มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[แม่ยาคูส์]

ในหนึ่งวัน เราใส่บาตร พระ 1 รูป กับ หนึ่งวันเราใส่บาตร พระ 2 รูป ขอถามว่าจะได้บุญเท่ากันหรือเปล่าค่ะ แล้วอาหารที่เราใส่บาตร ถ้าเราซื้ออาหารมาใส่ กับเราจัดเตรียมและปรุงเองอย่าง ได้บุญเท่ากันหรือเปล่าค่ะ ขอถามอีกข้อหนึ่งนะค่ะ ที่บ้านดูDMC ลูกชายชอบดูตอนที่หลวงพ่อมาสอน เขาจะคอยรับคำว่า สาธุ ลูกชายมักจะถามว่า ได้บุญหรือเปล่าหรือค่ะ แล้วถ้าพ่อบ้านชอบบ่น แต่เราไม่อยากให้พ่อบ้านมีบาป ทำอย่างไรพ่อบ้านจะได้ไม่บ่น หรือพูดจาไม่น่าฟัง แต่บ้างวันพ่อบ้านก็ไม่ว่าเวลาที่ลูกชาย กับตัวเรานั่งดู ช่วยแนะนำคนมีความรู้ทางธรรม น้อยด้วยค่ะ

[เคยเข้าวัด]

ขอถามกลับนะครับ

สมมุติว่าคุณจขกท.ใส่ตัง(สมมุติเป็นเหรียญ5)ลงในกระปุก 1เหรียญ กับ2เหรียญคิดว่าอย่างไหนจะมีจำนวนมากกว่ากัน การใส่บาตรพระก็คล้ายกัน จำนวนพระที่เราใส่ก็เปรียบได้เหมือนกับจำนวนเหรียญที่เราใส่กระปุก บุญที่ได้ก็เปรียบได้กับมูลค่าของเหรียญที่เราใส่ไปนั่นเองครับ

ทีนี้การซื้อใส่กับการทำเองได้บุญต่างกันมากครับ ทำเองจะได้บุญมากกว่า เพราะของที่เราทำเองย่อมประณีตกว่าของที่ผู้อื่นทำเตรียมไว้ให้ครับ อุปมาเหมือนบ้าน หากเราสร้างบ้านเองเราย่อมเลือกวัสดุที่ใช้ในการสร้างเองได้ ควบคุมคนงานก่อสร้างเองได้ เทียบกับซื้อบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว เราไม่รู้ว่าช่างหรือโครงการที่สร้างใช้วัสดุอะไร โครงสร้างเขาทำมาให้เราดีหรือเปล่า ฉันใดฉันนั้นครับ

ลูกชายดูDMCแล้วกล่าวสาธุก็ได้บุญครับ เป็นบุญจากการฟังธรรม ถึงแม้จะฟังไม่รู้เรื่องก็ตาม

ถ้าพ่อบ้านชอบบ่นชอบว่าก็อย่าไปโต้ตอบเขาครับ เขาเหนื่อยเดี๋ยวเขาก็หยุดไปเอง วางอุเบกขาแล้วดูDMCต่อไปอย่าไปสนก็แค่นั้นครับ ขืนเขาบ่นมาแล้วเราบ่นตอบกลายเป็นว่าดูDMCไม่รู้เรื่องกันพอดีจริงไหมครับ หุหุหุ

[เด็กผู้น้อย]

สาธุ ที่ทำเองแล้วได้บุญมาก อีกอย่างก็คือเพราะทำเองมีเจตนาแรงกว่าซื้อเขา เพราะต้องจัดเตรียมจัดหา แสวงหาด้วยความตั้งใจมีใจจดจ่อ เหมือนมีเจตนาแรงกว่าย่อมได้บุญแรงกว่าครับ

[Chatkaew]

ใส่บาตร พระ 1 รูป กับ หนึ่งวันเราใส่บาตร พระ 2 รูป

- เห็นด้วยกับที่คุณเคยเข้าวัดตอบค่ะ

ซื้ออาหารมาใส่ กับเราจัดเตรียมและปรุงเองอย่าง
ขออนุญาตอุปมาเป็นภาพแบบทางโลกดังนี้นะคะ

