ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * - - 2 คะแนน

พ่อและน้องชาย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 May 2010 - 11:41 PM

พ่อและน้องชายเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาชอบดูถูกดูหมิ่นพระพุทธศาสนาว่าสอนแต่เรื่องงมงายไม่มีจริงดูถูกดูหมิ่นคนที่ชอบทำบุญมี ทาน ศีล ภาวนา ว่าเป็นคนงมงายโง่เง่านั่งเฝ้าคอยบุญ ถึงมีผู้ใดมาสอนธรรมะดีๆในพระพุทธศาสนาให้รับฟังก็ไม่ฟังไม่พอใจกับโกรธใหญ่ว่าไปสอนเค้าแล้วก็พูดให้คนอื่นเสียใจรวมทั้งตัวผมด้วยไม่มีใครสอนได้เลยจริงๆอยากรู้ว่าวิบากกรรมที่พ่อและน้องชายทำจะมีผลอย่างไรและผมควรทำอย่างไรดีครับ?

#2 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 02 May 2010 - 12:09 AM

โอ้โห เป็น package เลยนะ ....

จริงๆ คำถามน่าจะเป็น "พี่ครับ ผมควรทำอย่างไรให้คุณพ่อกับน้องชายมีสัมมาทิฐิน่าจะดีกว่านะครับ"

แล้วขอถามเจ้าของกระทู้นะครับว่าเมื่อรู้แล้วว่าพ่อกับน้องชายมีวิบากกรรมอะไร แล้ว จขกท. จะทำอย่างไรต่อไป :-)

"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#3 PTDL

PTDL
  • Members
  • 175 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Chicago, USA

โพสต์เมื่อ 02 May 2010 - 04:23 AM

nerd_smile.gif

#4 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2010 - 04:31 PM

ขอบคุณมากๆครับที่ให้กำลังใจและคำแนะนำที่ดีๆจากทุกๆท่านผมจะเก็บไว้สอนตัวเองครับผมจะสู้ต่อไปครับขอบคุณมากๆครับ

#5 Santi072

Santi072
  • Members
  • 151 โพสต์
  • Gender:Not Telling

โพสต์เมื่อ 02 May 2010 - 05:52 PM

จำที่คุณยยเคยบอกไว้ไมได้เหรอครับ

"ชาตินี้เป็นสุดท้าย"

การสร้างบารมีมันก็ต้อง อด กับ ทน หนะครับ

คุณลองคิดดูนะครับ

ว่าคนที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา แต่พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย มีความเชื่อในศาสนาอื่น

คิดดูนะครับ ว่าเขาต้องอดทนแค่ไหน
พุทธบุตรสายโลหิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เราพันธุ์ดีสุดขั้ว ชั่วลืมไปหมดแล้ว,จิตใจสูงส่งเหลือเกิน,มีปัญญา,มีมงคล,ทำที่ท่านได้ที่เรา

#6 usr34404

usr34404
  • Members
  • 16 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2010 - 07:02 PM

คงยัง
ยากมากที่คุณจะบรรลุนิพพาน เพราะคุณยังขาดความเข้าใจในหลายๆเรื่องซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่รู้สึกอย่างนั้นกะผู้อื่นแน่ๆ

ผมถามกลับหนึ่งข้อนะครับ พระพุทธเจ้าทรงออกค้นหา "ความจริงอันประเสริฐ ค้นหาหนทางดับทุกข์" ขั้นแรกนี้ท่านทำก็เพื่อตัวเอง เพราะไม่อยากจะมาทนอยู่ในวัฐสงสาร ที่ท่านทรงมองออกว่ามันเป็นทุกข์ แต่พอท่านทรงตรัสรู้ได้ ท่านจะปรินิพพานเลยก็ได้ หรือท่านจะอยู่ของท่านเฉยๆก้ได้ แต่ทำไมท่านกลับเลือกออกเผยแผ่ความรู้ความจริงเหล่านั้น ทำไมท่านจึงเกิดอยากช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก อยากช่วยชีวิตอื่นๆเล่า ลองท่านคบคิดหาคำตอบดู

