พอดีมีเพื่อนที่ทำงานถามผมว่าการอาฆาตพยาบาทผู้อื่น สาบแช่งให้ไม่มีความสุขตลอดชีวิตนั้นตัวเขาจะบาปหรือไม่
ผมรู้แต่ว่าจะทำให้ใจหมอง แต่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าบาปไหม และมีผลอย่างไรต่อตัวเราครับ
ขอบคุณครับ

การอาฆาตพยาบาทมีผลอย่างไร
เริ่มโดย nontster, Feb 22 2006 11:24 PM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 11:24 PM
#2
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 11:43 PM
บาปนะครับ สำหรับผลที่จะเกิดแก่ตัวเรานั้น ก็ต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไปว่า การกระทำดังกล่าวนั้น เราได้ปลูกเอาไว้กับผู้ใด? หากปลูกเอาไว้กับพระอรหันต์ผู้สิ้นกิเลส ผู้มีศีล มีฌานสมาบัติแล้วล่ะก็ ข้อนี้หนักและรุนแรงทันตาเห็นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม (มีความหมายว่า กรรมที่สามารถส่งผลได้อย่างเป็นปัจจุบันทันตาเห็น ครับ) เลยทีเดียวนะครับ อีกอย่างผมอยากจะฝากคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ซึ่งท่านได้เคยกล่าวไว้ในรายการของโรงเรียนอนุบาลฯ ว่า "สาปแช่งผู้อื่นอย่างไร คำสาปนั้นย่อมได้แก่ตนเอง" ครับ ทางที่ดีเลิกอาฆาต พยาบาท จองเวรกันเสียจะดีกว่านะครับ เพราะว่าคนที่มาทำให้เรารู้สึกแค้นเคืองนั้น แท้ที่จริงก็คือ เงาอดีตของตัวเราเมื่อครั้งกระโน้นนั่นเอง หากคิดได้เช่นนี้แล้ว ชีวิตของเราย่อมประสบแต่ความสุข ความทุกข์ใดๆ ย่อมไม่มากลุ้มรุมจิตใจของเราอย่างแน่นอนครับ
#3
โพสต์เมื่อ 23 February 2006 - 04:12 PM
เรียนรู้อะไรก็ไม่สู้เรียนรุ้จากชีวิตคนครับ เรื่องอาฆาตพยาบาท นี่ต้องดูพระเทวฑัตครับ ในอดีตกาลท่านเกิดเป็นพ่อค้า ที่อาฆาคพยาบาทพระโพธิสัตว์ ที่มาขัดลาภของท่าน ถึงกับกำเม็ดทรายในกำมือขึ้นมา แล้วอธิษฐานว่า ถ้าจำนวนเม็ดทรายในมือนี้ เปรียบเสมือนจำนวนภพชาติที่จะเกิดต่อไปในอนาคตแล้วไซร้ ท่านจะขอตามจองล้างจองผลาญพระโพธิสัตว์ไปทุกชาติ ตราบถึงนิพพานกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว
ผลลัพธ์ก็คือ เมื่อพระเทวทัตเกิดมาพบพระโพธิสัตว์ครั้งใด จะตามจองล้างจองผลาญไปทุกครั้ง บางครั้งก็สำเร็จ เช่น พระโพธิสัตว์เกิดเป็น ขันติวาทีดาบส ถูกพระเทวทัตฆ่าตายอย่างโหด####ม ด้วยการให้คนเฉือนจมูก หู แขน ขา และกระทืบอกพระโพธิสัตว์
แต่ส่วนใหญ่จะไม่สำเร็จ เช่น เกิดเป็นพญาลิง จะฆ่าพระโพธิสัตว์ แต่สุดท้ายแพ้ภัยตัวเองตาย
ซึ่งไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม หลังจากชาตินั้นๆ พระเทวทัตจะลงนรกทุกๆ ครั้ง
แต่เมื่อใดก็ตามที่พระเทวทัต เกิดมาไม่เจอพระโพธิสัตว์ จะตั้งใจทำความดีอย่างดี เช่น รักษาศีล 8 ตลอดชีวิต
ผลก็คือ ชาติปัจจุบันนี้ พระเทวทัต มีบารมีขนาดสามารถบรรลุธรรมเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าได้สบายๆ แต่ด้วยความที่อาฆาตพยาบาท จึงต้องลงอเวจีมหานรกแทน
ซึ่งเมื่อพ้นจากนรกเมื่อไหร่ ถึงจะได้บรรลุธรรมเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าครับ อีกยาวนานมากๆ เลย
