ทำไมต้องกรวดน้ำคะ
#1
โพสต์เมื่อ 26 March 2006 - 10:54 AM
#2
โพสต์เมื่อ 26 March 2006 - 01:27 PM
คัดลอกมาฝาก...
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะกุศลผลบุญแห่งข้าพระพุทธเจ้าได้สร้าง และสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก พระคาถาชินบัญชร ทุกๆ มนต์พระคาถา และการสวดมหาสังฆทาน เพื่อขอขมาพระรัตนตรัยนี้ ตลอดทั้งบุญกุศลใดๆ ทั้งหมดที่ข้าพระพุทธเจ้าได้สร้างสมมาในอดีตชาต ชาตินี้ และปัจจุบันวันนี้ ไม่ว่าจะเกิดประโยชน์ ความสุข ความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรืองแก่ข้าพระพุทธเจ้าเองเท่าใด ข้าพระพุทธเจ้าของน้อมถวายกุศลแด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์สาวกทุกองค์ พระอริยบุคคลทั้งหมด ขอได้โปรดค้ำชูอุดหนุน คุณบิดา มารดา อุปัชฌาย์อาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกท่าน ทั้งที่ล่วงลับไปแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ที่มีความผูกพันต่อชีวิตข้าพระพุทธเจ้า ทั้งในอดีตชาติและชาตินี้ ตลอดทั้งขอได้โปรดคุ้มครองให้ทุกคนในครอบครัว มิตรรักสนิท ศัตรูหมู่มาร บริวาร และผู้ที่กระทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ที่เสียสละชีวิตให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าได้กินเพื่อการดำรงชีวิตของข้าพระพุทธเจ้า ขอให้ท่านทั้งหลายทั้งหมดหลุดพ้นจากความทุกข์ ประสพแต่ความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปและตลอดไป
ขออุทิศส่วนกุศลไปถึงเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งหมด ไม่ว่าจะเกิดแล้วก็ดี ยังไม่เกิดก็ดี ยังเป็นวิญญาณล่องลอยก็ดี ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลายไม่ว่าจะทางตรงทางอ้อมทุกภพชาติและชาตินี้ก็ดี ทั้งเจตนาและไม่เจตนา ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งหมดได้โปรดมาอนุโมทนา และเมื่ออนุโมทนาแล้วขอโปรดอโหสิกรรมโทษทั้งหลายเหล่านั้นให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วย และกรรมเวรใดที่ท่านทั้งหลายได้เคยกระทำต่อข้าพระพุทธเจ้าทุกภพชาติและชาตินี้ ข้าพระพุทธเจ้าก็อโหสิกรรมโทษให้แก่ท่านทั้งหลายด้วยเช่นกัน สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียน จองกรรม จองเวรแก่กันและกันเลย จงมีแต่ความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นตลอดไปด้วยเทอญ
และขอแผ่ส่วนกุศลแด่ ทวยเทพทุกพระองค์ใน 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน และทุกๆ พระองค์ที่ดูแลพระศาสนาทุกหนแห่ง และที่ดูแลรักษาชีวิตของข้าพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ก็ดีทั่วสากลพิภพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ พระอินทร์ พระพรหม ยม ยักษ์ แม่พระพาย แม่พระเพลิง แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพโสพ พระยายมราช นายนิริยบาล ท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมหาราชิกาเบื้องบนสูงสุดจนถึงภวัคคะพรหม พระภูมิเจ้าที่ทั้งที่เป็นผีบ้าน ผีเรือน ทั้งที่บ้านและที่ทำงานของข้าพระพุทธเจ้า และอเวจีขึ้นมาจนถึงโลกมนุษย์สุดรอบขอบจักรวาล อนันตจักรวาล และขอแผ่ส่วนกุศลแด่องค์พระสยามเทวาธิราชทุกๆ พระองค์ท่าน ตลอดทั้งพระมหากษัตริย์ไทย วีรกษัตริย์ไทย ขอถวายพระราชกุศลแด่ทุกพระองค์ท่านจงมากล้นด้วยบุญญาธิการ มากล้นด้วยฤทธิ์เดชและพระบารมียิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเทอญ
ด้วยเดชะ ขอส่วนกุศลผลบุญแห่งข้าพระพุทธเจ้า ได้น้อมถวายไปให้นี้ จงดลบันดาลให้ข้าพระพุทธเจ้า ประสบแต่ความสุขความเจริญทั้งทางโลกทางธรรม ขอให้แคล้วคลาดจากภยันตรายใดๆ ทั้งปวง ขอให้กรรมเก่าหมดไป กรรมใหม่อย่าให้เกิดขึ้น ขอให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ขอให้ห่างไกลจากศัตรูหมู่มาร พบเจอแต่กัลยาณมิตร ขอให้ศัตรูกลับใจมาเป็นมิตร และขอให้ข้าพระพุทธเจ้าประสบความสำเร็จสมหวังทั้งเรื่องการงาน การเงิน ชีวิตครอบครัว ชีวิตสังคม ชีวิตรัก และยังเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตกาลเบื้องหน้านี้เทอญ
พุทธัง อะนันตัง ธัมมัง จักกะวาลัง สังฆัง นิพพานัง ปัจจะโย โหนตุฯ
ไฟล์แนบ
#3
โพสต์เมื่อ 26 March 2006 - 02:39 PM
กรวดน้ำ ถือเป็นกุศโลบาย ให้ใจหยุดใจนิ่ง เพื่อให้ใจมีพลัง เป็นการรวมพลังของใจ
เพื่อเป็นกำลังที่สามารถส่งบุญไปให้ผู้ที่เราตรึกและระลึกถึงได้
โดยใช้น้ำ เป็นที่เกาะเกี่ยวหรือยึดเหนี่ยวใจ เพราะน้ำมีคุณสมบัติเฉพาะตัว
คือความใสสะอาดและชุ่มเย็น เหมือนกระแสบุญที่บริสุทธิ์ ... เย็น ... ดับร้อน
คือความทุกข์ได้
นอกจากนี้ น้ำจะไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ
เหมือนกระแสบุญที่เข้มข้น หรือมีพลังมาก(ที่เพิงทำ)ส่งผ่านไปในที่ๆมีน้อยกว่า
พระท่าน จึงว่า ยถา วารี วหา ...