ปัญญา และ ความรัก สองสิ่งนี้ไม่อาจแยกออกจากกัน สิ่งหนึ่งจะนำไปสู่อีกสิ่งเสมอ เมื่อมีปัญญาถึงจุดหนึ่งคุณจะเป็นความรัก เมื่อมีความรักความรักก็จะนำคุณสู่ปัญญา

พระเยซูเคยตรัสว่า เมื่อมีคนตบแก้มขวาท่าน ก็จงยื่นแก้มซ้ายให้เขาด้วย นี่คือผู้ที่เข้าถึงความรักที่แท้ ความรักจะไม่กลัว จะไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อถอย ไม่เบื่อ ไม่เป็นทุกข์ เนื่องเพราะรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเพื่อสิ่งใด และการกระทำของความรักนั้นไม่ขึ้นต่อสิ่งใด และไม่คาดหวังอะไรตอบแทน

คุณจะไม่สอนผู้อื่น ไม่ช่วยผู้อื่นใช่ไหม ถ้าคุณรู้ว่าเขาจะไม่เชื่อ หรือไม่ตอบแทนหรือขอบใจคุณ ตกลงว่าคุณทำเพราะอยากจะทำ เพราะรู้ว่าทำแล้วดีทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น หรือคุณทำเพื่อเอาหน้ากันแน่ คุณไม่รู้หรือว่าองค์พระพุทธเจ้าหรือพระเยซูต้องโดนอะไรยิ่งกว่าที่ท่านโดนขนาดไหน ในการเผยแผ่สัจจะอันยิ่งใหญ่ทั้งหลาย แต่ทำไมท่านทั้งสองยังเลือกที่จะทำ ถ้าท่านเลือกอย่างที่คุณเลือก เลือกจะรู้สึกอย่างที่คุณรู้สึก ทุกวันนี้เราก็คงไม่มีทั้งศาสนาพุทธและคริสต์

ความทุกขืที่คุณรู้สึกนั้นไม่ได้ขึ้นกะใคร ไม่ได้ขึ้นกะผู้อื่นเลย แต่มันขึ้นตรงต่อจิตใจของคุณเองนั่นแหละ คุณเองนั่นแหละที่ยอมรับการตอบสนองของผู้อื่นไม่ได้ แสดงว่าคุณเอาแต่คาดหวังว่าผู้อื่นต้องเชื่อถือคุณทั้งหมด แสดงว่าคุณยังรักในตัวกูของกู หน้าตากู ชื่อเสียงกู มากกว่าที่จะรักผู้อื่น

ความรักที่แท้จะไม่เป็นอย่างนี้ ความรักที่แท้จะไม่บังคับให้ผู้อื่นต้องเชื่อ มันจะแค่คอยแนะนำ คอยบอกกล่าว ไม่เชื่อก็ไม่ว่า ไม่บังคับ แต่จะรอคอยอย่างสงบ ไม่หนีหน้าหายไปไหน รักที่แท้จะรอคอยอยู่เคียงข้าง เพื่อรอเวลาที่เขาเหล่านั้นจะเปิดใจรับความช่วยเหลือจากเรา หรือเปิดโอกาสให้เราได้แนะนำหรือบอกกล่าวแก่เขาอีกครั้ง หรือรอคอยที่เขาเหล่านั้นที่ไม่เชื่อถือเราจะเปลี่ยนใจ

อีกเรื่องที่คุณต้องเข้าใจคือ ทุกชีวิตมีเงื่อนเวลาที่เป็นของตน มีวาระของตน คุณไม่คิดเหรอว่าก่อนที่คุณจะตื่นรู้เท่านี้ คุณไม่เคยโง่เขลาแบบพ่อและน้องชายของคุณมาก่อน คุณไม่เคยปฏิเสธความช่วยเหลือของคนอื่นมาก่อนเลยหรือ แล้วทุกคนที่คุณเคยปฏิเสธล่ะ พวกเขาเหล่านั้นต้องเป็นทุกข์เพราะคุณด้วยเหรอเปล่า

