เพื่อกลับไปช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่พี่น้องชาวเขาเผ่าม้งที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
"ผมตั้งใจเสมอว่าต้องช่วยพี่น้องชาวเขาเผ่าม้งและเผ่าอื่นๆ ให้พ้นจากความทุกข์
ซึ่งความทุกข์ของชาวเขาคือ ปัญหาสุขภาพ ผมเรียนหมอตอนอายุ 34 ปี
จึงเป็นความตั้งใจจริงของผม เมื่อผมมีความรับผิดชอบต่อสังคม
รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อความตั้งใจจริงของผมเช่นกัน" หมอม้งบอกด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
"หมอม้ง" หรือหมัวเต็ง ที่ชาวเขาเรียกนั้นเกิดในสมัยยุคคอมมิวนิสต์เฟื่องฟู
ช่วงวัยเด็กเขาต้องอยู่ในป่าเขา ซึ่งในปัจจุบันเป็น อ.เขาค้อจ.เพชรบูรณ์
และเดินทางย้ายถิ่นฐานตามพ่อแม่ไปเรื่อยๆ เพื่อหาที่ทำกิน เพราะมีอาชีพเกษตรกรรม
แม้พ่อเป็นชาวเขาไม่รู้หนังสือ แต่ส่งเสริมให้ลูกๆ ทั้ง 11 คน เรียนหนังสือ
เขาจึงได้เริ่มชีวิตการศึกษาที่ "โรงเรียนสถานสงเคราะห์เพชรบูรณ์"
ที่รับสอนชาวเขาแต่ได้เรียนแค่จบชั้นอนุบาล 3 เท่านั้นเพราะต้องกลับเข้าไปอยู่ในป่า
โอกาสทางการศึกษาของหมอม้งเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อ "พล.ท.รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์"
ชักชวนเขาไปเรียนหนังสือในเมืองและให้อาศัยอยู่ที่บ้านของท่านในค่ายทหารที่ จ.ลพบุรี
ส่งเสียให้เรียนตั้งแต่ระดับประถมจนถึงมหาวิทยาลัย
เขาเลือกเรียนและสอบติดสาขาพยาบาลและผดุงครรภ์ มหาวิทยาลัยมหิดล
เมื่อเรียนจบทำงานได้ 2 ปี ก่อนจะมาเรียนแพทย์ที่ ม.รังสิต
"ชีวิตทางการศึกษาของผมมาได้จนทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเพราะท่านแม่ทัพคอยช่วยเหลือ
ซึ่งถ้าไม่ได้ท่าน อาจลำบากมากกว่านี้" หมอม้งเล่าอย่างซาบซึ้งใจ
เขาจึงมุ่งมั่นตอบแทนผู้มีพระคุณทั้ง"พล.ท.รวมศักดิ์" และ"ดร.อาทิตย์" ด้วยการตั้งใจเรียนจนจบแพทย์
โดยเข้ารับปริญญาเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม2550
ปัจจุบันหมอม้ง อยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์บำบัดรักษายาเสพติดเชียงใหม่
อ.สะเมิงจ.เชียงใหม่ ทำหน้าที่บำบัดรักษาผู้ป่วย และผู้ประสานกับชุมชนชาวเขา
ในการให้คำปรึกษาทางด้านสุขภาพ และยังเป็นต้นแบบทางการศึกษาให้แก่เด็กๆ ชาวเขาด้วย
"ผมเป็นหนึ่งใน 1.5 แสนคนของชาวเขาเผ่าม้ง และเป็นหนึ่งในล้านคนของชาวเขาทั้งประเทศไทยที่เป็นหมอ
จึงเป็นต้นแบบทางการศึกษาให้แก่เด็กชาวเขา เพราะเวลาผมไปบำบัดคนไข้
อยากให้เห็นผมเป็นต้นแบบให้เขาคิด ทบทวนว่าเขาและผมเป็นชาวเขาเหมือนกัน
แต่เขานั่งฝั่งที่ไม่ดี เพราะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เรานั่งฝั่งที่เป็นหมอ
ตอนนี้มีพ่อแม่หลายคนบอกลูกหลานให้เรียนหมอ
มีน้องชาวเขาเผ่าม้ง 2 คนเรียนคณะแพทยศาสตร์ม.รังสิต"
"หมอม้ง" ตั้งปณิธานแน่วแน่ไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคต เขาจะเป็นหมอที่คอยดูแลชาวเขาตลอดไป
เพราะเป็นสัญญาใจที่ให้ไว้กับอธิการบดี ม.รังสิตพี่น้องชาวเขาที่ช่วยเหลือและตัวเขาเอง
สัญญาฉบับนี้จึงไม่อาจชดใช้ด้วยเงินทอง ของมีค่าใดๆ นอกจากรอยยิ้มและสุขภาพที่ดีของคนไข้ผู้อยู่ไกลปืนเที่ยง !!