มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[ไก่ฟ้าคราม]

คืดแฟนเก่าผมที่เลิกกันไปแล้ว โทรไปหาเขาเล่าให้ฟังว่า เจอทำเสน่ห์ เพื่อนเค้าก็บอกว่าเจอ เพราะคนที่เขาชอบ

เป็นพวกร่างทรง หมอผี แนวไสยศาสตร์ เค้าบอกว่า วันๆเขาคิดถึงแต่คนนี้ ผมบอกว่า ให้ห่างๆอย่าไปยุ่งเค้าก็ไม่ฟัง

แล้วตอนตี1คุยกันดีๆ เขาก็เปลี่ยนไปคนละคน ที่แรกทำท่าจะมาคบกับผมใหม่ แต่อยู่ดีดี เค้าก็พูดด้วยเสียงเอื่อยๆว่า

คบไม่ได้ คนนั้นเขาไม่ให้คบ ผมถามว่าใคร เค้าบอกคนที่หันหลังให้เขา ก็คือคนที่เขาติดพัน กันอยู่

ซึ่งเพื่อนเขาก็ออกแนวร่างทรงบอกว่า เจอทำเสน่ห์แน่นอน ถ้ากลับจากกรุงเทพจะพาไปหาหมอดูดวง แก้คุณไสย

อันนี้คือเรื่องจริงครับสาบานได้ ผมนี่แทบสติแตกเลย ทำไมมันต้องทำกันอย่างนี้ เคยโทรไปหาเพื่อนที่ภาคเหนือ

เค้าบอกว่า มันมีการทำกันจริงๆ ทำกันเยอะที่ภาคเหนือ เรื่องคุณไสยทำเสน่ห์ ทุกวันนี้ก็มี แล้วแฟนเก่าผมก็เป็นสาวเหนือ

แล้วผมจะทำยังไงครับ ชาวธรรมกายช่วยผมด้วย เพื่อกุศล เถอะครับ

[somchet]

ลองไปทำบุญ แล้วถือศีลปฏิบัติธรรมซัก 7 วัน ดูไม๊ครับ

[เด็กผู้น้อย]

มันเป็นวิบากกรรมเขาด้วยละครับ จะช่วยได้ก็ต้องเข้าถึงพระธรรมกาย ศึกษาวิชชาธรรมกาย
แต่จะให้แก้คงยาก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำ คุณก็หมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาให้ยิ่งยวดกว่าที่เคยทำมาแล้วอธิษฐานช่วยเขา แต่ถ้าหากเขาสามารถทำเองได้ (ก็คงยากหน่อย) ให้เขาพยายามให้ทาน รักษาศีล นั่งสมาธิให้ดี หนักเป็นเบา เบาก็หายได้ครับ

[ไก่ฟ้าคราม]

ตอนนี้ผมเนี่ยอยากร้องไห้เลย มันมีวิธีอะไรแก้ฉับพลันใหมครับ เพราะเขาเคยบอกว่า นายคนนี้พยายามชวนมีอะไรด้วย ซึ่งใจหนึ่งเขาก็ฝืนๆ ดึงๆไว้ แต่มีอะไรไม่รู้พยายามดึงเขาไปทำอย่างนั้น ผมกลัวว่าจะสายเมื่อแก้นะสิครับ กลุ่มใจมากๆ ถ้าเกิดท้องมีลุกอะไรแล้ว ก็จบกันเลย ชีวิตคนทั้งชีวิต ต้องจมไปกับนายคนนี้และสิ่งพวกนี้ แถมครอบครัวนายคนนี้ออกแนวเชื่อเรื่องพวกนี้แบบฝังหัว ถึงขนาดเอาวัน เดือนปี แฟนเก่าผมไปทำไรไม่รู้ แล้วเขาก็ให้กำไรลงคาถาอะไรมาก็ไม่รู้ ผมกลัวตรงนั้นมันเป็นการทำเสน่ห์ครับ โทรไปตอนนี้ก็กดสายผมทิ้งแล้ว ผมเกิดอะไรขึ้น แค่ช่วงวันคืนเดว เอง 3-4วันก่อนก็คุยกันดีดี มาเมื่อวานนี้คุยแปบๆ แค่ไม่กี่ชม.กลับกลายเป็นคนละคน ผมนี่อยากจะตาย

[ฟ้ายังฟ้าอยู่]

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
วิธีแก้ ก็มีอยู่ คือต้องเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

