ไปที่เนื้อหา


usr37718

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 02 Nov 2010
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Nov 03 2010 11:03 PM
-----

โพสต์ที่ฉันโพสต์

ในกระทู้: ขอคำแนะนำครับ

03 November 2010 - 11:03 PM

ขอบพระคุณ พี่ๆทุกท่านมากๆครับ ทำให้ผมนึกถึง อดีตพระเพื่อนทั้ง5 รูป ที่คอยให้กำลังใจคล้ายๆแบบนี้ ตอนนี้น้ำตาไหลอีกแล้วครับ อายุ 30 กว่าขวบแล้ว ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับเรื่องอะไรเลย แม้แต่เรื่องความรักที่ผมเคยเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรเก็บไว้เสียน้ำตาให้แก่ บิดามารดาที่จะจากไปเท่านั้น แต่ผมก็มาเสียน้ำตาให้กับ "เรื่องการถูกบังคับให้เปลี่ยนชุด" โดยผมควบคุมตัวเองให้เสียน้ำตาไม่ได้ แปลกดีครับ

เมื่อกลางวันผมนั่งสมาธิ เผลอหลับไป ฝันเห็น หลวงพ่อฯ คงเพราะคิดถึงท่านครับ เคารพรักท่านมาก ใฝ่ฝันเสมอว่าอยากบูชาธรรมท่านด้วย องค์พระใสๆ

ทุกคำแนะนำจากพี่ๆผมตั้งใจอ่านหลายรอบ และผมจะพรินท์เก็บไว้เตือนใจครับ ผมจะตั้งใจ "มองเป้าหมายหลัก" แบบที่พี่ๆแนะนำให้ได้ครับ แม้ทุกวันนี้ ก็เพียรมองเป้าหมายหลักทุกวัน วันละหลายๆครั้ง หลายๆรอบ ทุกอริยบท แม้จะยังมืดมน เพราะเรื่องถูกบังคับให้เปลี่ยนชุดนี้ มากวนใจเสมอ

แต่ผมก็ยังคงมีความหวังต่อไปครับว่าสักวันหนึ่งคงจะกลับมาเห็นเป้าหมายหลักแบบที่เคยเห็นครับ

ขอบพระคุณพี่ๆทุกๆท่าน เป็นอย่างสูงด้วยครับ

ในกระทู้: ขอคำแนะนำครับ

03 November 2010 - 01:07 AM

ผมก็พอใจที่ผมสามารถชวนครอบครัวกลับมาเข้าวัด ปฏิบัติธรรม แม้จะเหมือนหลุดออกจากวัดไปเพราะจะมาแต่วันบุญใหญ่เท่านั้น และไม่อยากเจออดีตผู้ปกครองเกือบใหญ่ที่ท่าน เวลาท่านเห็นผมแต่ทำเป็นไม่เห็น ท่านทำเพื่ออะไรผมก็ไม่รู้ ทั้งๆที่ได้ขอขมาท่านก่อนลาสิกขาแล้วที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่ท่านเหมือนกับรับๆไปแบบนั้น

บวชครั้งที่ผ่านมาคงเหมือนกับต้องแลกความเป็นพระกับครอบครัวเข้าใจวัด และมาบวชที่วัดใหญ่และในสาขาอีกไม่ได้ เพราะใครบางคน ที่คอยจองกรรมกับผมเพียงแค่1พรรษา ผมและพระเพื่อน5รูปที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ถูกกระตุกสังฆาฏิออก แบบใจหายมาก ใจตกวูป น้ำตาของผมไหลออกมาเอง โดยไม่รู้ตัว

ก็ได้แต่หวังว่าตัวเองคงจะมีสักวันที่ผมจะลืมใครบางคนนั้นได้ แบบเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แม้จะต้องเจอกันอีกก็ตาม

เรื่องทั้งหมด มีพี่ที่วัดคนหนึ่งทราบเรื่อง ท่านกล่าวว่า ต้นเหตุ เป็นเพราะผม ไม่ชวน ผู้ปกครองเกือบใหญ่ ไปนำนั่งสมาธิที่บ้านของผม แต่ผมกลับทำเอง ทำข้ามหน้าข้ามตาเขา พอผมกล่าวถึงชื่อ ผู้ปกครองเกือบใหญ่ ที่พี่คนนั้นอยากรู้ พอพี่คนนั้นรู้ ก็บอก... สาธุ ผมตัดสินใจถูกแล้ว ที่ไปเองกับพระเพื่อน

