มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[น้ำค้างกลางใจ]

ดิฉันทำงานประจำอยู่ แต่ว่าอยากมีรายได้เพิ่ม จึงหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านเสาร์-อาทิตย์ ดิฉันรู้สึกสนุกกับงานมาก แต่ไปมีเรื่องทะเลาะกัน เกิดการโต้เถียงกัน ทำให้เขาไม่คุยด้วย และเขาก็จะไ่ม่ปรึกษาอะไรกับดิฉันเลย เขาจะคุยกับหุ้นส่วนที่เหลืออีก 2 คน (หุ้นส่วน 4 คนคะ) ซึ่งดิฉันเป็นคนที่แคร์คน จึงทำให้ทุกข์ ดิฉันพยายามที่จะคุยกับเขา และเคลียร์แล้ว แต่ว่าเขาไม่ค่อยพูดด้วย ซึ่งทำให้ดิฉันอึดอัดใจมาก ดิฉันพยายามให้เพื่อนที่เหลือเคลียร์ให้ แต่ว่าเขาเคลียร์แบบไม่เป็นกลาง จึงทำให้มีปัญหากับอีก 2 คน ซึ่งอีกคน เป็นพี่เขา ซึ่งเขาเข้าข้าง ทำให้ดิฉันรู้สึกแย่มาก ขอรบกวนเพื่อนกัลยาณมิตรช่วยชี้แนะหน่อยว่าควรทำอย่างไรดี เพราะไปทำงานไม่มีความสุขเลย เพราะดิฉันรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินไปแล้ว เพราะเวลามีอะไร เขาจะไม่เคยถามและปรึกษาหุ้นส่วนอย่างดิฉันเลย ดิฉันควรจะถอยออกมาดีไม๊คะ ใจนึงก็ชอบงานที่ทำ แต่อีกใจก็รู้สึกอึดอัดมาก


ขอบคุณคะ

ปล.หลังจากลงทุนกับเพื่อน ทำให้ไม่ค่อยได้มาวัด ใจก็หยาบ

[@--แสงตะวัน--@]

รู้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น ผมว่าคำตอบคือประโยคสุดท้ายที่คุณน้ำค้างกลางใสเขียนเป็น ปล. ไว้นั่นเอง

ปล.หลังจากลงทุนกับเพื่อน ทำให้ไม่ค่อยได้มาวัด ใจก็หยาบ

ธุรกิจต้องคู่กับจิตใจครับ อย่าทิ้งอันใดอันหนึ่ง ยิ่งเราเป็นทัพหน้าโอกาสตีแตกจากข้าศึกย่อมง่ายเป็นธรรมดา ดังนั้นอย่าห่างหมู่คณะครับ สำคัญๆ

มาเรืื่องธุรกิจกันดีกว่า ประสบการณ์ส่วนตัวในการทำธุรกิจกับเพื่อนของผม (ไมต้องเอาเป็นแบบอย่างก็ได้นะครับ แค่ share ให้ฟังเฉยๆ) นั่นคือ ยอมครับ ยอมอย่างเดียว เสนอความคิดบ้างแต่สุดท้ายก็ให้ความคิดของเพื่อนเป็นหลัก ขาดทุนช่างมัน อย่าคาดหวังว่าจะรวยจากการทำธุรกิจกับเพื่อน และอย่าทุ่มจนหมดตัว บอกแล้วครับไม่ต้องเอาเป็นแบบอย่างหรอกครับ อิ อืิ เพราะมันขึ้นกับการทำงานของแต่ละคน ผมว่าถ้าจะทำธุรกิจกับเพื่อนรอให้เรามีตังค์เยอะๆ แล้วเราก็ไ่ม่ลำบากนัก ลงแต่เงิน ความคิดบ้าง และอย่าหวังรวยครับ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน เพราะผมเองก็เป็นคนแคร์ความรู้สึกคนอื่นมากๆ ด้วยเช่นเดียวกัน โดยส่วนผมก็ได้ข้อสรุปคร่าวๆ ของการทำธุรกิจส่วนตัวนั้นคือ ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดและสามารถดูแลธุรกิจได้ด้วยตัวของเราเองเป็นหลัก

ปล. แค่หนึ่งมุมมองความคิดนะครับ อย่าเชื่อมาก :-) แล้วอย่าลืมมางานวันคุ้มครองโลกนะครับ

[somchet]

แยกออกมา ... ทำคนเดียว ... อย่าหุ้นกับคนที่ ทิฏฐิ ศรัทธา ศีล จาคะ ไม่เสมอกับเรา ... ระยะยาว ยังไงก็ไม่ดี

ถ้ารักงานที่ทำ แสดงว่า มี อิทธิบาท 4 ... คนมี อิทธิบาท 4 คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ทำอะไรก็สำเร็จครับ

เหตุการณ์อาจบังคับให้คุณรวย .... ลุยโลดเลยครับ ...