พระพุทธ คือให้นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
พระธรรม คือเ้ข้าถึงพระธรรมภายในตัว อันมีอยู่แล้ว จะเข้าถึงได้ ก็ต้องหยุดใจ
สุดท้ายคือพระสงฆ์ จะช่วยชี้แนะนำทางพ้นทุกข์ให้กับเราได้

พามาหาพระ ด่วน ขอบอก มาไม่ได้ ก็ลองนิมนต์พระที่สนิทไปโปรดดูก็ได้ค่ะ

แต่ทั้งนี้ อย่าไปทุกข์ใจด้วย เอาสติของเราให้อยู่กับตัวของเรา โดยการตรึกนึกถึงบุญที่เคยทำแล้วแผ่เมตตา อธิษฐานจิต สั่งสมบุญเนืองๆ นะคะ ขอเอาใจช่วยค่ะ

[suppy001]

ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม ตนจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น...ขอเอาใจช่วยให้พ้นจากสิ่งเหล่านั้นโดยเร็วนะครับ...สาธุ

[วัดในดวงใจ]

ลูกหลานทั้งหลาย วันนี้สาระน้อยไปหน่อยนะ เพราะมัวไปทะเลาะกับท่านนักปราชญ์เพลินไป มาพูดกันถึงอานุภาพท่านขุนด่านอีกหน่อย เพราะชักเหนื่อยแล้ว ท่านขุนด่านเป็นเทวดาของท่านท้าวเวสสุวัณ มีเครื่องทรงประจำสีแดง คือ นุ่งห่มสีแดง และโพกผ้าก็สีแดงเหมือนกัน ท่านที่ทรงเครื่องแดงนี้จัดเป็นเทวดามีอานุภาพมาก สมัยที่เขาวงพระจันทร์ยังมีสถานที่ยังไม่สมบูรณ์อย่างปัจจุบัน หลวงพ่อปานท่านกำลังสร้างมณฑปและบันไดขึ้นเขา มีพระองค์หนึ่งเป็นลูกศิษย์นอกสำนักของหลวงพ่อปาน ชื่อ ท่านสำราญ ชาวบ้านเรียกว่าอาจารย์สำราญ ขณะนี้สำราญอยู่เมืองผีนานแล้ว เพราะท่านแก่กว่าฉันมาก สมัยฉันอายุ ๒๐ ปีเศษ ท่านมีอายุเกือบ ๔๐ ปีแล้ว ท่านอยู่ประจำที่เขาวงพระจันทร์ เป็นเขตอารักขาของท่านขุนด่าน หลวงพ่อปานท่านสั่งไว้เสมอว่า อย่าประกาศตัวเป็นศัตรูกับผี ควรทำตนเป็นมิตรกับผีจะได้อยู่เป็นสุข เพราะผีไม่ใช่คน ถ้าเป็นศัตรูกัน เวลาที่เขามาทำอันตรายไม่มีนิมิตปรากฏ ท่านก็ไม่เชื่อ ปกติท่านสวดบทวิปัสสิทธิ์เสมอเพื่อไล่ผี คาถาบทนี้เป็นคาถาในบทภาณยักษ์และภาณพระ คำว่า ภาณยักษ์แปลว่ายักษ์พูด คำว่าภาณแปลว่าพูด เป็นคาถาที่ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ท่านประชุมกันร้อยกรองขึ้น เมื่อร้อยกรองเสร็จท่านก็ประชุมผีทั้งหมด ท่านสั่งว่าใครเขาสวดคาถาบทนี้อยู่ห้ามทำอันตราย ถ้าใครไม่เชื่อจะลงโทษฐานกบฏ มาตรานี้มีโทษรุนแรงมาก เมื่อประกาศแล้วท่านทั้งสี่ก็มาเฝ้าพระพุทธเจ้า ท่านทั้งสามให้ท้าวเวสสุวัณเป็นคนพูดกับพระพุทธเจ้า ท่านจึงเรียกภาณยักษ์ ตอนที่ท้าวเวสสุวัณพูด แปลว่า ยักษ์พูด เมื่อท้าวเวสสุวัณกราบทูลถวายกับพระพุทธเจ้า ได้กราบทูลมีใจความว่า พวกยักษ์ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ นาคและบริวาร ส่วนอื่นของข้าพระพุทธเจ้าที่ไม่เลื่อมใสในพระองค์มีมาก เมื่อบรรดาพระ เณร อุบาสก อุบาสิกา ไปทำสมณธรรมคือชำระอารมณ์ให้หมดจากกิเลส พวกนี้มักจะกลั่นแกล้งให้ตกใจกลัว เป็นอันตรายแก่พรหมจรรย์มาก
คำว่าพรหมจรรย์ไม่ใช่คนบริสุทธิ์ ไม่เคยผ่านใครมาเลย นั่นยังไม่เรียกว่าพรหมจรรย์ ควรเรียกว่าคนยังไม่เคย ส่วนพรหมจรรย์แปลว่าประพฤติประเสริฐ คือ ไม่เป็นอันตรายแก่ใคร ได้แก่คนมีพรหมวิหาร ๔ นั่นเอง พวกที่ไม่เคยผ่านการร่วมรัก อาจจะเคยลักขโมย ฆ่าสัตว์ โกหกมดเท็จ กินเหล้าเมาสุราบ้างก็ได้ เรียกว่า พรหมจรรย์จึงไม่ตรงเป้าหมาย ส่วนพรหมจรรย์แท้ท่านหมายเอามีความประพฤติอย่างประเสริฐ คือ มีอารมณ์เหมือนพรหม มีศีลบริสุทธิ์ มีเมตตาปรานี มีฌานเป็นอารมณ์ อย่างนี้เป็นพรหมจรรย์อันดับปฐม พรหมจรรย์อย่างมัธยมก็ต้องตัดกิเลสสิ้นไปเป็นพระอรหันต์ อย่างนี้เรียกว่าระดับมัธยม หรือเรียกดุษฎีบัณฑิต เป็นอันว่ารู้กันนะว่าพรหมจรรย์หมายความว่าอย่างไร เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทของพระองค์ไปเจริญสมณธรรมในป่าในรกที่สงัด ถ้าเกรงว่าบรรดาผีอันธพาลทั้งหลายจะรบกวน ให้เขาสวดคาถาบทนี้ผีจะไม่ทำอันตราย เมื่อท่านอธิบายแล้วก็ถวายคาถา จึงเรียกว่าภาณยักษ์ เพราะเป็นตอนยักษ์พูด เมื่อพระพุทธเจ้าท่านรับไว้แล้วท่านมหาราชกลับแล้ว ท่านเรียกประชุมพุทธบริษัท ท่านก็ให้บริษัทเรียนและอธิบายตามนั้น ตอนนี้ในตำนานท่านกล่าวว่า พระพูด เรียกว่า ภาณพระ


