
ทำยังไงดี รู้สึกผิดจังที่สอนใครก็สอนได้ แต่สอนคนที่เรารักและห่วงใยไม่ได้
เริ่มโดย Nu, Oct 27 2006 07:30 PM
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 07:30 PM
หมายถึงว่า สอนให้ตั้งมั่นอยู่ในศีล ในธรรม มีความคิดเห็นที่ถูก นะค่ะ
ตอนนี้เหมือนพยายามเอาตัวรอดไปคนเดียว กลัวคนอื่น ๆ ที่เรารักเราห่วงใยเขาจะไม่ได้ในสิ่งที่ดีในอนาคต หรือ ในชาติต่อ ๆ ไปค่ะ
ตอนนี้เหมือนพยายามเอาตัวรอดไปคนเดียว กลัวคนอื่น ๆ ที่เรารักเราห่วงใยเขาจะไม่ได้ในสิ่งที่ดีในอนาคต หรือ ในชาติต่อ ๆ ไปค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 28 October 2006 - 08:22 AM
ก็เริ่มเป็นกัลยาณมิตรที่ดีก่อนซิครับ แต่ก่อนที่จะเป็นกัลฯ ให้บุคคลอื่นได้นั้น
คุณต้องเริ่มเป็นกัลฯ ให้ตัวคุณก่อนโดยเริ่มศึกษาจากสื่อธรรมะและปฏิบัติธรรม
หมั่นอธิษฐานจิตให้บุคคลที่เรารัก ใจเปิดและเข้าใจพระพุทธศาสนา.
ปฏิบัติตัวให้บุคคลรอบข้างเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของตัวคุณ
แล้วก็ค่อยๆ พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องธรรมะ โดยเริ่มจากสิ่งง่ายๆ รอบตัว อาจจะเริ่ม
ที่มงคลชีวิตก่อน
คุณต้องเริ่มเป็นกัลฯ ให้ตัวคุณก่อนโดยเริ่มศึกษาจากสื่อธรรมะและปฏิบัติธรรม
หมั่นอธิษฐานจิตให้บุคคลที่เรารัก ใจเปิดและเข้าใจพระพุทธศาสนา.
ปฏิบัติตัวให้บุคคลรอบข้างเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของตัวคุณ
แล้วก็ค่อยๆ พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องธรรมะ โดยเริ่มจากสิ่งง่ายๆ รอบตัว อาจจะเริ่ม
ที่มงคลชีวิตก่อน

#3
โพสต์เมื่อ 28 October 2006 - 11:31 AM
ครับ แม้พระสารีบุตรได้ชื่อว่า เป็นผู้ทรงปัญญาเป็นเลิศ กว่าพระสาวกทุกองค์ของพระพุทธเจ้า ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน ตลอดชีวิตท่าน ท่านยังไม่สามารถโปรดโยมแม่ของท่านได้เลยครับ ท่านต้องรอจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตที่ท่านเจ็บป่วย ท่านจึงไปโปรดโยมแม่อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่สำเร็จ ท่านก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว
พอท่านกลับถึงบ้าน ท่านก็ล้มป่วยหนัก โยมแม่ดีใจ เข้าใจว่า ท่านกลับมา เพื่อยอมสึกแล้ว ก็ให้ท่านนอนพัก พอตอนกลางคืนนี่สิ ทั้งพระอินทร์ ทั้ง พระพรหม มาเยี่ยม โยมแม่ท่านจึงถามว่า รัศมีสว่างมากๆ พวกนี้เป็นใคร พอฟังว่า เป็นพระอินทร์ โยมแม่ถึงกับตะลึง แต่พระสารีบุตรก็บอกโยมแม่ว่า ศักดิ์ศรีเทียบได้กับแค่ อุบาสกในพระพุทธศาสนาเท่านั้น โยมแม่ก็อัศจรรย์ใจ โห ขนาดพระอินทร์ ยังมีศักดิ์ศรีแค่อุบาสก พระพุทธศาสนานี่ยิ่งใหญ่เพียงไหนกัน