แท้จริงแล้วเราไม่อาจทุกข์ทรมานด้วยผู้อื่นได้ สิ่งอื่นเป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่ง อีกปัจจัยคือตัวเราเอง มีคนตบหน้าเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องตอบสนองด้วยการตบกลับเสมอไปนี่ ไม่จำเป็นแม้แต่ที่เราจะต้องรู้สึกโกรธ โมโห หรือเคียดแค้น คนที่เลือกทำเลือกตอบสนองอย่างข้างต้นนั้นคือผู้ที่ยังไม่รู้เท่านั้น ผู้รู้จะไม่ทำอย่างนั้นเลย เพราะมีทางเลือกที่ดีกว่านั้นอีกเยอะไป อาจตอบสนองเพียงแค่นิ่ง อาจจะยิ้มตอบไปก็ยังได้ อาจเดินหนี อาจจะให้อภัย อาจจะสงสารเพราะรู้ว่าเขาต้องรับกรรมนั้นเอง หรืออาจถึงขั้นยื่นแก้มอีกข้างให้เขา

ลองคบคิดทั้งหมดนี่ดูนะครับ น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

การไม่เชื่อหรือปฏิเสธอะไรโดยไม่คบคิดพิจารณาก่อน ก็โง่เขลาพอๆกะการที่เชื่อหรือยอมรับอะไรโดยไม่คบคิดพิจารณาก่อนเช่นกัน

#7 usr23182

usr23182
  • Members
  • 114 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2010 - 11:17 PM

คุณดอกอุบลค่ะ
คุณไม่ใช่คนเดียวค่ะที่คนในบ้านไม่เข้าวัดทำบุญ ยังมีอีกหลาย ๆคนที่เข้าวัด และ เจอปัญหาเดียวกับคุณ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้อ่านหนังสือต้องเป็นให้ได้ดั่งเช่นพระพุทธเจ้า เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 10 ปี รื้อมาอ่านอีกรอบแล้วก็ได้อะไร ๆ ดี ๆ อีกครั้ง
คุณรู้ไหมค่ะ ทำไมพระพุทธเจ้าจึงสอนคนหลาย ๆคนได้ เช่น ชฎิล 3 พี่น้อง เป็นต้น
1.จะต้องสร้างศรัทธาก่อน พระพุทธองค์แสดงปาฏิหาริย์ให้ดู
2.เปิดใจได้ สร้างความเชื่อมั่นในตัวของพระพุทธองค์
3.พร้อมรับฟัง

คุณล่ะ เริ่มต้นพิจารณาตัวเองก่อน ตัวเองมีอะไรที่ ทุกคนรอบข้างเขาศรัทธา คุณ (ไม่ได้ตำหนิคุณค่ะ แต่อยากให้พิจารณาตัวเองก่อน)
ถ้าเขาศรัทธาคุณ เขาก็เปิดใจ และ พร้อมรับฟังคุณค่ะ

ถ้าเริ่มต้นที่ตัวเองยังไม่ได้ ลองมาใช้วิธีง่าย ๆ ดูก่อนก็ไ้ด้ค่ะ ลองเปิด VCD เปิดเสียงดังพอประมาณว่าเขาได้ยินชัด ไม่ต้องเรียกให้
เขาฟังน่ะค่ะ เขาจะไม่ฟัง แรก ๆ เขาจะบ่น คุณก็ไม่ต้องเถียง ไม่ต้องใส่ใจ ถ้าเขาบอกหรี่เสียง ก็หรี่เสียง แต่มีภาพอยู่ อย่างน้อยก็ต้องมี
สายตาเหลือบดูบ้างล่ะ ให้ทำบ่อย ๆ ทุกวัน จากบ่น จะเริ่มเงียบและตั้งใจฟังค่ะ

ไม่มีใครที่อยากได้ยินคำสอน เพราะเขาจะรู้สึกว่าตนเองโง่ แล้วคุณฉลาดอยู่คนเดียว การแนะนำ มีหลายวิธีที่จะเลือกใช้
คุณคุยกับเขาตรง ๆ ไม่ได้ ก็คุยกับคนที่เขาสนิทและเชื่อถือมากที่สุด ให้คนนั้นเป็นคนกลางช่วยพูดแทนคุณก็ได้ค่ะ เป็นอีกวิธีที่ได้ผลน่ะ