ท่านสำราญท่านถือคาถานี้เป็นสำคัญ ท่านไม่ได้ทำดีคือสมณธรรม ท่านถือว่าท่านเก่ง พ่อสวดมนต์บทนี้ไล่ผีทุกวัน ผิดระเบียบพระที่ดี ไม่ทำดีแต่เอาอาวุธของคนดีมาใช้ก็เลยไม่มีผล พอเผลอท่านขุนด่านเลยจัดการเสียตามระเบียบ คือ เวลาประมาณ ๑๗ น. โดยประมาณ อาจจะไม่ตรงเผง ฉันและเพื่อนได้ยินเสียงท่านสำราญร้องโอย ๆ เสียงดังมาก ก็พากันวิ่งไปดู คิดว่าใครทำอันตรายท่าน ไม่ได้คิดว่าผีทำ คิดว่าคน คื อพวกของเจ้าลาวอันธพาล เมื่อวิ่งไปถึงปรากฏแก่ตาของพระทุกองค์ เห็นคนนุ่งแดงใส่เสื้อแดง ผ้าโพกหัวแดง ถือหวายขนาดใหญ่ กำลังหวดซ้ายป่ายขวาท่านสำราญ ๆ ลงไปนอนบิดไปบิดมาอย่างสำราญอยู่กับพื้น เจ้าสองลิงคือเจ้าลิงขาวกับลิงเล็กวิ่งเข้าไปร้องขอว่า ท่านขุนด่าน ขอทีเถอะ หยุดลงโทษเสียทีเท่านี้พอแล้ว แกหันมามองตาแดงก่ำ แดงเป็นสีตายักษ์ แกยิ้ม แต่ทว่ายิ้มของแกไม่น่ารักเลย มันน่ากลัวมากกว่า พระที่วิ่งไปด้วยเห็นยิ้มของแกเข้าหลบก้มหน้าลงดินเป็นแถว ที่ยืนปกติมีฉันกับเจ้า ๒ ลิง เมื่อแกเลิกยิ้มแกบอกว่า เจ้านี่อวดดีนัก เอาคาถาท่านมหาราชมาขับเทวดาขับผี เขาให้ไว้สำหรับคนดี ไม่ใช่ธุระของคนอันธพาลจะนำมาใช้ เลยจัดการเสียนิดหน่อย คราวต่อไปทำอย่างนี้อีกจะลงโทษให้หนักกว่านี้ แล้วแกก็ก้าวขึ้นขื่อหายไป พระทุกองค์ที่ไปเห็นและได้ยินเหมือนกัน นับแต่นั้นมา ท่านสำราญท่านเห็นว่าที่เขาวงพระจันทร์สำราญเกินไป ท่านทนความสำราญไม่ไหวเลยลาไปสำราญที่อื่น พวกฉันเห็นได้ท่าก็เลยหันมาสำทับพวกเดียวกัน บอกว่าที่นี่เจ้าที่ดุ ต่อไปจงระมัดระวังความประพฤติ ถ้าใครทำชั่วไม่มีใครช่วยใครได้ อาจจะต้องมีโทษมากกว่านี้ เรื่องวัวเขาอ่อนเป็นเหตุ ถ้ายุ่งมากอาจจะถึงตาย และความประพฤติส่วนอื่นก็เหมือนกัน จงระงับเสีย อย่าเอาชั่วมาใช้ เรามาทำบุญกัน อย่าเอาบาปกลับวัด เป็นเรื่องน่าประหลาด เมื่อฉันและเพื่อนเตือนพระเย็นวันนั้น พอเช้าก็มีพระทุกองค์มารายงานว่าเมื่อคืนนี้ทุกองค์เห็นท่านขุนด่าน ท่านมาคาดโทษว่าถ้าท่านใดทำเลวปล่อยใจอย่างฆราวาส ท่านจะจัดการยิ่งกว่าท่านสำราญ
เรื่องเล่าจากหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ

[ฟ้ายังฟ้าอยู่]

http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=7046

http://www.dmc.tv/fo...showtopic=12987

เวลาสงสัยอะไร ค้นในเว็บดูก่อนนะคะ คำตอบมีอยู่ใน case study มากมายเลยค่ะ คุณครูไม่ใหญ่ให้คำตอบไว้หมดแล้ว

[เคยเข้าวัด]

วิธีแก้แบบเฉียบพลัน ก็ง่ายๆ สบายๆอ่าครับ ให้ชวนเขาไปทำบุญปล่อยสัตว์ปล่อยปลา อาราธนาศีล ทำสมาธิเจริญภาวนา ใช้บุญเป็นเครื่องช่วยขจัดสิ่งไม่ดีออกไป

เมื่อก่อนผมก็เคยมีเรื่องกับคนทรงเล่นของ เพราะไม่เชื่อในเรื่องนี้ ที่สำคัญลูกน้องผมส่วนใหญ่เป็นคนเขมรต่างด้าวทั้งนั้น เคยถูกข่มขู่หลายครั้งว่าจะเสกคุณไสยใส่ แต่ผมไม่เคยกลัวเพราะเชื่อมั่นยึดมั่นในพระรัตนตรัย ว่าจะต้องช่วยปกป้องคุ้มครองผมจากเรื่องนี้ได้ ช่วงนั้นผมทำใจให้จรดศูนย์กลางกายอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยมีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวแม้แต่น้อย ดังนั้นพยายามทำให้เขาอยู่ในบุญตลอดครับ บุญจะเป็นที่พึ่งเป็นเกราะป้องกันจากภยันตรายต่างๆได้ดีที่สุดครับ