ขอระบายความอึดอัดด้วยนะครับ แต่ยังไงก็ยังเคารพรักบูชา หลวงพ่อธัมมะ,หลวงพ่อทัตตะ และพอจ.ที่เป็นใหญ่ด้วยบุญ เสมอครับ

ในกระทู้: ขอคำแนะนำครับ

03 November 2010 - 01:00 AM

ผมก็สนใจท่องพระปฏิโมกข์แทน จนท่องได้แล้วแต่ยังไม่ลงโบสถ์ เพราะยังไม่คล่องดี ที่อยากท่องเพราะต้องการศึกษาเรื่องธรรมวินัยของพระในพระปาฏิโมกข์เท่านั้น เพราะตั้งใจว่า จะลงโบสถ์ฉลองตอนพรรษา 10 โดยมุ่งศึกษาเรื่องการเป็นพระแท้เป็นหลักโดยเฉพาะการปฏิบัติธรรม ให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้เพื่อเป็นพระที่สมบูรณ์เพราะกลัวไม่บริสุทธิ์ทำให้ติดหนี้ญาติโยม ตามที่หลวงพ่อฯสอน ผมก็เริ่มอึดอัดแต่ต้องตามกฏระเบียบที่เคร่งครัดจนเคร่งเครียดมาก แต่ด้วยใจที่เคารพหลวงพ่อฯทั้ง2เป็นหลัก จึงอดทน และลืมความเครียดได้ชั่วคราว ทุกครั้งที่เห็นท่านปรากฏตัว ทางหน้าจอหรือตัวจริง ผมติดต่อกับพนักงานที่บริษัทของป๋า ว่าต่อไปนี้คงจะไม่ได้ไปที่บ้านได้อีกแล้ว คงต้องรอให้ผ่าน พรรษา 3-5ก่อน เพราะต้องทำตามระเบียบของวัดอย่างเคร่งครัด แต่ให้มาหาได้เฉพาะวันอาทิตย์ที่สภาฯแทน

ด้วยความที่ป๋ากับม๊า รับทราบแล้วจึงกังวลอย่างมาก ว่าจะไม่ได้เจอผมอีกเกือบ 3-5ปี จึงกลับมาเครียด ป๋าความดันขึ้น และป่วยหนัก คนในครอบครัว และพนักงานก็เลิกปฏิบัติธรรม แล้วญาติก็มาชวนผมสึกแทน พร้อมทั้งเพิ่มความเกลียดวัดถึงขนาด ขู่จะตัดญาติขาดมิตรหากไม่เชื่อฟังกัน ผมจึงไปขออนุญาติ ผู้ปกครองเกือบใหญ่ เพื่อไปเยี่ยมป๋ากับม๊า แบบเดิม กลับถูกผู้ปกครอง...(เพราะท่านไม่ยอมที่จะเข้าใจ ผมก็เลยไม่ยอมที่จะเข้าใจท่านบ้าง พอจะเดาๆออกกันนะครับ)........

ในกระทู้: ขอคำแนะนำครับ

03 November 2010 - 12:51 AM

ผมจึงมานำนั่งสมาธิ ต่อครอบครัวพร้อมพนักงานที่คัดมาจำนวนหนึ่ง โดยเปิดเสียงหลวงพ่อนำนั่งฯให้ฟัง จนป๋ากับม๊ามีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี โดยเฉพาะม๊า มีผลการปฏิบัติธรรมดี แบบเดียวกับที่ผมปฏิบัติได้ตอนผมเป็นพระ

