ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ทำไมมีเชื้อโรคอยู่ในบ้าน เมื่อก่อนผมไม่เคยคิด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 01:32 PM

เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดจริงๆ แต่พอไม่กี่วันมานี้ มีคนตั้งกระทู้ว่า ทำไมพระไตรปิฎกมีพูดถึงเรื่องพญามารผู้ขวางความดีไว้ย่อๆ แต่พูดเรื่องกิเลส กรรม วิบาก(ผลของกรรม) เป็นหลัก

แต่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ และคณะศิษยานุศิษย์พูดถึงเรื่องพญามารอย่างขยายความรายละเอียดมากๆ ทีเดียว ในที่สุด ผมถึงบางอ้อว่า อ๋อ มันก็คล้ายๆ กับคำถามว่า ทำไมจึงมีเชื้อโรคอยู่ในบ้าน กับ ทำไมจึงมีเชื้อโรคอยู่ในโลก นั่นเอง

คำถามแรก ทำไมจึงมีเชื้อโรคอยู่ในบ้าน คำตอบ สามารถมองได้ 2 มุม แล้วแต่ว่าเราจะเลือกตอบมุมไหน คำตอบมุมที่หนึ่ง คือ เหตุที่มีเชื้อโรคอยู่ในบ้าน เพราะ เชื้อโรคมันเข้ามาในบ้าน

ส่วนคำตอบมุมที่สองคือ เพราะทุกคนไม่รู้ว่า เชื่อโรคมันเข้ามาอยู่ในบ้าน ซึ่งถ้ามองคำตอบจากมุมที่สอง วิธีการแก้ไขปัญหาคือ ต้องไปอบรมชี้แจ้งให้คนอื่นๆ รู้ว่า ตอนนี้คนเหล่านั้นมีเชื้อโรคอยู่ในบ้าน และชี้แนะวิธีแก้ไขด้วยการฉีดยาฆ่าและป้องกันเชื้อ เพื่อขจัดเชื้อโรคในบ้านให้หมดไปและไม่ให้เชื้อโรคใหม่เข้ามา เท่านี้บ้านก็จะปลอดเชื้อโรค

แต่มุมมองของคำตอบที่สอง จะไม่บอกว่า แล้วเชื้อโรคมาจากไหน ทำไมเชื้อโรคจึงเข้ามาอยู่ในบ้าน เพราะนี้เพราะวัตถุประสงค์ของคำตอบ ก็เพียงต้องการกำจัดเชื้อโรคที่อยู่ภายในบ้านให้หมดไปเท่านั้นเอง ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปขยายความว่า เชื้อโรคมาจากไหน ทำไมจึงเข้ามาอยู่ในบ้าน

ตอบเพียงแค่ว่า เหตุที่มีเชื้อโรคอยู่ในบ้าน เป็นเพราะมนุษย์ทุกคนไม่รู้ว่ามีเชื้อโรคอยู่ในบ้าน เท่านั้นจบ

แต่หากเราตั้งคำถามใหม่ คำตอบก็จะเปลี่ยนไป เช่น เราตั้งคำถามว่า ทำไมจึงมีเชื้อโรคอยู่ในโลก คราวนี้คำตอบจะเปลี่ยนไปเป็น เป็นเพราะมีแหล่งกำเนิดเชื้อโรค หากต้องการให้เชื้อโรคหมดไปจากโลก ก็ต้องกำจัดแหล่งกำเนิดเชื้อโรคนี้ให้จงได้ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ

เช่นเดียวกัน หากเราต้องการกำจัดกิเลสเฉพาะตน เราก็ต้องไปหาสาเหตุว่า ทำไมเราจึงมีกิเลส คำตอบที่เราทราบจากตำราก็คือ เป็นเพราะเรามีอวิชชา(ความไม่รู้จริง)ว่าเราตกในอำนาจกิเลส วิธีแก้ปัญหาก็คือ ปฏิบัติธรรมเพื่อให้เกิดวิชชา(ความรู้จริง) จนสามารถขจัดกิเลสในตัวได้ในที่สุด

ซึ่งมาคิดดู คำตอบนี้ก็คือ คำตอบในมุมมองแรกว่า ทำไมบ้านจึงมีเชื้อโรคนั่นเอง คำตอบนี้ตอบเพียงแค่ว่า ไม่รู้จริงว่าถูกกิเลสครอบงำ ดังนั้น ให้รู้จริงซะ ก็จบ โดยไม่ต้องจำเป็นต้องไปตอบมุมมองที่สองว่า แล้วทำไมกิเลสจึงเข้ามาในใจมนุษย์ กิเลสเกิดมาจากไหน ใครส่งกิเลสมา เป็นต้น

แต่หากเรามุ่งกำจัดกิเลสให้สรรพสัตว์ทุกๆ จักรวาล จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหาต้นแหล่งของกิเลส ว่าเกิดมาจากไหน ใครส่งมาควบคุมใจมนุษย์ ก็เลยมีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดละออ นั่นเอง
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#2 Chonchai007

Chonchai007
  • Admin_Article_Only
  • 30 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 03:13 PM

แจ้วมากครับชอบมากครับ

#3 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 04:01 PM

... .... .... ....