- ซื้อเขามาถวาย เปรียบเหมือน "ลงแต่ทุน ไม่ได้ลงแรง"
- ทำเองเพื่อถวาย เปรียบเหมือน "ลงทั้งทุน ลงทั้งแรง"

ดังนั้น ผู้ที่ลงทั้งทุน ลงทั้งแรง ย่อมได้ผลตอบแทนมากกว่า ผู้ที่ลงเฉพาะทุน

เขาจะคอยรับคำว่า สาธุ ลูกชายมักจะถามว่า ได้บุญหรือเปล่า
- ได้แน่นอนค่ะ เพราะการที่ทุกคนกล่าวคำว่าสาธุในช่วงต่างๆ ของรายการผันในผัน เป็นการอนุโมทนาบุญกับความดีหรือบุญกุศลที่ผู้อื่นทำ จัดเป็น 1 ในบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการค่ะ


ทำอย่างไรพ่อบ้านจะได้ไม่บ่น หรือพูดจาไม่น่าฟัง
- ทำอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนค่ะ คือ ทำให้คุณพ่อบ้านเขาเห็นว่า เราได้ดู DMC แล้ว เราดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไร (คือ ถ้ามีข้อไม่ดี ก็แก้ไขให้ดี ถ้ามีข้อที่ดีอยู่แล้ว ก็ทำให้ดียิ่งขึ้น) ถึงแม้เขาจะบ่นว่า แต่จริงๆ เขาแอบสังเกตพฤติกรรมเราอยู่นะคะ เหมือนบางรายที่คุณแม่บ้านเคยเขียนเล่าในรายการว่า สามีบ่นว่า เห็นดูหลวงพ่อเทศน์ทุกวัน แต่ทำไมยังอารมณ์ร้อนอยู่อีก ก็ทำให้ได้คิดและปรับปรุงตัวเอง หรือบางรายที่เล่าว่า สามีชมว่า ตั้งแต่ดู DMC รู้สึกว่าเป็นคนใจเย็นขึ้น เอาใจใส่สามีและลูกมากขึ้น เป็นต้นค่ะ
- พร้อมกันนั้น ก็นึกถึงหน้าสามีไว้กลางท้องเสมอๆ เวลานั่งสมาธิ แล้วนึกอธิษฐานให้เขาใจเปิด ให้เขาหันมาสนใจศึกษาคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ให้เขาได้มาร่วมสร้างบารมีกับหมู่คณะ รวมทั้งเวลาทำบุญก็ให้ใส่ชื่อเขาด้วย แล้วก็อธิษฐานแบบเดียวกันค่ะ ถ้าดีกว่านั้นคือ เอาบุญที่ทำบอกเขา ให้เขาอนุโมทนาด้วย จะยิ่งได้ผลเร็วขึ้น (แต่ถ้าเขายังใจไม่เปิด บอกไปแล้ว กลับยิ่งพูดไม่ดี ก็อย่าเพิ่งบอกนะคะ แอบทำให้แล้วก็อธิษฐานให้ไปก่อน)

ขอเอาใจช่วยให้เป็นครอบครัวธรรมกายอย่างสมบูรณ์ในเร็ววันนี้นะคะ



ใส่บาตร พระ 1 รูป กับ หนึ่งวันเราใส่บาตร พระ 2 รูป

- เห็นด้วยกับที่คุณเคยเข้าวัดตอบค่ะ

ซื้ออาหารมาใส่ กับเราจัดเตรียมและปรุงเองอย่าง
ขออนุญาตอุปมาเป็นภาพแบบทางโลกดังนี้นะคะ

- ซื้อเขามาถวาย เปรียบเหมือน "ลงแต่ทุน ไม่ได้ลงแรง"
- ทำเองเพื่อถวาย เปรียบเหมือน "ลงทั้งทุน ลงทั้งแรง"