ป๋ากับม๊า ชอบที่จะให้ผมกับพระเพื่อนมาบ่อยๆ เพราะท่าน อยากดูแลด้วยการ จัดถวายภัตตาหารเช้า-เพล ถวายปานะ ซึ่งผมก็ไม่ได้
ติดในเรื่องรสอาหารใดๆ เพราะกินอาหารที่ดีๆมาจนเบื่อแล้ว ผมก็จะนำเรื่องราวของวัด เรื่องราวที่อัศจรรย์ของมหาปูชนียาจารย์โดยเฉพาะเรื่องของหลวงพ่อฯทั้งสอง และคุณยาย มาเล่าให้พวกเขาฟังแบบที่ได้รู้มา พร้อมเปิดสื่อต่างๆของวัด ให้ครอบครัวและพนักงานดู จนทุกคนเริ่มมีความเข้าใจ และสัญญากับผมตอนเป็นพระว่าทุกคน จะตั้งใจ ค่อยๆทำทาน หาโอกาสรักษาศีล และนั่งสมาธิ ทุกวัน

หลังจากนั้น ผู้ปกครองเกือบใหญ่ท่าน ได้เรียกผมไปสอบสวน ด้วยผู้ปกครองท่านนี้ ได้ยินเรื่องของผมมาผิดๆ ท่านจึงกังวลใจ
ผมก็เล่าให้ท่านฟังแบบที่เล่ามา ท่านก็รู้สึกกังวลใจมากๆ โดยสั่งห้ามผม ออกไปจากวัดโดยไม่ได้รับอนุญาติจากท่านโดยตรงเด็ดขาด แม้จะได้รับอนุญาติจากท่านอื่นก็ตาม หากไม่ปฏิบัติตาม ต้องให้ผมลาสิกขา หรือให้ผมหาวัดอื่นอยู่เอง...........

ในกระทู้: ขอคำแนะนำครับ

03 November 2010 - 12:44 AM

ขอขอบพระคุณ พี่ มองอย่างแมว และ พี่ณ ๐๗๒ ที่ให้คำแนะนำครับ

ขอเล่าเสริมเพื่อความเข้าใจของพี่ ณ ๐๗๒ ที่พี่เน้นว่า"เนื่องจากไม่ได้รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด การคาดเดาอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง"

หลังจากจบโครงการบวชระยะสั้น ผมก็ถูกที่บ้าน ตามเข้าวัดมาชวนให้ลาสิกขา ตามสัญญาที่จะบวชแค่จบโครงการหลายครั้งจนผมแม้ผมอธิบายเหตุผลหลายอย่างไปแล้วท่านก็ไม่ฟังครั้งมาบ่อยๆเข้า ผมจึงแจ้งกับครอบครัวไปว่า หาก ครอบครัวมาวัดแล้วจะมาชวนพระสึก ผมจะย้ายไปอยู่วัดอื่นที่ ครอบครัวจะไม่เจอพระอีก

และหลังจากนั้น ไม่นาน ญาติได้มาหา และได้บอกแจ้งข่าว ว่า ม๊ากับป๋า เครียดมากจนป่วย ผมจึง ขออนุญาติ พ.อ.จ.ที่ท่านใจดีมากๆ พอท่านทราบ ท่านก็อนุญาติให้ผมไปเยี่ยม พร้อมท่านให้หาพระเพื่อนไปเป็นเพื่อนอีกรูป โดยท่านสอนวิธีไปที่บ้าน และให้รักษาชื่อเสียงพระลูกชายหลวงพ่อฯเป็นหลัก และสอนให้ผม ห่มจีวรแบบมังกร และห่ม บวบ แบบง่ายๆ ซึ่งผมก็ห่มได้อย่างง่ายๆเหมือนเคยห่มผ้าแบบนี้มาก่อนแบบอัศจรรย์

เมื่อผมไปเยี่ยม ม๊ากับป๋า ก็มีอาการดีขึ้น ท่านก็สดชื่นดีใจมาก แต่ผมก็สั่งห้ามพวกท่านว่าอย่ามาที่วัดด้วยเจตนาจะชวนพระสึก เพราะมันเป็นบาป
ท่านก็ยอม ผมจึงเสนอ มาเยี่ยมท่านบ่อยๆ เอง แล้วก็สั่งให้คนใช้ที่บ้าน เตรียมจัดห้องประชุมที่บ้าน เป็นห้องนั่งปฏิบัติธรรม คล้ายๆวัด...........