#4 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 06:09 PM

ไม่มีคำขยายความเพิ่ม นอกจากคำเดียวตอนนี้

อนุโมทนาบุญกับข้อคิดธรรมดีๆครับ
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#5 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 06:13 PM

ผู้ที่คิดจะไปกำจัดแหล่งกำเนิดเชื่อโรค ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการกำจัดเชื่อโรคภายในบ้านก่อน เพราะหากยังไม่หายจากโรค ก็ไม่สามารถไปสู้รบปรบมือกับแหล่งกำเนิดโรคได้
ส่วนผู้ที่ไม่ได้คิดไปกำจัดแหล่งกำเนิดโรค คิดแค่กำจัดเชื้อโรคในบ้าน ก็ควรให้การสนับสนุน ถ้าไม่สนับสนุนก็ไม่ควรขัดขวาง
ไม่ใช่พอเห็นว่าการกำจัดแหล่งกำเนิดโรคนั้นเป็นไปไม่ได้ ยากกส์เกินไป หรือเป็นเรื่องเพ้อฝัน ลมๆเล้งๆ ก็จะมาขัดขวาง
ถ้าไม่คิดสนับสนุนหรือคิดไปกำจัดแหล่งเชื้อโรคด้วยกัน ก็เพียงแค่ยืนมองเฉยๆ ก็พอ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#6 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 07:31 PM

สุดยอดครับพี่หัดฝัน ขออนุญาตเอาไปทำซ้ำค๊าฟ

#7 ping

ping
  • Admin
  • 251 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 07:31 PM

เจ้าของกระทู้อุปมาอุปไมยได้สุดยอดจริงๆ สาธุ...

#8 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 08:12 PM

อนุโมทนา พี่ หัดฝัน สำหรับข้อคิดดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันด้วยครับ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#9 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 09:55 PM

เชื้อโรค ไม่ใช่ไวรัส ไม่ใช่แบคทีเรีย ไม่ใช่รา
แต่คือกิเลสในใจมนุษย์ต่างหากที่เป็นเชื้อให้เกิดโรคต่างๆ
เช่นโรคตับแข็ง ไม่ได้เกิดจากแบคทีเรียหรือไวรัส แต่เกิดจากแอลกอฮอร์ที่ดื่มเข้าไป
โรคจิตประสาท เกิดจากจิตที่หวั่นไหวกับโลกธรรมแปด
ถูกหวยดีใจมากจนบ้าก็มี อกหักเสียใจมากจนบ้าก็มี
โรคชรา ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคใดๆ แต่เพราะเรามีกิเลสเราจึงเป็นโรคนี้
กิเลสน้อยก็แก่ช้า เช่นคนในยุคพระศรีอาริยะเมตไตร
กิเลสมากก็แก่เร็วเช่นคนยุคนี้

การกำจัดเชื้อโรคให้สิ้นเชื้อไปจากโลก จึงไม่ใช่การพ่นยาปฏิชีวะนะให้ทั่วโลก
จึงมิใช่การทาแอลกอฮอร์หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ให้ทั่วหล้า
แต่คือการกำจัดต้นเหตุแห่งกิเลส ที่มาของเชื้อโรคทั้งปวง
หากในใจของมนุษย์ยังมีเชื้อกิเลสอยู่แม้เพียงคนเดียว มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายย่อมมีโอกาสป่วยได้

ดังนั้นจึงควรกำจัดเชื้อกิเลสทั้งหลายให้หมดไปจากโลกโดยเร็ว


#10 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 10:23 PM

...ต้องเอาน้ำยาธรรมะมาราดให้ชุ่มๆ
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#11 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 05 October 2010 - 09:09 AM

ลึกซืึ้งและละเอียดมากครับ... น่าวาดเป็น Diagram นะครับ เห็นภาพได้ชัดทีเดียว :-)
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#12 usr37097

usr37097
  • Members
  • 16 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2010 - 10:04 AM

คำถามสุดท้าย ที่ถามตัวเองอยู่ทุกวัน ว่า

เมื่อไหร่ "ใจเราจะหยุดนิ่ง" ได้ซะที

ว่าแล้ว ก็ ทำสมาธิดีกว่า


#13 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 05 October 2010 - 01:02 PM

ชัดเจน แจ่มแจ้ง

ตัวอย่างเห็นภาพพจน์เลย เหมือนฝันไปเห็นมา

เมื่อตะวันจะส่องแสง เมฆหมอกจะปกปิดได้ด็แค่ชั่วคราวเท่านั้นเอง