ต่อมาพระพรหมมาบ้าง รัศมีสว่างกว่าพระอินทร์มาก โยมแม่ก็ถามว่า นี่เป็นใคร พระสารีบุตรบอกว่า พระพรหม โยมแม่ยิ่งตะลึง แต่พระสารีบุตรบอกต่อว่า ศักดิ์ศรีเทียบได้แค่ สามเณร ในพระพุทธศาสนา โยมแม่ยิ่งอัศจรรย์ใจ อะไรกัน พระพรหมเทียบได้แค่ เณร แล้ว พระล่ะ แล้วพระสารีบุตร ที่เป็นอัครสาวกล่ะ และพระศาสดาล่ะ โอ้พระพุทธศาสนานี่สุดยอดขนาดนี้เชียวหรือ พระสารีบุตรได้โอกาสจึงแสดงธรรม จนโยมแม่เป็นพระโสดาบัน
ลองสังเกตนะครับ ถ้าพระอินทร์ พระพรหม ไม่มาเยี่ยม แล้วพระสารีบุตรจะเทศน์โปรดโยมแม่สำเร็จไหม ยังสงสัยอยู่ เพราะคนบางคน อย่างเราฟังในเคส อธิบายแทบตาย เขาไม่สน แต่พอฝันเห็นหลวงปู่ คุณยายในฝัน แล้วมาดูรูป โอ้ใช่เลย เขาถึงยอมสน เรียกว่า ต้องเจอปาฏิหาริย์ก่อน อย่างนี้ต้องรอบุญของเขาถึงพร้อม เพื่อให้ปาฏิหาริย์บังเกิดกับตัวเขาเหมือนกันน่ะครับ
พอท่านกลับถึงบ้าน ท่านก็ล้มป่วยหนัก โยมแม่ดีใจ เข้าใจว่า ท่านกลับมา เพื่อยอมสึกแล้ว ก็ให้ท่านนอนพัก พอตอนกลางคืนนี่สิ ทั้งพระอินทร์ ทั้ง พระพรหม มาเยี่ยม โยมแม่ท่านจึงถามว่า รัศมีสว่างมากๆ พวกนี้เป็นใคร พอฟังว่า เป็นพระอินทร์ โยมแม่ถึงกับตะลึง แต่พระสารีบุตรก็บอกโยมแม่ว่า ศักดิ์ศรีเทียบได้กับแค่ อุบาสกในพระพุทธศาสนาเท่านั้น โยมแม่ก็อัศจรรย์ใจ โห ขนาดพระอินทร์ ยังมีศักดิ์ศรีแค่อุบาสก พระพุทธศาสนานี่ยิ่งใหญ่เพียงไหนกัน
ต่อมาพระพรหมมาบ้าง รัศมีสว่างกว่าพระอินทร์มาก โยมแม่ก็ถามว่า นี่เป็นใคร พระสารีบุตรบอกว่า พระพรหม โยมแม่ยิ่งตะลึง แต่พระสารีบุตรบอกต่อว่า ศักดิ์ศรีเทียบได้แค่ สามเณร ในพระพุทธศาสนา โยมแม่ยิ่งอัศจรรย์ใจ อะไรกัน พระพรหมเทียบได้แค่ เณร แล้ว พระล่ะ แล้วพระสารีบุตร ที่เป็นอัครสาวกล่ะ และพระศาสดาล่ะ โอ้พระพุทธศาสนานี่สุดยอดขนาดนี้เชียวหรือ พระสารีบุตรได้โอกาสจึงแสดงธรรม จนโยมแม่เป็นพระโสดาบัน
ลองสังเกตนะครับ ถ้าพระอินทร์ พระพรหม ไม่มาเยี่ยม แล้วพระสารีบุตรจะเทศน์โปรดโยมแม่สำเร็จไหม ยังสงสัยอยู่ เพราะคนบางคน อย่างเราฟังในเคส อธิบายแทบตาย เขาไม่สน แต่พอฝันเห็นหลวงปู่ คุณยายในฝัน แล้วมาดูรูป โอ้ใช่เลย เขาถึงยอมสน เรียกว่า ต้องเจอปาฏิหาริย์ก่อน อย่างนี้ต้องรอบุญของเขาถึงพร้อม เพื่อให้ปาฏิหาริย์บังเกิดกับตัวเขาเหมือนกันน่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#4
โพสต์เมื่อ 28 October 2006 - 11:58 AM
คนบางคนมีทิษฐิมานะสูง เช่น พ่อ แม่ เราสอนไม่ได้