ดังนั้น ผู้ที่ลงทั้งทุน ลงทั้งแรง ย่อมได้ผลตอบแทนมากกว่า ผู้ที่ลงเฉพาะทุน

เขาจะคอยรับคำว่า สาธุ ลูกชายมักจะถามว่า ได้บุญหรือเปล่า
- ได้แน่นอนค่ะ เพราะการที่ทุกคนกล่าวคำว่าสาธุในช่วงต่างๆ ของรายการผันในผัน เป็นการอนุโมทนาบุญกับความดีหรือบุญกุศลที่ผู้อื่นทำ จัดเป็น 1 ในบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการค่ะ


ทำอย่างไรพ่อบ้านจะได้ไม่บ่น หรือพูดจาไม่น่าฟัง
- ทำอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนค่ะ คือ ทำให้คุณพ่อบ้านเขาเห็นว่า เราได้ดู DMC แล้ว เราดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไร (คือ ถ้ามีข้อไม่ดี ก็แก้ไขให้ดี ถ้ามีข้อที่ดีอยู่แล้ว ก็ทำให้ดียิ่งขึ้น) ถึงแม้เขาจะบ่นว่า แต่จริงๆ เขาแอบสังเกตพฤติกรรมเราอยู่นะคะ เหมือนบางรายที่คุณแม่บ้านเคยเขียนเล่าในรายการว่า สามีบ่นว่า เห็นดูหลวงพ่อเทศน์ทุกวัน แต่ทำไมยังอารมณ์ร้อนอยู่อีก ก็ทำให้ได้คิดและปรับปรุงตัวเอง หรือบางรายที่เล่าว่า สามีชมว่า ตั้งแต่ดู DMC รู้สึกว่าเป็นคนใจเย็นขึ้น เอาใจใส่สามีและลูกมากขึ้น เป็นต้นค่ะ
- พร้อมกันนั้น ก็นึกถึงหน้าสามีไว้กลางท้องเสมอๆ เวลานั่งสมาธิ แล้วนึกอธิษฐานให้เขาใจเปิด ให้เขาหันมาสนใจศึกษาคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ให้เขาได้มาร่วมสร้างบารมีกับหมู่คณะ รวมทั้งเวลาทำบุญก็ให้ใส่ชื่อเขาด้วย แล้วก็อธิษฐานแบบเดียวกันค่ะ ถ้าดีกว่านั้นคือ เอาบุญที่ทำบอกเขา ให้เขาอนุโมทนาด้วย จะยิ่งได้ผลเร็วขึ้น (แต่ถ้าเขายังใจไม่เปิด บอกไปแล้ว กลับยิ่งพูดไม่ดี ก็อย่าเพิ่งบอกนะคะ แอบทำให้แล้วก็อธิษฐานให้ไปก่อน)

ขอเอาใจช่วยให้เป็นครอบครัวธรรมกายอย่างสมบูรณ์ในเร็ววันนี้นะคะ

[light mint]

ขอเพิ่มเติมค่ะ
บุญ ถ้าทำ(บุญ)มาก ก็ได้(บุญ)มาก
ทำ(บุญ)บ่อยๆ ก็ยิ่งได้บุญเยอะ

และนอกจากการคำนวณคร่าวๆจากปริมาณไทยธรรม และการลงแรง-ลงกำลังสละทรัพย์ แล้ว
ยิ่งมีความตั้งใจในการทำบุญมาก บุญก็เกิดมากตามส่วน

และถ้าใจที่กอปรไปด้วยความปิติในบุญ ทั้งเวลาก่อนทำบุญ ขณะกำลังทำบุญ และเวลาที่ทำบุญเสร็จแล้ว ก็จะยิ่งส่งเสริมให้ได้บุญมากขึ้นค่ะ

[เศรษฐีหน้าใส]