ก่อนคุณจะเบื่อและทุกข์ ให้มองย้อนทบทวนวิธีที่คุณไปนำเสนอ หรือ สอนเขากัน คุณใช้วิธีอย่างไรจึงเปิดใจเขาไม่ได้ ให้ทิ้งวิธีเก่า ๆ
หรือ คุณใช้อารมณืกับพวกเขาด้วยหรือเปล่า เขาจึงปิดใจไม่รับฟัง ลองทบทวนตัวเองดูก่อนน่ะค่ะ แล้วให้ตั้งสติ ระงับอารมณื
หาวิธีใหม่ ๆ ที่จะแนะนำเขาให้ได้ผลมากที่สุด ลองดูใหม่น่ะค่ะ

คุณอยากไปนิพพาน ก็สร้างบารมีเป็นพระอรหันต์ ก็ 1 อสงไขย 1 แสนมหากัป
ชาตินี้อดทนไปก่อน และ สร้างบารมีด้วยค่ะ ทำทุกวัน บารมีจะได้เต็มเร็ว ๆ จะได้ไปนิพพานได้ค่ะ ก็ 1 อสงไขย 1 แสนมหากัปเองค่ะ

ขอให้สำเร็จค่ะ จะได้ครอบครัวแก้วครอบครัวธรรมกายเพิ่มขึ้นค่ะ

สาธุ สาธู สาธุ




#8 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 02 May 2010 - 11:28 PM

...ถ้าจะถามเรื่องวิบากรรม ก็คงต้องบอกว่าหนักหนาเอาการทีเดียวครับ ความเห็นผิดหรือมิจฉาทิฏฐินี้ จะติดข้ามภพข้ามชาติได้อีกน่ะครับ เหมือนเสพคุ้นน่ะ อันตรายมากๆ จะแก้ไขก็ยากครับ ต้องให้ผู้ก่อแก้ไขเองเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นลูกก็อาจช่วยได้บ้างด้วยบุญกุศล แต่ถ้าท่านอนุโมทนาบุญไม่เป็น หรือไม่เชื่อ ไม่รู้จัก ก็แย่เหมือนกัน เรียกว่า งานนี้เป็นวิบากกรรมของคุณก็อาจว่าได้ ที่ได้เกิดในตระกูลของผู้ที่ไม่เคารพ ไม่ศรัทธา มีความเห็นผิดน่ะจ่ะ ผมว่าแก้ตัวคุณก่อน หุหุ เอาใหม่ สร้างผังใหม่ดีกว่า อธิษฐานขอให้เกิดในตระกูลที่เห็นถูกน่ะ หุหุ ต้องเรียกว่าแก้ต้นเหตุ (อดีตชาติ)
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#9 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2010 - 11:29 PM

ใจเย็นๆครับ ศาสนาพุทธเป็นความจริงของทุกสรรพสิ่ง เราค่อยๆพูดความจริงกับท่าน โดยไม่ต้องบอกว่าเป็นองค์ความรู้ที่พุทธศาสนาค้นพบ แล้วค่อยๆเฉลยไปๆ

ไม่ต้องเน้นแนวศาสนามาก เอาสัจธรรมทั่วๆไปก่อนครับ เพราะถ้าเน้นแนวศาสนาก็จะถูกต้านทันที

ยกตัวอย่างเช่น สอนเรื่องนั่งสมาธิแล้วดีอย่างไร แผ่เมตตาแล้วจะสบายใจอย่างไร สอนให้รู้จักปลงปล่อยวางจากอารมณ์ สอนให้มีสติ สอนให้รู้จักช่วยเหลือกัน ฯลฯ มากมายครับ