วารี แปลว่า น้ำ
การอุทิศส่วนบุญ จึงจำเป็นต้องรวมใจให้หยุดนิ่งให้มากที่สุด
โดยไม่จำเป็นต้องกรวดน้ำก็ได้ ถ้าเราสามารถหยุดนิ่งเองได้
แล้วนึกแผ่ส่วนบุญนั้นแก่ผู้ที่ต้องการส่วนบุญทั้งหลายค่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 26 March 2006 - 03:12 PM
ไฟล์แนบ
#5
โพสต์เมื่อ 26 March 2006 - 04:31 PM

ถ้าสถานที่ไม่เอื้ออำนวยหลวงพ่อบอกว่าให้นึกถึง คณโฑทิพย์สุวรรณธารา ก็ได้คร๊าบ
http://www.dmc.tv/wa...php?wname=148_L
#6
โพสต์เมื่อ 26 March 2006 - 05:21 PM
เวลาที่เราไปเที่ยวที่ไหน ทำอะไร ไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลง ทานอะไรอร่อยๆ แบบที่มีความสุขมากๆ สบายใจมากๆ
เคยมีความรู้สึกบ้างมั้ยว่า อยากจะให้ใครสักคน มาอยู่เคียงข้าง ได้มาสำผัสกับความสุขอย่างที่เราใด้รับในขณะนี้บ้าง
เวลาเราทำบุญแล้วเราก็ปลื้มใจ มีความสุข เราก็คิดในใจว่า โอหนอ...คนๆนั้น...ไม่ว่าเขาจะอยู่ ณ ภพภูมิสถานที่แห่งใด ขอให้ได้รับความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้านี้ด้วยเถิด
จึง มีคำว่า อิทังเม ญาตินัง โหนตุ สุขตาโหตุ ญาตโย
ด้วยผลบุญนี้ขอจงถึงแก่ญาติของข้าพเจ้าด้วยเถิด
นี่เป็น เรื่องง่ายๆ ที่ผู้ชาย และผู้หญิงไม่รู้
#7
โพสต์เมื่อ 26 March 2006 - 09:46 PM
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#8
โพสต์เมื่อ 27 March 2006 - 01:28 AM
น้าจี้
#9
โพสต์เมื่อ 27 March 2006 - 07:58 AM
อนุโมทนาบุญค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 27 March 2006 - 12:56 PM
เรื่องราวก็มีอยู่ว่า ท่านเศรษฐีมีหลานสาวคนหนึ่ง วันหนึ่งคนใช้ปั้นตุ๊กตาแป้งให้เล่น แต่เล่นไปเล่นเผลอทำตกตุ๊กตาแป้งก็แตกทำลาย หลานสาวก็ร้องไห้เสียใจ ว่าตุ๊กตาตายแล้ว คนใช้ปลอบอย่างไรก็ไม่หายร้อง ท่านเศรษฐีก็เข้าไปปลอบว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราทำบุญอุทิศให้ตุ๊กตาแป้งกันดีกว่า ท่านปรารถเหตุเพื่อทำบุญขึ้นมา แล้วท่านเศรษฐีก็ทำจริงๆ จังๆ จนหลานสาวหยุดร้องไห้ ตั้งแต่นั้นคนทั้งหลายหลังจากทำบุญ จึงได้นึกอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติมิตรที่ล่วงลับตั้งแต่นั้นมา
#11
โพสต์เมื่อ 27 March 2006 - 02:53 PM
#12
*ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 27 March 2006 - 06:10 PM
ning ning num num

#13
*ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 28 March 2006 - 04:08 PM
#14
โพสต์เมื่อ 28 March 2006 - 05:20 PM
#15
โพสต์เมื่อ 29 March 2006 - 12:58 PM
#16
โพสต์เมื่อ 29 March 2006 - 03:03 PM
1. http://www.dmc.tv/fo...p?showtopic=680
2. http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=1203
3. http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=1713
#17
โพสต์เมื่อ 29 March 2006 - 04:08 PM
สำหรับวิธีการมีต้นกำเนิดดังที่คุณหัดฝันตอบ ถือเป็นหนึ่งในกุศโลบายให้จิตผ่องใส เพราะ"น้ำ"เป็นสารบริสุทธิ์ ชำระทุกสรรพสิ่งให้สะอาด จึงใช้เป็นสื่อกลางในการเปรียบเทียบประหนึ่ง"บุญ"เพราะความใส สะอาด บริสุทธิ์
#18
*ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 29 March 2006 - 09:20 PM
1. ผู้ให้มีเจตนาแรงกล้า ที่จะอุทืศให้บุคคลนั้น
2. วัตถุทานที่ทำบุญ ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ สะอาด
3. ผู้รับ หรือบุคคลที่เราจะอุทิศให้ อยุ่ในภาวะที่สามารถจะรองรับบุญที่อุทิศให้ได้
#19
โพสต์เมื่อ 30 March 2006 - 06:57 PM
น้าจี้