ไปที่เนื้อหา


นายดีใจ

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 14 Sep 2006
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Apr 12 2010 06:51 AM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

มองโลกแบบ "เสกสรรค์ ประเสริฐกุล"

04 December 2009 - 09:43 AM

มองโลกแบบ "เสกสรรค์ ประเสริฐกุล" ออกจากสนามความคิด เข้าสู่สนามแห่งตัวตน

เสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตนักรบเพื่อชนชั้นที่เสียเปรียบทางสังคมผู้ผ่านการต่อสู้มาอย่างยาวนานด้วย "วิภาษวิธี" จนเดินทางมาถึง "ทางตัน"คือความขัดแย้งภายในตน วันนี้ เขาค้นพบ สนามรบใหม่ นั่นคือสนามรบภายในตนเอง การประชุมวิชาการประจำปีจิตตปัญญาศึกษาครั้งที่ 2 โดย ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล อาจารย์เสกสรรค์ ในฐานะองค์ปาฐกหัวข้อ"วิภาษวิธีแห่งจิตตปัญญาศึกษา"ได้เล่าเรื่องราวที่เขานำวิภาษวิธีเข้าสู่สนามรบใหม่ คือสนามรบภายในตนที่มนุษย์ทุกคนควรใส่ใจ

ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุลกล่าวว่าปัญหาหลักของโลกปัจจุบันว่าเกิดจากการมองโลกแบบแยกส่วนและการมองโลกแบบขั้วตรงข้าม (dualism) ซึ่งก่อปัญหาขึ้นอย่างมากมายและผลักดันให้มนุษย์กระทำกับสิ่งอื่น คนอื่น พวกอื่นราวกับว่าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันกลายเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งทุกระดับในสังคม ทั้งคนต่อคนขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ ขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมล้วนเนื่องมาจากวิธีการมองโลกเช่นนี้ จากปัญหาอันซับซ้อนที่ไหลบ่าท่วมทับสังคมอาจารย์เสกสรรค์จับเครื่องมือที่คุ้นเคย ซึ่งเคยใช้ในการมองโลก ชีวิตสังคมและดูเหมือนเป็นแนวทางขับเคลื่อนพฤติกรรมของเขามาโดยตลอดมาใช้อีกครั้งแต่คราวนี้เขาใช้เครื่องมือเดิมมาศึกษาพื้นที่ใหม่คือพื้นที่ของโลกด้านในตนเอง เขาอธิบายว่า "วิภาษวิธี คือวิธีคิดที่มีมานานนับพันปีถูกนำมาใช้โดยโสคราติส นักปรัชญาตะวันตกรวมทั้งลัทธิมาร์กซหลักการวิภาษวิธีออกจะคล้ายคลึงกับปรัชญาตะวันออกอยู่มาก กล่าวคือสรรพสิ่งในโลกล้วนอยู่ในสภาวะเปลี่ยนแปลง มีความความเคลื่อนไหวภายในและเชื่อมกับปัจจัยภายนอกโดยผ่านการเคลื่อนไหวภายในของตน ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจึล้วนเชื่อมโยงกันแบบสหสัมพันธ์ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่โดยไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งอื่นการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งเป็นไปด้วยความขัดแย้งภายในเพราะสรรพสิ่งล้วนประกอบด้วยองค์ประกอบซึ่งเป็นคู่ตรงข้ามในตนเองและคลี่คลายได้โดยการต่อสู้เพื่อเอกภาพระหว่างคู่ตรงข้ามคู่ใหม่ในสิ่งกำเนิดใหม่และจะเป็นเช่นนี้เรื่อยไป

ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายจึงคลี่คลายด้วยเส้นทางวิวัฒนาการ วิภาษวิธีต่างจากการมองแบบทวิลักษณะตรงที่เห็นความสืบเนื่องกันของสรรพสิ่ง แต่กระนั้นก็ตามดังที่เราเห็นกันอยู่ วิภาษวิธีก็ยังไม่อาจนำมนุษย์ออกจากความขัดแย้งได้อาจเพราะความผิดพลาดที่ไม่เข้าใจเรื่องความขัดแย้งภายในจิตใจของตนเอง" สรุปง่ายๆ ว่า การมองโลกแบบวิภาษวิธีคือมองให้เห็นสิ่งเดิมที่เป็นอยู่ เห็นสิ่งใหม่ที่เข้ามาท้าทายและเห็นการก่อกำเนิดของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาจเหมือนเดิมหรือไม่เหมือนเดิมเลยก็ได้ เมื่อดร.เสกสรรค์มองเข้าไปในโลกด้านในตนเองเขาพบสิ่งเดิมที่มีมนุษย์มีอยู่ร่วมกันคือดวงจิตของปุถุชนที่เต็มไปด้วยสิ่งรกรุงรัง จิตที่เสวยอารมณ์ปรุงแต่งต้องชำระสะสางขนานใหญ่ความท้าทายใหม่ที่เกิดขึ้นกับจิตดวงเดิมของเขาคือการชำระจิตใจให้สงบการท้าทายตัวเองด้วยการปักใจเด็ดเดี่ยวที่จะเอาชนะด้านมืดซึ่งต้องอาศัยการต่อสู้ภายในอันละเอียดอ่อนเพื่อนำไปสู่สภาวะใหม่ของการสลายอัตตาตัวตนแบบเดิมลงอย่างสิ้นเชิงเป็นการเดินทางจากการปรุงแต่ง สู่ศีล 5 และสู่ปรัชญาปรมิตาคำถามสำคัญที่ท้าทายอย่ายิ่งสำหรับเขาในวันนี้คือกระบวนการใดที่จะสามารถนำพามนุษย์ก้าวข้ามพ้นการมองโลกแบบแยกส่วนและในขณะเดียวกัน ก็ก้าวข้ามพ้นจากความขัดแย้งภายในตนเองด้วย"การที่บุคคลตระหนักว่าบุคลิกภาพ พฤติกรรมแบบที่ตนเป็นนั้นนำความทุกข์มาให้ กล่าวคือบุคคลนั้นกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความขัดแย้งภายในตนแทนที่จะกล่าวโทษผู้อื่นสิ่งอื่นและวนเวียนกระทำสิ่งที่สร้างทุกข์ให้ตนต่อไปแม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่บุคคลจะเห็นอัตตาหรืออีโก้ของตนหากแต่การได้เห็นนี้เอง คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตนเอง"

ดร.เสกสรรค์บอกว่าแม้เราจะเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการเพื่อการเปลี่ยนแปลงตนเองแล้วก็ยังมีกับดักและหลุมพรางมากมายรออยู่ตลอดเส้นทางที่เดินไปเพราะเราต่างคุ้นชินอยู่กับวิธีเรียนแบบทวิลักษณะ แยกส่วน ย่อส่วนโดยไม่ตระหนักว่า "ความรู้" กับ "การรู้" ห่างไกลกันมากเช่นเดียวกับที่ "ความเห็นหรือความคิดเห็น" ต่างจาก "การเห็น"โดยสิ้นเชิง "สำหรับคนที่เกิดและโตมาในยุคสมัยใหม่ ได้รบการศึกษาแบบตะวันตกการเรียนรู้แบบสัมผัสตรงย่อมเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญเนื่องจากพวกเราถูกสอนให้รับรู้ทุกอย่างผ่านภาษาเคยชินกับการคิดคำนวณตลอดเวลาแม้แต่การคิดก็เป็นสิ่งที่ต้องทำผ่านถ้อยคำเสมอดังนั้นการรับรู้โลกด้วยวิธีดังกล่าวจึงเป็นเพียงการอ่านสัญลักษณ์เกี่ยวกับความจริง มีใช่การสัมผัสความจริงยิ่งต้องการค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเองด้วยแล้ว วิธีหาความรู้แบบคิดอ่าน เขียน และคำนวณยิ่งใช้ไม่ได้เลย"