การทำทานมีองค์ประกอบ ๓ อย่าง คือ ผู้ให้ ของที่ให้ และผู้รับ ถ้าอย่างอื่นไม่แตกต่างกันแต่ผู้รับต่างกัน ก็พิจารณาที่ผู้รับ เช่น ความบริสุทธิ์ของใจท่าน ศีลที่ท่านรักษา หรือจำนวนผู้รับมากกว่าก็มีโอกาสที่บุญจะมากกว่า ค่อยๆนั่งสมาธิไปเรื่อยๆ เดี๋ยวครูไม่ใหญ่บอกเอง

[Bruce Wayne]

การใส่บาตรไม่แน่เสมอไปว่า ทำกับ 1รูป แล้วบุญจะน้อยกว่าทำกับ 2 รูป เพราะต้องดูว่าท่านเป็นพระในระดับใด
พระภิกษุ โสดาบัน สกทาคามี อรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งอานิสงส์จะมากขึ้นไปตามลำดับ
ถ้าทำบุญกับพระ 1รูปแต่เป็นพระพุทธเจ้า ต้องได้บุญมากกว่าทำกับพระสงฆ์ปรกติ หรือพระอริยะเหล่าอื่นอยู่แล้ว
ถ้าทำกับพระโสดาบัน1 กับทำกับพระธรรมดา 2รูป ทำกับพระโสดาบันอานิสงส์ต้องมากกว่าอยู่ดี เป็นต้น

แม้วัตถุทานจะบริสุทธิ์ก็ดี เจตนาในการให้ทานจะบริสุทธิ์ก็ดีแต่ทานนั้นจะมีผลน้อยหรือมาก
ย่อมขึ้นอยู่กับเนื้อนาบุญเป็นลำดับดังต่อไปนี้

1. ทานที่ให้แก่สัตว์เดรัจฉาน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมเพียงครั้งเดียว
2. ทานที่ให้แก่มนุษย์ที่ไม่มีศีลไม่มีธรรม 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีล 5 เพียงครั้งเดียว
3. ทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีลห้า 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีล 8 เพียงครั้งเดียว
4. ทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีลแปด 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่มนุษย์ที่มีศีล 10 เพียงครั้งเดียว
5. ทานที่ให้แก่ผู้ที่มีศีล 10 คือสามเณร 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่ภิกษุผู้มีศีล 227

6. ทานที่ให้แก่พระภิกษุ 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่ พระโสดาบันเพียงครั้งเดียว
7. ทานที่ให้แก่พระโสดาบัน 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระสกิทาคามีเพียงครั้งเดียว
8. ทานที่ให้แก่พระสกิทาคามี 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระอนาคามีเพียงครั้งเดียว
9. ทานที่ให้แก่พระอนาคามี 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระอรหันต์เพียงครั้งเดียว
10. ทานที่ให้แก่พระอรหันต์ 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระปัจเจกพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว

11. ทานที่ให้แก่พระปัจเจกพระพุทธเจ้า 100 ครั้ง ได้ผลน้อยกว่าทานที่ให้แก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว

ดังนั้นต้องพิจารณาให้ดี

ส่วนที่ว่าเราควรทำอาหารใส่บาตรเองหรือจะซื้อมาใส่ดี ต้องพิจารณาว่า
"วัตถุทานที่ให้ต้องบริสุทธิ์" เช่นไม่เบียดเบียนเลือดเนื้อสัตว์ คือ ไม่ฆ่าสัตว์นำมาทำอาหารถวายพระ แต่ว่าควรจะไปซื้อเนื้อที่ตายแล้วจากตลาดสด เนื้อสัตว์นั้นย่อมเป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์ หรือ ทรัพย์ที่นำมาทำบุญ
ต้องเป็นทรัพย์ที่หามาโดยชอบธรรม เป็นต้น ส่วนจะทำเองหรือซื้อมาเอาเป็นว่าก็แล้วแต่สะดวก ทำเองได้ก็ดี
จะซื้อมาใส่บาตรก็ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจตนา ตามกำลังทรัพย์และศรัทธา

บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ หรือ การทำบุญ ๑0 ประการ

๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้บริจาคทาน การให้ การปัน การช่วยเหลือเผื่อแผ่แก่คนอื่น

๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล ๕ ศีล ๘

๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จ​ได้ด้วยการเจริญภาวนา สมถะ ​และ วิปัสสนากัมมัฎฐาน

๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จ​ได้ด้วยการอ่อนน้อมถ่อมตนแก่ผู้เฒ่า ผู้แก่ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์

๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จ​ได้ด้วยการขวนขวายในการ​ที่ดี​ที่ชอบ ​เป็นการช่วยเหลือแก่ผู้อื่น

๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จ​ได้ด้วยการแบ่ง​ส่วนบุญให้แก่คนอื่น รวม​ทั้งสัตว์อื่นทั่ว​ไปด้วย

๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จ​ได้ด้วยการอนุโมทนาสาธุ แก่ผู้อื่น​ที่​ได้ทำบุญนั้น​

๘. ธัมมะสวนมัย บุญสำเร็จ​ได้ด้วยการฟังเทศน์ ฟังธรรม ฟังปาฐกถา ฟังเรื่อง​สนทนาธรรมต่าง ๆ​

๙. ธัมมะเทศนามัย บุญสำเร็จ​ได้ด้วยการแสดงธรรม แนะนำผู้อื่นให้รู้​และเข้าใจในบาปบุญ คุณโทษ สิ่ง​ที่​เป็นประโยชน์ สิ่ง​ที่ไม่ใช่ประโยชน์

๑๐. ทิฏฐชุกัมม์ บุญสำเร็จ​ได้ด้วยการทำ​ความรู้​ความเห็นให้ถูก​ต้องตามทำนองคลองธรรม

การฟังธรรมทางทีวีนะครับ จะได้บุญข้อ ๘ ถ้าอนุโมทนาด้วยก็ได้ข้อ๗ด้วยเป็นอย่างน้อย ถ้านั่งสมาธิตามไปก็ข้อ๓ ด้วยครับ

[หัดฝัน]

เสริมคุณ Bruce Wayne นิดหนึ่งนะครับว่า

แม้ทำทานกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังมีอานิสงส์ไม่เท่ากับ การตั้งใจถวายพระภิกษุเป็นสังฆทาน ไม่เจาะจงรูปหนึ่งรูปใด โดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุขน่ะครับ

[Tree]

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

[usr23796]

บทสำรวจตนเอง
เพื่อเป็นผู้งามออกมาจากภายในตั้งแต่วันนี้ และเตรียมรูปโฉมดีๆไว้สำหรับอนาคตชาติ ขอให้ถามตนเองเป็นข้อๆดังนี้

๑) เรายังเป็นผู้ยินดีให้ทานอยู่หรือไม่?
๒) ขณะให้ทานนั้นเรายิ้มแย้มผ่องใสได้ด้วยจิตอันเปี่ยมศรัทธาในบุญ หรือไม่?
๓) เราเป็นผู้รู้สึกสะอาดออกมาจากหัวใจเมื่อถนอมรักษาศีลไว้ได้ตามเจตนา หรือไม่?
๔) เราเป็นผู้มองด้วยสายตาใยดีมีเมตตาหรือชอบแกล้งทำตาดุให้คนกลัว?
๕) เราเป็นผู้เปล่งเสียงอันประกอบด้วยน้ำจิตคิดเป็นประโยชน์หรือใช้เสียงใน
การข่มขู่ให้คนขุ่นใจ?
๖) เราเป็นผู้อ่อนน้อมหรือแข็งกระด้างต่อคนและสัตว์?

วิญญาณที่สะอาด วิญญาณที่มีประกายสุขจากการถึงพร้อมซึ่งความสุจริตทางกาย วาจา ใจนั้น ย่อมให้ความรู้สึกบอกตัวเองว่าตนจะเป็นผู้น่าดู ไม่น่ารังเกียจ
จากนักเรียนอนุบาลฝันในฝัน พันธุ์ว่าอย่างไรก็ว่าตามกัน