หลวงพ่อตอบปัญหา
 
 
โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
 
 

คำถาม: เราพอจะทราบกันว่าการปลูกฝังมุทิตาจิตไว้มากๆ จะช่วยกำจัดความอิจฉาริษยาลงได้ แต่วิธีการปลูกฝังมุทิตาจิตนี่สิคะ จะทำให้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

 
คำตอบ:  เรื่องอิจฉาตาร้อนนี่มันเป็นเหตุหนึ่ง ที่ทำให้อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นๆ ทุกวัน คำถามนี้ดีมาก
 
        ความอิจฉาริษยามันก็มีเหตุมาจากความผิดหวังนั่นแหละ หวังว่าจะได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ก็ไม่ได้ พรรคพวกคนอื่นเขามาตัดหน้าไปเสียนี่ ก็เลยผิดหวัง น้อยใจ เสียใจ
 
การปลูกฝังมุทิตาจิตไว้มากๆ จะช่วยกำจัดความอิจฉาริษยาลงได้
การปลูกฝังมุทิตาจิตไว้มากๆ จะช่วยกำจัดความอิจฉาริษยาลงได้
 
        อย่าไปน้อยใจผิดหวังคลั่งแค้นอะไรเลยนะ ให้คิดเสียใหม่ คิดยอมรับในใจว่างวดนี้เขาได้ไปแล้ว จะไปฉกฉวยโค่นล้มลากเอามาเป็นของเราก็คงไม่ได้ เวลานี้คิดแต่ว่าเราควรจะทำอย่างไรดีกว่าเดิมให้มันดูดี ให้ความดีมันไปเข้าตาคนอื่นเขาบ้าง ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก ทำงายๆ อย่างนี้
 
        ประการที่ ๑ จัดดอกไม้ขึ้นมาเลย จะทำเป็นช่อ เป็นแจกันอะไรก็ได้ให้มันสวยๆ ให้มีความหมายดีๆ แล้วถือไปแสดงความยินดีกับเขาด้วยตนเอง แม้ในใจของเรามันอาจจะไม่ยินดีกับเขา เพราะเราก็อยากได้ตำแหน่งนั้นอยู่ มีความรู้สึกว่าเราน่าจะได้มากกว่าเขาด้วยซ้ำ แต่เอาเถิดเมื่อเขาได้ไปแล้ว ก็ตัดใจเสีย ยกแจกันไป หอบดอกไม้ไปหาเขา เปล่งวาจาออกจากปากด้วยประโยคง่ายๆ ว่า “ดีใจด้วยนะเพื่อน”
 
ฝึกการไปแสดงความยินดีกับเขาด้วยตนเอง
ฝึกการไปแสดงความยินดีกับเขาด้วยตนเอง
 
        พูดแค่นี้แหละ แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่ได้กลั่นออกมาจากใจ แต่มันก็ได้ออกมาจากปาก หมั่นเปล่งวาจาแสดงความยินดีกับเขาจนเคยชินอย่างนี้ เชื้ออิจฉาริษยาที่มันพอจะมีอยู่ในใจ ก็จะค่อยๆ หลุดไปเอง
 
        ประการที่ ๒ ฝากให้นึกไว้อีกอย่างหนึ่งว่า ถ้าเห็นใครได้ดีกว่าเรา ให้รีบนึกถึงบุญเลยว่า เขาคงทำบุญมาดีกว่าเรา เขาถึงได้ตำแหน่ง ได้ยศถาบรรดาศักดิ์ไป ส่วนเรานั้นกำลังบุญยังหย่อนแม้ชาตินี้จะตั้งใจทำความดีมาก แต่บุญข้ามภพข้ามชาติคงจะหย่อนไปหน่อย จึงสู้เขาไม่ได้ เมื่อสู้เขาไม่ได้และรู้ว่ากำลังบุญของตนยังน้อยจะได้ตั้งใจทำบุญให้มากขึ้นอีก
 