[หัดฝัน]

เห็นด้วยกับเพื่อนๆ นักเรียนครับ น่าจะหาอาชีพที่ได้มาวัดสร้างบุญ ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจกับจิตใจไปด้วยกัน

[usr23182]

เมื่อความทุกข์มาเยือน คุณคงสับสน เครียด และ ทุกข์มาก ก่อนอื่นคุณต้องนั่งสมาธิทุกวัน ให้ใจสงบก่อนค่ะ
เราขอเป็นกำลังใจให้กับคุณค่ะ ในโลกนี้ไม่มีคุณทุกข์คนเดียว คนบนโลกนี้ยังมีอีกมากมายที่มีความทุกข์ สู้ ๆ อดทนต่อน่ะค่ะ
ก่อนจะตัดสินใจ ลองมาตั้งคำถาม คำตอบที่ละประเด็น แล้วคุณจะรู้ใจตัวเองค่ะว่าอยากทำยังไงดี

1.ก่อนอื่นขอถามก่อนน่ะค่ะ คุณจะตอบเราหรือไม่ก็ได้ค่ะ เขา คือ เพื่อน หรือแฟน ค่ะ

2.ถ้าเป็นแฟน เขาไม่คุยกับคุณเลย ต้องตรวจสอบก่อนว่า เขามีผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า
ถ้าเขามีคนอื่น คุณไม่สามารถทำให้เขากลับมาหาคุณได้อีก คุณจะทำยังไง
ถ้าเขาไม่มีคนอื่น แต่ เขาไม่คุยกับคุณ คุณจะทำยังไง ให้เขาหายโกรธคุณ

3.ถ้าเขาเป็นแฟนคุณ เขายังชอบคุณอยู่อีกไหม ประเด็นสำคัญคงอยู่ที่ตรงนี้ทึ่จะทำให้คุณจะอยู่หรือไป

4.คุณต้องถามใจตัวเองก่อนว่า คุณยังชอบเขาแบบแฟนอยู่ไหม หรือ คุณชอบเขาแบบเพื่อน
ข้อนี้ ต้องระวังน่ะค่ะ เพราะผู้หญิง หลายคน มักจะปากกับใจไม่ตรงกัน มันจะทำให้คุณเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม
ขอโทษน่ะค่ะ เราไม่มีเจตนาจะกล่าวร้ายคุณค่ะ แต่อยากให้คุณแสดงออกให้ตรงกับใจ จะทำให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้องมากขึ้น

5.ความอดทน และ เวลา เท่านั้นที่จะทำให้ คุณ กับ เขา ปรับความเข้าใจกันได้ ถ้าคุณและเขายังมีใจต่อกัน

6.เขาเคยแสดงอาการที่ไม่อยากให้คุณถือหุ้นกับเขาต่อไปอีกไหม เขาเคยพูดกับเพื่อน หรือ บอกคุณ หรือแสดงอาการหรือไม่

7.ถ้าเขาไม่ได้ชอบคุณแบบแฟนแล้ว เขายังอยากเป็นเพื่อนกับคุณอยู่ไหม สามารถคบกับคุณแบบเพื่อน ไม่ใช่ แฟน ได้ไหม
กรณีนี้ คุณต้องเคลียร์ใจตัวเอง และ ต้องยอมรับสภาพว่า เป็นได้แค่เพื่อนกันด้วยน่ะค่ะ ถ้าคุณยังต้องการถือหุ้นอยู่อีก

8.หากคุณต้องการถือหุ้นอยู่ ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร จะคบกับเขาแบบแฟน หรือ เพื่อน คุณก็ต้อง อดทน

