากันจัดเตรียมข้าวปลาอาหารและผ้าสาฎกไว้ถวายสามเณร
จำนวนมากถึง ๕๐๐ ผืน ในวันต่อมาก็ได้ตามมาถวายถึงวัดที่สามเณรพักอย
ู่ซึ่งไม่ไกลจากวิหารอีก ๕๐๐ ผืน เป็นหนึ่งพันผืน



วันหนึ่งในช่วงฤดูหนาว สามเณรได้เที่ยวจาริกไปในวัดต่างๆ
เห็นพวกภิกษุพากันนั่งผิง ไฟอยู่ จึงเรียนถามว่า
... ท่านขอรับ เหตุไรจึงนั่งผิงไฟ ทำไมไม่หาผ้ากัมพลมาห่ม...



พวกภิกษุกล่าวว่า... สามเณร เธอมีบุญมาก มีผู้ถวายผ้ากัมพล แต่พวกเราไม่มีเลย...



สามเณรได้ฟังดังนั้นจึงคิดหาผ้ากัมพลมาถวายภิกษุทุกรูป
โดยสามเณรและพวกภิกษุ ๑,๐๐๐ รูป ได้เดินไปตามหมู่บ้าน
มีชาวบ้านนำผ้ากัมพลมาถวายถึง ๕๐๐ ผืน
และเมื่อเดิน เข้าไปในตลาดก็มีพ่อค้าแม่ค้าเอาผ้ากัมพลมาถวายอีก ๕๐๐ ผืน



ในขณะที่สามเณรพาภิกษุเดินไปตามตลาดอยู่นั้น
มีชายตระหนี่คนหนึ่ง เมื่อรู้ว่าสามเณร และพวกภิกษุเดินมาทางบ้านของตัวเอง จึงเอาผ้ากัมพลสองผืนซ่อนไว้ เพราะกลัวว่าเณรจะขอ
แต่พอสามเณรเดินมาถึงหน้าบ้าน เขาได้เห็นสามเณรก็เกิดความรักขึ้นมา
ราวกับว่าสามเณร น้อยเป็นบุตรของตน เขาจึงคิดว่า เราจะให้สามเณรนี้ทุกอย่าง แล้วจึงไปเอาผ้ากัมพลสองผืนมาวางไว้แทบเท้าถวายแก่สามเณร
แล้วกล่าวว่า ... ท่านเจ้าข้า ขอผมพึงมีส่วนแห่งธรรมที่ท่านเห็นแล้ว...



สามเณรได้ทำอนุโมทนาแก่เขาว่า... จงสำเร็จอย่างนั้นเถิด...



หลังจากได้ผ้าครบแล้ว สามเณรจึงได้นำมาถวายแก่พระภิกษุทุกรูปตามที่ตั้งใจไว้ ต่อมาสามเณรรูปนี้ได้ไปปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง
ชาวบ้านบริเวณนั้นก็ให้ความอุปถัมภ์บำรุง เป็นอย่างดีเช่นเคย และในสามเดือนต่อมาสามเณรก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด



.........
จะเห็นได้ว่า สามเณรนั้นตอนที่ยังเป็นพราหมณ์ผู้ยากจน ได้ถวายสิ่งของเพียงเล็กน้อย แต่ผลบุญที่ได้นั้นมากมายยิ่งนัก
นั่นก็เพราะว่า ๑. ได้ทำบุญด้วยจิตที่เลื่อมใส
๒. ของที่ถวาย ก็ได้มาด้วยความบริสุทธิ์
๓. พระสงฆ์ที่รับก็เป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์
ทั้งสามองค์ประกอบนี้เป็น สิ่งสำคัญในการทำบุญตามหลักของพระพุทธศาสนา หากจะทำบุญให้ได้บุญมากนั้นต้องมีองค์ประกอบทั้งสามนี้ครบ
เพราะการจะได้บุญมากหรือน้อย ไม่ได้อยู่ที่จำนวนวัตถุสิ่งของ



นอกจากนั้นการทำบุญในพระพุทธศาสนานั้น ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำให้ผู้ทำบุญได้บุญมาก โดยไม่ต้องใช้วัตถุสิ่งของใดๆเลย เพียงแต่ต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเองเท่านั้น
เช่น การทำบุญด้วยการรักษาศีล
ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา
ทำบุญด้วยการประพฤติถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
ทำบุญด้วยการขวนขวายช่วยเหลือผู้อื่น
ทำบุญด้วยการให้ส่วนบุญแก่ผู้อื่น
ทำบุญด้วยการอนุโมทนาในบุญที่ผู้อื่นทำ ทำบุญด้วยการฟังธรรม ทำบุญด้วยการบอกธรรมะแก่ผู้อื่น
และทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรง
วิธีต่างๆ ทั้งหมดนี้ เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ เป็นหลักการทำบุญในพระพุทธศาสนา ซึ่งผู้ที่ไม่มีเงินทอง วัตถุสิ่งของอะไร ก็สามารถทำบุญได้
และเป็นบุญที่ให้ผลบุญมากๆ เช่นเดียวกัน



#2 สุรชัย (กัปตัน)

สุรชัย (กัปตัน)
  • Members
  • 407 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2008 - 09:42 PM

ขออนุโมทนาสาธุครับ

#3 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 05:47 AM

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ

#4 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 18 July 2008 - 09:02 AM

สาธุ สำหรับธรรมทานครับ smile.gif

"ตามกำลังตน เถิดหนา อย่ากังวล, เพราะกุศลอันยิ่งใหญ่ คือใจจริง"
เพลง สหายธรรม