บางทีใช้คำว่าสอนก็ลำบากต้องดุสถานะของเราด้วย ลองเป็น
กัลยาณมิตรหรือเป็นเพื่อนไปก่อน บางที ถ้าไม่เป็นบัวใต้โคลนตมจริง ๆ
ย่อมเห็นว่าอะไรคือ เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต
บางทีใช้คำว่าสอนก็ลำบากต้องดุสถานะของเราด้วย ลองเป็น
กัลยาณมิตรหรือเป็นเพื่อนไปก่อน บางที ถ้าไม่เป็นบัวใต้โคลนตมจริง ๆ
ย่อมเห็นว่าอะไรคือ เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต
หยุดคือตัวสำเร็จ
#5
โพสต์เมื่อ 28 October 2006 - 02:40 PM
เอาเท่าสุดกำลังความสามารถของเรา เท่าที่เราพยายามแล้วสุดกายวาจาใจของเรา
แต่ถ้าเกินกำลังความสามารถ ก็ ควรวางอุเบกขา ปล่อยใจใสๆครับ อย่าไปซีเรียส
แต่ผมเชื่อว่า ถ้าค่อยๆทำไป ทุกอย่างจะค่อยๆซึมซับเข้าไปในใจ เดี๋ยวในไม่ช้า ก็จะสำเร็จเองครับ คิดว่าคงไม่เกินกำลังของคุณNuแน่นอน
แต่ถ้าเกินกำลังความสามารถ ก็ ควรวางอุเบกขา ปล่อยใจใสๆครับ อย่าไปซีเรียส
แต่ผมเชื่อว่า ถ้าค่อยๆทำไป ทุกอย่างจะค่อยๆซึมซับเข้าไปในใจ เดี๋ยวในไม่ช้า ก็จะสำเร็จเองครับ คิดว่าคงไม่เกินกำลังของคุณNuแน่นอน
#6
โพสต์เมื่อ 28 October 2006 - 07:19 PM
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ตอนนี้หนูก็เป็นกัลยาณมิครให้กับแม่น้องของตัวเองอยุ่ด้วยค่ะ
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"
น้ำฝนลูกพระธัมฯ
#7
โพสต์เมื่อ 28 October 2006 - 07:29 PM
อาศัยความตั้งใจจริงที่จะเป็นกัลยาณมิตร บวกกับแรงอธิษฐาน ต้องสำเร็จสักวันหนึ่ง
#8
โพสต์เมื่อ 29 October 2006 - 12:45 PM
อย่าคิดมากเลยครับผทก็เจอแบบนี้เยอะล่ะ ก่อนที่เราจะสอนใครนั้น
เราต้องดูว่าเรารู้อะไรมากแค่ใหน และสามารถที่จะสั่งสอนใครได้มั้ย ก่อนที่จะสอนใครดูว่าเขาจะสามรรถที่จะรับรู้ธรรมะที่เราจะสอนได้มากเพียงไร แล้วเขามีพื้นฐานด้านนี้มั้ย ถ้าไม่มีเราก็ต้องเริ่มจากการปูพื้นฐานให้เขาก่อนนะครับจึงสามารถสอนเขาได้
เราต้องดูว่าเรารู้อะไรมากแค่ใหน และสามารถที่จะสั่งสอนใครได้มั้ย ก่อนที่จะสอนใครดูว่าเขาจะสามรรถที่จะรับรู้ธรรมะที่เราจะสอนได้มากเพียงไร แล้วเขามีพื้นฐานด้านนี้มั้ย ถ้าไม่มีเราก็ต้องเริ่มจากการปูพื้นฐานให้เขาก่อนนะครับจึงสามารถสอนเขาได้
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#9
โพสต์เมื่อ 30 October 2006 - 10:04 AM
อนุโมทนาสาธุกับความตั้งใจของเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 30 October 2006 - 12:08 PM
ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ จะพยายามต่อไปค่ะ