ดร.เสกสรรค์แนะนำวิธีการก้าวข้ามพ้นจากความขัดแย้งภายในตนเองว่าเราจำเป็นต้องออกจากการเรียนที่แยกส่วน โดยการออกจากสนามแห่งความคิดออกจากการต่อสู้ที่ใช้ตรรกะ ใช้เหตุผล ก้าวข้ามพ้นจากวิธีคิดวิธีการแบบเก่า"พุทธศาสนามีกลยุทธ์ที่แยบคายมากในการสลายความขัดแย้งภายในอันดับแรก ไม่แนะนำให้ขยายความขัดแย้งดังกล่าวให้กลายเป็นปรปักษ์หรือพูดอีกแบบหนึ่งคือไม่ทำให้อีโก้เปลี่ยนจากหลงรักตัวเองมาเป็นเกลียดชังตัวเอง เนื่องจากเห็นว่าตัวเองยังไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าจะเป็นเรื่องทะเลาะกับตัวเองนี้เกิดขึ้นได้ง่ายมากสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเดินทางธรรม วิธีจัดการความขัดแย้งภายใน ไม่ได้ทำโดยเอาความคิดไปสู้กับความคิดหากเอาการ ′ไม่คิด′ เข้าไปแทนที่การคิดเสียมากกว่า"ในทางตรรกะ การ ′ไม่คิด′ ดูไม่น่าจะเป็นหนทางออกของปัญหาใดได้เลย ไม่ต้องพูดไกลไปถึงการออกจากความขัดแย้งแห่งตัวตน แต่หากเราเปิดใจกว้างที่จะเรียนรู้ เพื่อการเห็น โดยไม่ขังตัวเองไว้ในความรู้เดิมหรือความคิดเห็นแห่งตนเอง อาจเป็นไปได้ว่าการเดินทางเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณตามเส้นทางนี้ อาจไม่ยากเย็น หรือฝืนความรู้สึกนัก

"ด่านสุดท้ายของวิภาษวิธีแห่งจิตตปัญญานั้นนับว่าน่าสนใจยิ่ง เพราะมันเป็นการปล่อยวางเบ็ดเสร็จเด็ดขาด กล่าวคือไม่มีทั้งธรรมะและผู้ปฏิบัติธรรม ทุกอย่างหลอมรวมเป็นหนึ่ง ไม่มีทั้งผู้รู้และผู้ถูกรู้ มีแต่การรู้เท่านั้น ตามความเข้าใจของผม นี่คือภาวะสังเคราะห์สุดท้ายของจิตที่วิวัฒน์มาจากความขัดแย้งภายใน"วันนี้ของดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ผู้ออกตัวว่าเป็นเพียงผู้แสวงหาทางดับทุกข์คนหนึ่ง ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าคนอื่นการแสดงปาฐกถาครั้งนี้ถือเป็นเพียงการนำการบ้านมาให้ผู้ฟังช่วยตรวจสอบเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้ต่อไป นับเป็นแบบอย่างอันงดงามกล้าหาญ ดุจนักรบผู้องอาจบนเส้นทางแห่งการละวางตัวตน.

ที่มา http://www.prachacha...hp?...t;</font>

อยากทราบแหล่งข้อมูลพุทธศาสนาเป็นภาษาอังกฤษครับ

11 August 2009 - 08:21 AM

กำลังเขียนรายงานภาษาอังกฤษฉบับยาว
คิดว่าจะตบท้าย ด้วยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเชิงสัมพันธ์กับการใช้พลังงานทดแทนครับ

มีไอเดียในเรื่อง การพึ่งตนเอง และพัฒนาแบบบูรณาการ แต่ไม่ค่อยแน่ใจในคำศัพท์เฉพาะด้านพุทธศาสนา
คงเริ่มต้นจากของวัดพระธรรมกาย แต่ถ้าได้แหล่งข้อมูลอื่นๆด้วยก็คงเป็นประโยชน์

ขอคำอธิษฐานสร้างพระปิดเจดีย์ด้วยครับ

08 March 2009 - 07:01 AM

เพิ่งสร้างไปน่ะครับ อยากได้คำอธิษฐานดีๆจะได้ครบๆหน่อย
ขอบคุณครับ