
นางชัมพุกา หญิงสาวผู้พบรักแท้ ภาค2
#1
โพสต์เมื่อ 07 September 2009 - 05:24 PM
แต่นั่นมันเป็นเรื่องราวในนิยายน้ำเน่า(ผมเสริมเข้าไปเอง) ก็ในเมื่อเขาไม่รักเรา แถมยังคิดจะฆ่าเรา เราจะพลีชีพเพื่อเขาไปทำไม เมื่อคิดได้ดังนั้น สติของนางก็กลับแจ่มใส พลางครุ่นคิดหาวิธีหาตัวรอด ด้วยความที่นางเป็นผู้มีบุญมีปัญญา เพียงแต่ถูกความรักมาบดบังชั่วคราว จึงไม่ได้นำปัญญามาใช้ ครั้นตอนนี้ ความตายมาอยู่ตรงหน้าสติปัญญาก็แจ่มใส เห็นหนทางรอดขึ้นมา
นางจึงแกล้งตีหน้าเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง พรางบอกว่า "ในเมื่อพี่ต้องการให้น้องตายเช่นนั้น น้องก็ยินดีขอเพียงให้พี่มีความสุข(ว่าเข้าไปนั่น) เพียงแต่การจากกันครั้งนี้ของเราจะเป็นการจากกันชั่วกาลปาวสาน ดังนั้น ก่อนที่น้องจะตาย ขอให้น้องได้ทำประทักษิณ(แสดงความเคารพ)พี่ในทิศทั้ง 4 ด้วยเถิด"
โจรหนุ่ม เห็นว่า นางช่างภักดีต่อตนเหลือเกิน ประกอบกับชะล่าใจไม่คิดว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่นี้จะทำอะไรตนได้ ก็เลยยอมตามใจนาง
เขาหันหลังเข้ากับภูเขา แล้วบอกว่า "เอ้าจะทำอะไรก็ลงมือทำเถิด อย่าเสียเวลาก็แล้วกัน"
นางชัมพุกา จึงตรงเข้าไปทำประทักษิณโจรหนุ่มทางทิศตะวันออกก่อน ต่อจากนั้นก็เวียนไปทางทิศเหนือ เวียนต่อไปทางทิศตะวันตก และสุดท้ายก็มาถึงทางทิศใต้ ซึ่งมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมพอดี ตามแผนการที่นางได้วางไว้ คือ อยู่ทางด้านหลังของโจร นางไม่รอให้โอกาสนี้ผ่านไป ได้ใช้กำลังทั้งหมด ผลักโจรหนุ่มลงสู่เหวลึก (กลายเป็นห้วงรักเหวลึก พอดี) ทันที
เมื่อผลักโจรลงไปแล้ว นางเองก็ไม่ีมีหน้าไปสู้หน้าพ่อแม่ได้ จึงหนีจากไป เดินทางร่อนเรไปพบกับสำนักนักบวชแห่งหนึ่ง เรียกกันว่า สำนึกปริพาชก นางจึงได้เข้าไปสมัครเป็นศิษย์ ร่ำเรียนความรู้จากสำนักปริพาชก เรียนอยู่ไม่นานก็สำเร็จปริญญาตรี เอ้ย มีความรู้ของสำนักปริพาชกแบบไม่ธรรมดาคนหนึ่งทีเดียว
ครูบาอาจารย์ จึงบอกให้นางไปท้าประลองวาทะกับผู้คนทั้งหลาย ใครที่สามารถทำให้นางพ่ายแ้พ้ได้ ถ้าเขาอยู่ครองเรือน ก็ให้นางอุทิศตนเป็นภรรยาเขา แต่ถ้าเขาเป็นนักบวช ก็ให้นางฝากตนเป็นศิษย์เขา
นางจึงไ้ด้กระทำตามคำสั่งของอาจารย์เรื่อยๆไป แต่ไม่มีผู้ใดสามารถหักล้างกับวาทะของนางได้เลย จนนางได้ฉายาว่า ชัมพุปริพาชิกา
วันหนึ่ง พระสารีบุตรเถระ ผู้มีปัญญาเป็นเลิศ เดินทางผ่านมา ครั้นพระเถระทราบข่าว จึงได้ให้เด็กๆ แถวนั้น เด็ดกิ่งหว้าที่นางปักไว้ ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการท้าประลองวาทะ
นางเห็นเด็กๆ ไปเด็ดกิ่งไม้ของนางเล่น ก็ตรงเข้าไปต่อว่าเด็กๆ ครั้นเด็กชี้มือไปทางพระเถระ นางจึงทราบทันทีว่า ท่านต้องการประลองวาทะกับนาง นางเห็นเป็นโอกาสอันดี ที่จะส่งเสริมชื่อเสียงของสำนักอาจารย์นาง จึงได้ป่าวประกาศให้ฝูงชนทราบ ว่าในวันนั้นๆ จะมีการประลองวาทะ ระหว่าง ชัมพุปริพาชิกา กับ ศิษย์ของพระสมณโคดม