9.ถ้าเขาแสดงออกว่า เป็นเพื่อนกันได้ ยังคงคุยกับคุณ ยังคงให้คุณถือหุ้น เขาไม่เดินหนีคุณ เขาไม่เสียมารยาทกับคุณ
เขายังคงให้คุณร่วมงาน ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย เขายังคงหัวเราะกับคุณ แม้จะในฐานะเพื่อนก็ตาม ไม่ใช่แบบแฟน
ถ้าคุณยอมรับได้ และคุณก็ยินดีที่จะเป็นเพื่อนกัน คุณก็จะอยู่ในกลุ่มถือหุ้นอยู่ต่อไปได้ค่ะ

10. ยกเว้นทุกกรณี คุณรับไม่ได้ทุกกรณี คุณก็ต้องถอยออกมาค่ะ

11.ถ้าเขาก็ไม่ได้อยากเป็นแฟน ไม่อยากเป็นเพื่อนกับคุณอีกทุกกรณี ไม่อะไรทั้งสิ้น คุณถอยออกมาเถอะค่ะ เพราะเขาไม่มีพื้นที่ให้
คุณอยู่อีกต่อไปแล้วค่ะ คุณจะเจ็บปวดมากทำร้ายตัวเองอยู่อีกทำไมค่ะ


ทุกกรณี คุณคงต้อง ตั้งคำถามให้ตัวคุณเอง และ ตอบคำถามก่อน แล้วคุณจะเริ่มเข้าใจความต้องการของตัวคุณเอง ตัดสินใจง่ายขึ้น

ขอให้คุณโชคดี ปรับความเข้าใจกับเขาให้ได้่ค่ะ ลูกหลวงพ่อเหมือนกัน


ถ้าเขียนอะไรมาไม่ถูกใจคุณ ก็ขอโทษด้วยค่ะ พยายามดีที่สุดแล้วค่ะ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ค่ะ

อย่าลืมนั่งสมาธิเยอะ ๆ น่ะค่ะ ดีที่สุดแล้วค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ


มาเตรียมใจใสใส รับบุญ 4 bigboon กันดีกว่าค่ะ

[usr23182]

คุณน้ำค้างกลางใจค่ะ

ความสุข ไม่จำเป็นต้องเกิดจากการคบกันเป็นแฟน แต่ เกิดจากการคบกันเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ

การให้อภัยต่อกันเป็นสิ่งทีดีทีสุดแล้วค่ะ เราขอเอาใจช่วยให้เขาให้อภัยคุณเร็ว ๆ

ถ้าเขายอมรับคุณเป็นเพียงแค่เพื่อน ยอมให้คุณร่วมงาน ร่วมกิจกรรมด้วยในบางครั้ง แม้จะไม่ทุกอย่างแม้จะไม่ทุกครั้งเหมือนเดิม

แค่นี้ ถ้าคุณยอมรับได้ คุณก็จะมีความสุขได้ค่ะ

พรุ่งนี้วันงานบุญใหญ่ ก็ชวนทีมงานทั้งหมดมาร่วมบุญกันสิค่ะ มาเอาบุญใหญ่ด้วยกัน

จะมีเวลาเหลือมากแค่ไหนที่จะมีโอกาสทำบุญด้วยกันอีก จะมีเวลาได้เห็นหน้ากันอีกมากแค่ไหน ชวนเพื่อนมาร่วมงานเยอะ ๆ น่ะค่ะ

วันมะรืน อนาคตข้างหน้ายังมาไม่ถึง ทำวันนี้ให้ดี ทำวันที่ยังเจอหน้ากันให้มีความสุข ความสบายใจต่อกัน เผลอแป๊ปเดียวก็หมดเวลา

หมดลมหายใจแล้วค่ะ วันนี้คุณยิ้มให้ตัวเองยังค่ะ ยิ้มเถอะค่ะ ชีวิตเป็นของคุณ ไม่มีใครมายิ้มแทนคุณได้ค่ะ

ขอเอาใจช่วยให้คุณกับเขาเข้าใจกันค่ะ คุณน้ำค้างกลางใจค่ะ

[น้ำค้างกลางใจ]

ขอขอบคุณทุกท่านที่มีจิตเมตตา ให้คำตอบ และเป็นกำลังใจให้นะคะ ทำให้รู้สึกดีขึ้นคะ เราคือลูกพ่อเดียวกัน

อย่าลืมไปเอาบุญวันที่ 22 เมษายน นี้คะ อนุโมทนาบุญคะ