มีเรื่องขอยกมาเป็นตัวอย่างนะครับ หลายท่านคงทราบ สมัยที่หลวงพ่อทัตตะเป็นหนุ่มท่านก็เคยเรียนคุณไสยหรือเล่นของมาก่อน ถึงขนาดที่มั่นใจตัวเองสุดๆว่ามีวิชาดี หลวงพ่อทัตตะท่านเคยเล่าว่าครั้งนั้นท่านยังไม่รู้จักคุณครูไม่ใหญ่ มีครั้งหนึ่งที่ท่านได้แสดงวิชาของท่านอวดเพื่อนในคณะ ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นวิธีมือจุ่มลงไปในนํามันเดือดหรือไงเนี่ยแหล่ะครับ และท่านก็ทำได้ซะด้วย จุ่มมือลงไปในนํามันเดือดโดยที่มือไม่พอง สักพักคุณครูไม่ใหญ่ของเราท่านก็มาดูหลวงพ่อทัตตะท่านแสดงด้วย เชื่อไหมหลวงพ่อทัตตะท่านกล่าวว่าเพียงคุณครูไม่ใหญ่มายืนดูท่านแสดง ของในตัวท่านกระเจิงหมดเลยทำเอามือหลวงพ่อทัตตะพองปวดแสบปวดร้อนไปหมด หลวงพ่อทัตตะท่านสงสัยว่าทำไมของในตัวถึงหาย คิดว่าคุณครูไม่ใหญ่เรามีของดีกว่าจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ คุณครูไม่ใหญ่จึงพาไปเรียนวิชากับคุณยายที่บ้านธรรมประสิทธิ์ หลังจากได้เจออาจารย์ดีแล้ว หลวงพ่อทัตตะท่านก็ทิ้งไสยเวทย์ไปหมดเลยครับไม่หวลกลับไปหาสิ่งเหล่านั้นอีกเลย

[ลูกหลานหลวงปู่]

ผมอ่านแล้วรู้สึกสงสารเจ้าของเคสจังเลยครับ เห็นใจจริงๆครับ

ถ้าคนที่โดนคุณไสย ทำวิบากกรรมในอดีตมาน้อยก็ยังพอแก้ได้ โดยผ่อนหนักให้เป็นเบาครับ แต่ถ้าทำมาเยอะก็ต้องให้เป็นไปตามวิบากกรรมที่ทำมา ยกเว้นจะเข้าถึงพระธรรมกายภายในครับ

นั้นผมขอสรุปวิธีที่พอจะทำให้หนักเป็นเบานะครับ
1. คุณต้องหาพระของขวัญจากวัดเราให้เค้าติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา
2. ต้องสอนให้เค้าอธิษฐานต่อพระธรรมกายและพระเดชพระคุณหลวงปู่ ขอให้ท่านช่วย
3. ต้องให้เค้าทำทาน รักษาศีล และนั่งสมาธิ ถ้าทำได้มากก็ยิ่งดีนะครับ
4. พาเค้ามาวัดทุกวันอาทิตย์หรืออย่างน้อยอาทิตย์ต้นเดือนและงานบุญใหญ่ๆ
5. พามากราบหลวงพี่ในวัดเช่นหลวงพี่ณรงค์ ทันตจิตโต , หลวงพี่อารักข์ ญาณรักโข หรือพระผู้ใหญ่ เป็นต้น เพื่อให้ท่านช่วยแก้ด้วยวิชชาธรรมกาย
6. ถ้าไม่สะดวกพามาที่วัดพระธรรมกาย พาไปทีวัดปากน้ำ แล้วไปถามหาคุณยายอาจารย์ตรีธา เนียมขำ พร้อมนำกระดาษและปากกา เพื่อเขียนชื่อ- นามสกุล , วันเดือนปีเกิดตามสากลและตามไทย เช่นขี้นกี่ค่ำ เดือนอะไร ,เวลาเกิด สถาที่อยู่ ,อายุ เอาแบบละเอียด มีรูปถ่ายด้วยยิ่งดีครับ แล้วกราบขอความเมตตาให้ท่านช่วย ต่อจากนี้ก็แล้วแต่บุญกุศลที่ได้ทำมาในอดีตกับปัจจุบันด้วยครับ

สุดท้ายสำคัญมากๆ คุณต้องเป็นหลัก โดยหลักที่ให้อดีตแฟนคุณจับนั้น ต้องไม่เอนไปเอนมา ต้องให้เค้าพึ่งพาได้ ดังนั้นคุณต้องใจใสๆ ห้ามทำให้ใจขุ่น คุณต้องนั่งสมาธิให้มากๆ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงมันจะทำยากแต่ก็ต้องทำนะครับ

ขอให้อดีตแฟนของคุณ หลุดจากวิบากกรรมนี้โดยเร็ว ด้วยอานุภาพของพระธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ จงทุกประการ เทอญ สาธุ.

[นักท่องเที่ยว]

พาเข้าวัดให้นับถือพระรัตนะไตรเป็นที่พึ่ง แล้วมาทำบุญบ่อยๆๆครับ