ข่าวนี้แพร่ไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง ครั้นถึงวันประลอง อินเดียมุงก็มามุงกันอย่างมากมายทีเดียว เพื่อชมการประลองนี้ นางเริ่มต้นด้วยการถามคำถามของสำนักปริพาชก แต่ไม่ว่า นางจะถามคำถามใด พระสารีบุตรก็สามารถตอบได้อย่างลึกซึ้ง เกินกว่าที่นางเคยเรียนมาเสียอีก นางหารู้ไม่ว่า ก่อนพระสารีบุตรจะมาบวชเป็นพระ ท่านเคยเป็นศิษย์ของสำนักปริพาชกชั้นเยี่ยมยอดมาก่อน
ถามจนกระทั่งความรู้หมดไส้หมดพุงแล้ว นางก็นิ่งไปสักพัก พระสารีบุตรจึงกล่าวว่า ขออาตมาถามบ้างได้ไหม นางก็ยอมให้ถาม
พระเถระถามว่า "ทุกสรรพสิ่งในโลก ล้วนมีความเป็นคู่ พระอาทิตย์คู่พระจันทร์ กลางวันคู่กลางคืน อ่อนคู่กับแข็ง สุขคู่กับทุกข์ แต่มีอยู่สิ่งเดียวเท่านั้นที่มีเพียงหนึ่ง ไม่มีคู่เลย สิ่งนั้นคือ อะไร"
(สิ่งนั้นก็คือ นิพพาน นั่นเอง แต่นางย่อมไม่มีทางทราบ) ครั้นนางบอกว่า ไม่ทราบ อยากจะขอเรียนรู้จากพระเถระ พระเถระจึงบอกให้นางบวช นางได้ตกลงใจบวชเป็นภิกษุณี ปฏิบัติธรรมอยู่ไม่นาน ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์เถรี
พบรักแท้ภายในตัว มีแต่ความสุขบริบูรณ์ ไม่มีวันกลายกลับเป็นทุกข์อีกตลอดไป
#2
โพสต์เมื่อ 07 September 2009 - 06:42 PM
พระเถระถามว่า "ทุกสรรพสิ่งในโลก ล้วนมีความเป็นคู่ พระอาทิตย์คู่พระจันทร์ กลางวันคู่กลางคืน อ่อนคู่กับแข็ง สุขคู่กับทุกข์ แต่มีอยู่สิ่งเดียวเท่านั้นที่มีเพียงหนึ่ง ไม่มีคู่เลย สิ่งนั้นคือ อะไร"
(สิ่งนั้นก็คือ นิพพาน นั่นเอง แต่นางย่อมไม่มีทางทราบ) ครั้นนางบอกว่า ไม่ทราบ อยากจะขอเรียนรู้จากพระเถระ พระเถระจึงบอกให้นางบวช นางได้ตกลงใจบวชเป็นภิกษุณี ปฏิบัติธรรมอยู่ไม่นาน ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์เถรี
พบรักแท้ภายในตัว มีแต่ความสุขบริบูรณ์ ไม่มีวันกลายกลับเป็นทุกข์อีกตลอดไป
ซาบซึ้ง จนน้ำตาเล็ด น้ำตาร่วง..... :'(
รสใด ฤา จะ เลิศ เท่ารสแห่งธรรม
หากนางไม่ได้พบพระสารีบุตร อาจต้องไปบังเกิดใน นรกขุม 1 เพราะเหตุแห่ง ปาณาติบาต เป็นแน่....
สาธู๊ สาธู๊ สาธู๊ กับธรรมะ อันประเสริฐ ที่คุณหัดฝัน นำมาฝากค่ะ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#3
โพสต์เมื่อ 07 September 2009 - 07:53 PM
#4
โพสต์เมื่อ 07 September 2009 - 08:43 PM
สาธุค่ะ คุณหัดฝัน
#5
โพสต์เมื่อ 08 September 2009 - 04:35 AM
สาธุ ครับผม
#6
โพสต์เมื่อ 08 September 2009 - 08:48 AM
สักวันหนึ่ง "ยึดมั่นความดี" จะต้องพบรักแท้ให้ได้ค่ะ....
สาธุ...สาธุ....สาธุ
#7
โพสต์เมื่อ 08 September 2009 - 09:25 AM
ถ้าอ่านภาค1 จะเห็นว่ารักแท้ทางโลกนั้น ทำให้คนตาบอด
พออ่านภาค2 จะเห็นว่ารักแท้ทางธรรม ทำให้คนตาใส
#8
โพสต์เมื่อ 08 September 2009 - 10:46 AM
กำลังจะหารักแท้ ภายในตัวเองเหมือนกันค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 08 September 2009 - 11:36 AM
#10
โพสต์เมื่อ 08 September 2009 - 02:34 PM
#12
โพสต์เมื่อ 08 September 2009 - 05:25 PM
#13
โพสต์เมื่อ 09 September 2009 - 02:23 AM
ชมรมคนหน้ากลม