ผลลัพธ์ก็คือ เมื่อพระเทวทัตเกิดมาพบพระโพธิสัตว์ครั้งใด จะตามจองล้างจองผลาญไปทุกครั้ง บางครั้งก็สำเร็จ เช่น พระโพธิสัตว์เกิดเป็น ขันติวาทีดาบส ถูกพระเทวทัตฆ่าตายอย่างโหด####ม ด้วยการให้คนเฉือนจมูก หู แขน ขา และกระทืบอกพระโพธิสัตว์
แต่ส่วนใหญ่จะไม่สำเร็จ เช่น เกิดเป็นพญาลิง จะฆ่าพระโพธิสัตว์ แต่สุดท้ายแพ้ภัยตัวเองตาย
ซึ่งไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม หลังจากชาตินั้นๆ พระเทวทัตจะลงนรกทุกๆ ครั้ง
แต่เมื่อใดก็ตามที่พระเทวทัต เกิดมาไม่เจอพระโพธิสัตว์ จะตั้งใจทำความดีอย่างดี เช่น รักษาศีล 8 ตลอดชีวิต
ผลก็คือ ชาติปัจจุบันนี้ พระเทวทัต มีบารมีขนาดสามารถบรรลุธรรมเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าได้สบายๆ แต่ด้วยความที่อาฆาตพยาบาท จึงต้องลงอเวจีมหานรกแทน
ซึ่งเมื่อพ้นจากนรกเมื่อไหร่ ถึงจะได้บรรลุธรรมเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าครับ อีกยาวนานมากๆ เลย
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#4
โพสต์เมื่อ 23 February 2006 - 05:59 PM
น่ากลัวจริงๆ
ขอบคุณทั้งสองท่านมากครับ อนุโมทนาบุญด้วยครับ
ขอบคุณทั้งสองท่านมากครับ อนุโมทนาบุญด้วยครับ
#5
โพสต์เมื่อ 25 February 2006 - 06:03 PM
มีครั้งหนึ่งเคยผูกใจอาฆาตแต่หลังๆต้องคลายลงเพราะว่ามันเคลีย
หน้าตาจะหมองไปเลย ใครเห็นก็จะถามว่าเป็นอะไร ไม่สบายใจหรือ
คิดได้เลยปล่อยวางไปซะ เพราะยังไงเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้
มารจะมาผจญ ในสื่งที่เคยทำไว้มารจะส่งผลคอยนำเราไปในทางที่ผิดๆ
หน้าตาจะหมองไปเลย ใครเห็นก็จะถามว่าเป็นอะไร ไม่สบายใจหรือ
คิดได้เลยปล่อยวางไปซะ เพราะยังไงเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้
มารจะมาผจญ ในสื่งที่เคยทำไว้มารจะส่งผลคอยนำเราไปในทางที่ผิดๆ
#6
โพสต์เมื่อ 27 February 2006 - 09:58 AM
ขณะที่เราสาปแช่งให้ผู้อื่นไม่มีความสุข ขณะนั้นเราก็ไม่มีความสุขแล้ว
เพราะใจเราเร่าร้อนกระวนกระวาย หวังว่าจะให้คนนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เราเองที่จะไม่มีความสุข เราเองที่จะได้รับผลก่อน ที่คนอื่นจะได้รับ
ทุกอย่างจะหยุดได้ถ้าเราหัดปล่อยวางนะค่ะ ให้คิดซะว่า ผลที่เราได้รับ มาจากอดีตที่เราเคยกระทำมา
ไม่มีการกระทำใดที่ทำแล้วไม่มีผล ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่ทำก็ไม่ได้
เพราะใจเราเร่าร้อนกระวนกระวาย หวังว่าจะให้คนนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เราเองที่จะไม่มีความสุข เราเองที่จะได้รับผลก่อน ที่คนอื่นจะได้รับ
ทุกอย่างจะหยุดได้ถ้าเราหัดปล่อยวางนะค่ะ ให้คิดซะว่า ผลที่เราได้รับ มาจากอดีตที่เราเคยกระทำมา
ไม่มีการกระทำใดที่ทำแล้วไม่มีผล ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่ทำก็ไม่ได้
#7
โพสต์เมื่อ 27 February 2006 - 10:25 AM
ถ้าอย่างนั้น การอโหสิกรรมนั้นเป็นเหมือนว่าเราไม่ผูกพยาบาทกับเขา แต่ถ้าเขายังผูกพยาบาทกับเรา เราก็แย่ซิ (คิดอย่างนีถูกรึเปล่า)
#8
โพสต์เมื่อ 08 February 2007 - 01:50 PM
กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