        ถ้าตั้งใจทำบุญเพิ่มขึ้นในชาตินี้ ในวันนี้ ในเดือนนี้ ในปีนี้ อย่างจริงๆ จังๆ บุญที่เราทำตั้งแต่ครั้งนี้เป็นต้นไป จะต้องส่งผลแก่เราให้วันหน้า เดือนหน้า ปีหน้าหรือชาติหน้าบ้าง ยศถาบรรดาศักดิ์ สิ่งดีๆ ต่างๆ จะต้องตามมาเป็นของเราเข้าสักวันหนึ่ง
 
        ถ้านึกอย่างนี้ทำอย่างนี้ คุณจะมีโอกาสได้ชัยชนะ มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองต่อไปข้างหน้าแน่นอน แต่ว่าถ้ามานั่งอิจฉาเขาร่ำไปว่า ทำไมเราไม่ได้ ทำไมเจ้านั่นได้ มันคงเล่นเส้นล่ำมั้ง ทำไมมันค้ำถ่อข้ามหัวเราไป ฯลฯ
 
        ไม่ต้องไปถามว่าทำไม ตอบตัวเองได้เลยว่าเพราะบุญเรามันน้อยกว่าเขา แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำบุญต่อไป ถ้าไม่นึกอย่างนี้ ไม่ทำอย่างนี้ชาตินี้หรือชาติไหนๆ ก็ไม่มีวันละทิ้งนิสัยขี้อิจฉาตาร้อนได้เลย
 

คำถาม: หลวงพ่อครับในพระพุทธศาสนามีวิธีล้างบาปไหมครับ?

 
คำตอบ:  บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป มันล้างกันไม่ได้ แต่ว่าถ้าสร้างบุญมากๆ ในที่สุดบาปก็หมดฤทธิ์ หมดกำลัง ไม่สามารถจะส่งผลร้ายแก่เราได้อีกต่อไป
 
บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป มันล้างกันไม่ได้
บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป มันล้างกันไม่ได้
 
        เพราะฉะนั้นในพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้ทำบุญมากๆ และทำอย่างสม่ำเสมอ ลักษณะที่บุญทำให้บาปหมดฤทธิ์ อุปมาได้ง่ายๆ คือ ถ้าเรามีน้ำสะอาดจืดสนิทอยู่ ๑ แก้ว แล้วเราเอาเกลือใส่ลงไปสักช้อนสองช้อนแน่นอนน้ำต้องเค็มจนกินไม่ได้
 
        ถ้าเราเอาน้ำแก้วนั้นไปใส่ลงในขันใหญ่ แล้วนำน้ำจืดสนิทเติมลงไปจนเต็มขัน น้ำในขันนั้นก็จะมีรสเค็มน้อยลง ถามว่าเกลือยังเท่าเดิมอยู่ไหม ตอบว่า เท่าเดิม ไม่ได้หายไปไหน
 
        เอาน้ำในขันไปใส่คูลเลอร์ แล้วเอาน้ำจืดเติมให้เต็มคูลเลอร์ น้ำในคูลเลอร์ก็ยังเค็ม แต่เค็มน้อยลงไปอีก หรือกร่อยๆ แล้วเอาน้ำในคูลเลอร์ไปใส่ในแท็งก์ เติมน้ำจืดให้เต็มแท็งก์ งวดนี้น้ำในแท็งก์จืดสนิท ถามว่าเกลือยังอยู่เท่าเดิมไหม ตอบว่า เท่าเดิม แต่ว่ามีเหมือนไม่มี เกลือมันเสื่อมฤทธิ์ไปเสียแล้ว
 
        เช่นกัน บาปที่เราทำไว้นี้มันไม่หมดหรอก แต่มันเสื่อมฤทธิ์ไปแล้ว เกลือเหมือนบาปที่มนุษย์ทำไว้ น้ำจืดที่เราเติมลงไป ก็เหมือนกับบุญที่เราทำขึ้นใหม่ เมื่อน้ำหรือบุญมีมากพอ บาปก็หมดฤทธิ์ ไม่สามารถจะให้ผลร้ายใดๆ ต่อไปอีกได้
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/good_QA/วิธีปลูกฝังมุทิตาจิต-หลวงพ่อตอบปัญหา.html
เมื่อ 4 พฤษภาคม 2567 20:21
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv