งานปอยหลวง ฉลองโบสถ์ วัดบ้านขุน
วันวารที่ผันผ่านของงานปอยหลวง ฉลองโบสถ์ วิหาร อาคารเรียน วัดบ้านขุน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ งานบุญประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของชาวพุทธบนยอดดอยสูงที่ได้สร้างความประทับใจ ที่จะติดตรา ตรึงใจแก่ผู้ที่พบเห็นและมีส่วนร่วมในบุญครั้งนี้
เทศกาลงานปอยหลวง ฉลองโบสถ์ วิหาร อาคารเรียน วัดบ้านขุน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 งานบุญใหญ่ที่สุด คือ พิธีตัดลูกนิมิต ฉลองโบสถ์ ชาวบ้านขุนทั้งหมู่บ้านและชาวบ้านต่างหมู่บ้านมาช่วยกันจัดเตรียมงานต้อนรับเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ แม่กองบาลีสนามหลวง ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช , พระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าคณะภาค 7 (หลวงพ่อพระอาจารย์ใหญ่) พร้อมด้วยพระราชาคณะและพระเถรานุเถระกว่า 250 รูป ที่ได้เมตตาเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อมาร่วมเป็นเกียรติในพิธีและเพื่อเป็นการให้กำลังใจแด่ลูกพระ ลูกเณร พุทธบุตรนานาชาติชาวดอย ที่ปักหลักเผยแผ่พระพุทธศาสนาบนยอดดอย ณ วัดบ้านขุนแห่งนี้ นอกจากนี้ชาวบ้านขุนยังได้ต้อนรับสาธุชนผู้มีบุญ ที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ จำนวนกว่า 4,000 คน
ตลอดทั้งคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 พระภิกษุ สามเณร วัดบ้านขุนและชาวบ้าน ต่างช่วยกันเตรียมงานอย่างสนุกสนาน เบิกบาน บุญบันเทิง ชาวบ้านแต่ละหลังคาเรือนก็เตรียมข้าวของมาทำบุญ ทำครัวตานที่จะเตรียมแห่มาถวายที่วัดบ้านขุน เช่นเดียวกันกับหลายๆหมู่บ้านรอบๆวัดบ้านขุนที่เตรียมครัวตานช่วยกันตกแต่งครัวตานของบ้านตัวเองมาอย่างดีที่สุด

เช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ มาถึง เมื่อตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าพร้อมกับเสียงไก่ขัน เป็นสัญญาณว่าได้เวลาสว่างของการสร้างบุญใหญ่แต่ละหมู่บ้านก็ทยอยแห่ครัวตานของบ้านตัวเอง พร้อมใส่ชุดพื้นเมืองของชาวเขาเผ่าต่างๆ บางหมู่บ้านใส่ชุดขาวกันทั้งหมู่บ้าน มาพร้อมเครื่องดนตรีพื้นบ้านซะล้อ ซอ ซึง บรรเลงกันอย่างสนุกสนาน เคลื่อนขบวนเข้าสู่วัดบ้านขุน ตลอด 2 ข้างทาง ได้ถูกเนรมิตขึ้น ประดับประดาด้วยตุงหลากสีสวยงาม บรรยากาศที่เกิดขึ้นวันนี้ ขอบอกว่าอลังการสุดๆใครที่อยู่ในเหตุการณ์จริง ตื่นเต้นจนอธิบายไม่ถูกกันเลยทีเดียว เพราะทุกคนต่างปลื้มกันสุดๆ
เมื่อวินาทีประวัติศาสตร์การประดิษฐานพระธรรมกาย ที่งดงามที่สุดในโลกกำลังจะมาถึง ชาวบ้านมารอรับพระประธานกันเต็มพื้นที่หน้าโบสถ์ เมื่อนาฬิกาบอกเวลา 13.08 น. เป็นสัญญาณสว่าง เมื่อรถของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว เป็นประธานนำรถที่นำพระธรรมกายที่สวยที่สุดในโลกของคุณครูไม่ใหญ่ มาถึงวัดบ้านขุนดวงตาทุกดวงคู่ต่างมุ่งตรงมาที่องค์พระประธานที่คลุมผ้าอยู่ พร้อมกับเสียงสวดมนต์ของชาวบ้านที่นั่งคุกเข่าพนมมือ เปล่งเสียงสวดมนต์สาธุการที่ดังขึ้นตลอดสองข้างทางที่รถขององค์พระธรรมกายเคลื่อนผ่าน ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายที่ร้อนแรงอย่างไม่ขาดสาย โดยมีคณะสงฆ์เดินนำหน้าพระประธานนำเข้าสู่วัดบ้านขุน
และแล้ววินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว เปิดผ้าคลุมองค์พระประธาน องค์พระธรรมกายที่งดงามที่สุดในโลกน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ได้เอ่อล้นออกมาจากทุกๆ ดวงตาที่หลายๆคนบอกว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นองค์พระประธานที่งดงามเท่านี้มาก่อน

พ่ออุ๊ยใส นำมะ อายุ 73 ปี ชาวบ้านขุน
พ่ออุ๊ยใส นำมะ อายุ 73 ปี เล่าถึงความประทับใจด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า

พระธรรมกายที่งดงามที่สุดในโลกที่ดูราวกับมีชีวิต
และแล้ววินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว เปิดผ้าคลุมองค์พระประธาน องค์พระธรรมกายที่งดงามที่สุดในโลกน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ได้เอ่อล้นออกมาจากทุกๆ ดวงตาที่หลายๆคนบอกว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นองค์พระประธานที่งดงามเท่านี้มาก่อน

พ่ออุ๊ยใส นำมะ อายุ 73 ปี ชาวบ้านขุน
อดีตพ่อหลวง หรือ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านขุนกว่า 20 ปี
พ่ออุ๊ยใส นำมะ อายุ 73 ปี เล่าถึงความประทับใจด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า
“ผมเป็นพ่อหลวงหรือผู้ใหญ่บ้านอยู่ที่บ้านขุนนี้มา 20 กว่าปี ผมอยู่กับวัดบ้านขุนมาตลอด เห็นตั้งแต่วัดร้างไม่ค่อยมีพระ มีเณร จนวันนี้เห็นความเจริญของวัดบ้านขุน และหมู่บ้านเรา ผมดีใจจนพูดไม่ออก มันปลื้มอก ปลื้มใจ บ่เคยเห็นมาก่อน ตั้งแต่เกิดมา พอเห็นพระประธาน เห็นแล้วสะดุ้งเลย สวยที่สุดในโลกเลย บ่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิตผมมีบุญที่อยู่มาจนถึงวันนี้ได้มาเห็นพระที่งามที่สุดในโลก ชาวบ้านขุนเรามีบุญหลายๆ หลวงพ่อท่านถึงให้พระมา หลวงพ่อครูไม่ใหญ่ท่านมีบุญกับบ้านขุนล้นพ้น ผมขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณหลวงพ่อ ที่บุญบารมีของหลวงพ่อได้ช่วยบ้านขุนเราให้เจริญได้พบกับบุญกุศล ขอให้หลวงพ่อสุขภาพแข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน เป็นที่พึ่งให้กับชาวโลกตลอดไป”
(ขวา) ชุดลั๊วะสีทองของคุณครูไม่ใหญ่ที่ออกแบบไว้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
สีน้ำเงิน หมายถึง ความมั่นคง , สีทอง หมายถึง ความมั่งคั่ง , สีเขียว หมายถึง ความร่มเย็น
เช้าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 ชาวบ้านมาพร้อมชุดสวย บ้างก็ใส่ชุดชาวเขาเผ่าต่างๆ บางหมู่บ้านก็ใส่ชุดขาวมาทั้งหมู่บ้าน ที่มาพร้อมกับ V-Star ตัวน้อยๆของแต่ละหมู่บ้าน มาร่วมต้อนรับเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์และพระเถรานุเถระ พร้อมกับชาวบ้านขุนที่หุ่นกำยำล่ำบึก มาในชุดลั๊วะสีทองของคุณครูไม่ใหญ่ ผู้ทำหน้าที่แบกเสลี่ยงให้หลวงพ่อสมเด็จ ตลอด 2 ข้างทางที่ขบวนเสลี่ยงเคลื่อนผ่าน ชาวบ้านจะโปรยข้าวตอก ดอกไม้ แสดงถึงความเคารพความศรัทธาต่อพระรัตนตรัยอย่างสูงสุด รอยยิ้มของหลวงพ่อสมเด็จและคณะสงฆ์ได้ทำให้หัวใจของชาวบ้านขุนพองโต ปิติใจกับงานบุญครั้งนี้
รอยยิ้มของเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
ที่ทำให้หัวใจของชาวบ้านขุนพองโต

สีน้ำเงิน หมายถึง ความมั่นคง , สีทอง หมายถึง ความมั่งคั่ง , สีเขียว หมายถึง ความร่มเย็น
(ซ้าย) ผู้เฒ่า ผู้แก่ พ่ออุ๊ย แม่อุ๊ย เตรียมดอกไม้ และข้าวตอกโปรยตลอด 2 ข้างทางที่ขบวนของคณะสงฆ์เดินผ่าน เพื่อแสดงความเคารพ
เช้าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 ชาวบ้านมาพร้อมชุดสวย บ้างก็ใส่ชุดชาวเขาเผ่าต่างๆ บางหมู่บ้านก็ใส่ชุดขาวมาทั้งหมู่บ้าน ที่มาพร้อมกับ V-Star ตัวน้อยๆของแต่ละหมู่บ้าน มาร่วมต้อนรับเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์และพระเถรานุเถระ พร้อมกับชาวบ้านขุนที่หุ่นกำยำล่ำบึก มาในชุดลั๊วะสีทองของคุณครูไม่ใหญ่ ผู้ทำหน้าที่แบกเสลี่ยงให้หลวงพ่อสมเด็จ ตลอด 2 ข้างทางที่ขบวนเสลี่ยงเคลื่อนผ่าน ชาวบ้านจะโปรยข้าวตอก ดอกไม้ แสดงถึงความเคารพความศรัทธาต่อพระรัตนตรัยอย่างสูงสุด รอยยิ้มของหลวงพ่อสมเด็จและคณะสงฆ์ได้ทำให้หัวใจของชาวบ้านขุนพองโต ปิติใจกับงานบุญครั้งนี้


ชาวเขามาทุกเผ่าใส่ชุดพื้นเมืองของแต่ละเผ่า มาร่วมงาน
เมื่อหลวงพ่อสมเด็จฯ ลงจากเสลี่ยงชาวบ้านก็ทำพิธีล้างเท้าพระ
เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ท่านได้เมตตาประทานโอวาทแก่ศรัทธาญาติโยม มีใจความตอนหนึ่งว่า
“วันนี้ท่านทั้งหลายดีอกดีใจกันถ้วนหน้า ที่ได้มาเห็นความสำเร็จของวัดบ้านขุน 20 กว่าปี เป็นอย่างไร ที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีโบสถ์ ไม่มีอาคาร อาตมาก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน เพิ่งมาเห็นสมัยนี้ สมัยที่พระครูสังวรสิทธิโชติมาอยู่ได้ 17 ปี ทุกอย่างเหมือนถูกเนรมิตขึ้น แต่ถ้าลำพังท่านพระครูองค์เดียว อาตมาก็ไม่เชื่อว่าจะสำเร็จ ต้องอาศัยคุณเอกภพ-คุณสุธาสินี เสตพันธุ และญาติโยมทั้งหลาย การสร้างโบสถ์ สร้างวัด จึงจะสำเร็จได้ และต้องชื่นชมมากๆคือชาวบ้าน ซึ่งเป็นชาวลั๊วะ ที่หมุนเวียนกันมาส่งอาหารถวายพระภิกษุ สามเณรที่นี่ วันละ 7 ครอบครัว ตลอดทั้งเดือน แม้จะอัตคัดขัดสนแต่ไม่ละทิ้งการสร้างบุญ เก็บหอมรอมริด เก็บเงินเดือนละ 100 บาท 170 ครอบครัว ถวายทุกเดือน นี่เป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนา พูดถึงความสำเร็จครั้งนี้ สำเร็จได้โดยอาศัยบารมีของเจ้าคุณราชภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าคุณภาวนาวิริยคุณ และคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายความสำเร็จของวัดบ้านขุน จึงเกิดขึ้นได้
ท่านทั้งหลายโบสถ์เป็นสิ่งสำคัญของพระพุทธศาสนา วัดจะสมบูรณ์ได้ต้องประกอบไปด้วย โบสถ์ ศาลา เสนาสนะสงฆ์ ถึงจะเรียกว่าเป็นวัดที่สมบูรณ์แบบอาตมาก็ขออนุโมนากับผู้ที่ได้มีส่วนร่วมให้ความสำเร็จทั้งทางทรัพย์ คิดก็ได้บุญ ช่วยกันคิดก็ได้บุญ ช่วยกันทำก็ได้บุญทุกคน ทำให้โบสถ์หลังนี้เป็นที่ปรากฏเป็นที่เชิดชู ถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา การสร้างโรงเรียนก็เป็นประโยชน์มาก เป็นที่ให้ความรู้ให้กับเยาวชนของชาติ บวชเรียน บวชแล้วต้องเรียน เรียนเขียนอ่าน ต้องคู่กัน เมื่อมีความรู้แล้วจึงจะเจริญรุ่งเรืองได้ ทางพระพุทธศาสนาเราให้อะไรกับใครย่อมได้สิ่งนั้นเป็นเครื่องตอบแทน ดังนั้นท่านทั้งหลายย่อมได้สิ่งที่เป็นกุศลผลบุญ อำนวยความสุข ความเจริญให้ท่านทั้งหลาย”
ทางด้านของพระครูสังวรสิทธิโชติ หรือ พระอาจารย์วิชาญ อิทธินาโค เจ้าอาวาสวัดบ้านขุน ฝากความในใจมาถึงคุณครูไม่ใหญ่ว่า
“กระผมและลูกพระ ลูกเณร วัดบ้านขุน และชาวบ้าน ขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ความสำเร็จของการสร้างวัดบ้านขุนในวันนี้ ก็ล้วนแต่เกิดขึ้นด้วยบุญบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทุกๆอย่างที่ได้รับจากหลวงพ่อ ทั้งเป้าหมายชีวิต อุดมการณ์ในการสร้างบารมี ทั้งอาหารการขบฉันของลูกพระ ลูกเณร ล่าสุดองค์พระประธานที่งดงามที่สุดในโลก พวกเราปลื้มกันมากๆครับ เพราะแม้ว่าโบสถ์หลังนี้แม้จะมีมูลค่ามากเท่าไหร่ก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อมอบให้แล้ว ประมาณค่าไม่ได้ครับ ลูกๆที่วัดบ้านขุน จึงตั้งใจทำสิ่งที่ดีที่สุด ตั้งใจสร้างโบสถ์ให้สวยที่สุด เพื่อให้เหมาะสมกับการรองรับองค์พระธรรมกายที่งดงามที่สุดในโลก หลายๆคนบอกว่าพอเห็นองค์พระประธานแล้ว เหมือนกับได้นั่งอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ท่านดูมีชีวิต เห็นแล้วทำให้อยากปฏิบัติธรรมมากๆครับ
หลวงพ่อครับลูกๆทุกรูป คิดถึงหลวงพ่อมากๆครับ และกราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พวกเราจะตั้งใจทำงานพระศาสนา จะมุ่งมั่นทำทุกดอยให้สว่างครับ”