เพียงแต่ว่าทุกครั้งที่ไปชวนเพื่อน ๆ ทำบุญ หรือพยายามชักจูงให้เพื่อน ๆ มาสนใจธรรมะ ก็อดนึกน้อยใจไม่ได้ว่าทำไมเราถึงให้ในสิ่งเหล่านี้กับคนที่ใกล้ตัว หรือ คนที่เรารักไม่ได้นะ
เพียงแต่ว่าทุกครั้งที่ไปชวนเพื่อน ๆ ทำบุญ หรือพยายามชักจูงให้เพื่อน ๆ มาสนใจธรรมะ ก็อดนึกน้อยใจไม่ได้ว่าทำไมเราถึงให้ในสิ่งเหล่านี้กับคนที่ใกล้ตัว หรือ คนที่เรารักไม่ได้นะ
#11
โพสต์เมื่อ 30 October 2006 - 03:02 PM
ครับ ความน้อยใจว่า ทำไมเราทำไม่ได้นะ แก้ไขได้ด้วยการฝึกฝน ลองทำดูบ่อยๆ น่ะครับ เหมือนคนหัดขี่จักรยาน หัดชั่วโมงแรก ล้ม ซึ่งถ้าล้ม แล้ว กลัวเจ็บ เลยเลิกขี่ มานั่งนึกน้อยใจว่า ทำไม เราขี่จักรยานไม่ได้ อย่างนี้ เราก็ขี่ไม่ได้ตลอดไป
แต่ถ้า ล้ม แล้ว ลองใหม่ หัดใหม่ เมื่อกี้ทำไมล้ม อ้อ เอียงตัวไปทางซ้ายมากไป ไหนลองเอียงมาทางขวาหน่อยซิ เดี๋ยวก็ขี่จักรยานได้ หมั่นประกอบเหตุ สังเกตุผล ทนเอาเถิดประเสริฐนัก
ขี่จักรยานก็แบบนี้ ศิลปะอื่นๆ เช่น เซลล์แมนขายของ เล่นดนตรี ร้องเพลง ว่ายน้ำ ฯลฯ ก็ล้วนทำแบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ
แต่ถ้า ล้ม แล้ว ลองใหม่ หัดใหม่ เมื่อกี้ทำไมล้ม อ้อ เอียงตัวไปทางซ้ายมากไป ไหนลองเอียงมาทางขวาหน่อยซิ เดี๋ยวก็ขี่จักรยานได้ หมั่นประกอบเหตุ สังเกตุผล ทนเอาเถิดประเสริฐนัก
ขี่จักรยานก็แบบนี้ ศิลปะอื่นๆ เช่น เซลล์แมนขายของ เล่นดนตรี ร้องเพลง ว่ายน้ำ ฯลฯ ก็ล้วนทำแบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#12
โพสต์เมื่อ 30 October 2006 - 04:07 PM
ถ้าหากสอนด้วยความรอบคอบและปรารถนาดี อย่างเต็มที่แล้ว ยังไม่ดีขึ้น
ใจ ก็วางอุเบกขา ไม่ต้องเสียใจ
ส่วนการกระทำ ก็ทำต่อไป
เพราะการทำดี ขอให้ทำดีให้เรื่อยไป เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ก็จะสัมฤทธิผล เหมือนหยดน้ำที่ใส่ตุ่ม ทีละหยด ต้องใช้เวลากว่าจะเต็มตุ่มได้
หรือบางคนเป็นโอ่ง เป็นฝาย ก็อาจนานหน่อย กว่าจะเห็นผล
แต่การกระทำใดที่ไม่มีผลนั้น ไม่มีเลย
สิ่งที่เราทำไปแล้วนั้นยังอยู่ในใจเขาค่ะ ไม่ต้องกังวล
ใจ ก็วางอุเบกขา ไม่ต้องเสียใจ
ส่วนการกระทำ ก็ทำต่อไป
เพราะการทำดี ขอให้ทำดีให้เรื่อยไป เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ก็จะสัมฤทธิผล เหมือนหยดน้ำที่ใส่ตุ่ม ทีละหยด ต้องใช้เวลากว่าจะเต็มตุ่มได้
หรือบางคนเป็นโอ่ง เป็นฝาย ก็อาจนานหน่อย กว่าจะเห็นผล
แต่การกระทำใดที่ไม่มีผลนั้น ไม่มีเลย
สิ่งที่เราทำไปแล้วนั้นยังอยู่ในใจเขาค่ะ ไม่ต้องกังวล
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