คุณก็ไม่บอกว่าคุณพ่อ และน้องชายนับถือศาสนาอะไร แต่ทางบ้านผมเคยเป็นเทวนิยมปัจจุบันเป็นพุทธหมดแล้ว ยายผมที่สวดแบบเทวนิยมมาตลอดชีวิต ช่วงก่อนท่านเสียก็ได้มานับถือศาสนาพุทธ พี่ชายผมจบ ดร. เป็นอาจารย์ ไม่เชื่อใครง่ายๆ จากที่ไม่เข้าวัด แต่เจอวัดพระธรรมกายกลายเป็นกลับใจมาสร้างบารมี และเพื่อนพ้องอีกหลายคนครับ ที่กล่าวตัวอย่างของผมมาเพื่อให้กำลังใจคุณนั่นเองครับ

พยายามต่อไปนะครับ เป็นบุญบารมีของเรา และเป็นการช่วยให้ท่านได้รับหนทางบริสุทธิ์ที่แท้จริง


ขอเรียนคุณ usr34404 อย่าเอาคำสอนอื่นๆอะไรมาปนเปสิครับ มันไม่ถูกกาละเทศะนะครับ

ถ้าอยากเสวนาจริงๆ ให้แตกประเด็นกระทู้ไป หรือไปหาบอดร์ที่มีห้องศาสนาอื่นๆ ห้องปรัชญาศาสนาเอานะครับ ไม่ใช่ ณ โอกาศนี้

ด้วยความเป็นมิตรนะครับ



ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#10 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 02 May 2010 - 11:39 PM

บางทีต้องให้ผู้ที่พวกเขาเคารพนับถือมาเป็นผู้สอนสั่งแทนน่ะครับ เช่น พระภิกษุผู้มี่ชื่อเสียง เขาอาจจะเริ่มรับฟังมากขึ้นก็ได้ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#11 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 03 May 2010 - 03:04 AM

โดนไปหลายดอกเหมือนกันนิ ฮิ ฮิ คุณดอกอุบลโชคดีนะครับ มีคนมาเตือนสติแบบนี้
หลายๆ คนใช้ชีวิตไปวันๆ หาคนเตือนสติซักคนก็ไม่มี คุณดอกอุบลอยู่ถูกที่ถูกเวลาแล้วหละครับ
อ่านคำตอบแล้วรักษาใจให้อยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลานะครับ ถ้าอ่านจบแล้วลืมตรึกใจให้ใส
ก็กลับไปอ่านใหม่อีกซักรอบ :-) ถ้าคนเรายอมถูกสอนได้แล้วหละก็ นั่นคือยอดคนครับ

ขอฝากทิ้งท้ายซักประโยคนะครับ "ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำตอบ" ตัวเราคือตัวแทนของวัดครับทำตัวเราเองให้ดีที่สุด บุญรักษานะครับ :-)
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#12 บ่าวอุบล

บ่าวอุบล
  • Members
  • 632 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 May 2010 - 09:30 AM

ทุกข์มีไว้ให้ทน ไม่ได้มีไว้ให้ท้อ
ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม
โลกมีไว้ให้เหยียบ ไม่ได้มีไว้ให้แบก

หลักการที่พระพุทธองค์ให้ไว้ ทำดี ละชั่ว ทำใจให้ผ่องใส
ทำใจให้ผ่องใส สำคัญมากนะครับ อยากไปนิพพานต้องทำใจให้ใส

พี่บ่าวรู้จักน้องคนหนึ่ง เป็นตระกูลคริสต์ ทั้งตระกูล แต่บุญบันดาลให้มารู้จักวัด ได้มีโอกาสเป็นประธานชมรมพุทธ ได้มาบวชรุ่นกองพันสถาปนา และได้มาเป็นพี่เลี้ยงรุ่นบวชแสน
ทุกวันนี้พ่อแม่ไม่เข้าใจ แต่น้องเขาก็ยังสร้างบารมีอย่างเบิกบาน อยากคุยกับเขาไหมครับ พี่บ่าวมีเบอร์

อดทน รอคอย ให้อภัย เป็นกำลังใจให้ครับ


#13 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 May 2010 - 06:58 AM

บางครั้งบางเรื่อง ถ้าเราพอจะพูดได้ก็ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรก็ดีนะครับ
แต่บางครั้งบางเรื่อง ถ้าไม่ใหวจริงๆ ก็วางอุเบกขา แล้วหันมาเร่งพัฒนาตัวเราต่อเถิดครับ