พระมหาสีลวะชาดก-ชาดกว่าด้วยการปรารภความเพียร

กาลครั้งนั้นเมื่อสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จมาประทับยังพระเชตวันมหาวิหารกรุงสาวัตถี พระองค์ได้หยั่งรู้ถึงความทุกข์กายทุกข์ใจของภิกษุผู้บำเพ็ญเพียรรูปหนึ่งที่ไม่อาจแสวงหาโลกธรรมได้ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดให้ทุกข์นั้นบรรเทาลง https://dmc.tv/a10997

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 23 พ.ค. 2554 ] - [ ผู้อ่าน : 18257 ]

ชาดก 500 ชาติ

พระมหาสีลวะชาดก-ชาดกว่าด้วยการปรารภความเพียร

พระมหาสีลวะกษัตริย์ผู้เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม
 
พระมหาสีลวะกษัตริย์ผู้เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม
 
    กาลครั้งนั้นเมื่อสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จมาประทับยังพระเชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี พระองค์ได้หยั่งรู้ถึงความทุกข์กายทุกข์ใจของภิกษุผู้บำเพ็ญเพียรรูปหนึ่งที่ไม่อาจแสวงหาโลกธรรมได้ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดให้ทุกข์นั้นบรรเทาลงด้วยตัวอย่างการมานะต่อสู้ในอดีตชาติของพระองค์เอง
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรด ภิกษุผู้ท้อถอยความเพียร
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดภิกษุผู้ท้อถอยความเพียร
  
    “ดูก่อนภิกษุ แม้แต่เราในอดีตชาติ ก็เจออุปสรรคขัดขวาง ขณะนั้นแม้จะสูญสิ้นราชสมบัติแล้ว แต่เรายังตั้งมั่นในมานะไม่ท้อถอย กระทั่งภายหลังสามารถกลับไปครองราชได้เพราะมานะนั้น” พาราณสีนครใหญ่ แข็งแกร่งและร่มเย็นดุจกันกับมหานทีที่โอบพระนครไว้ด้วยความรัก
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่า อดีตชาติของพระองค์เอง
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสเล่าอดีตชาติของพระองค์เอง
 
    ชาวเมืองทุกคนล้วนรักและศรัทธาในตัวมหาราชของเขายิ่งชีพ ทุกคนชาวเมืองสีลวราชด้วยความเคารพจากใจเสมอ “มหาราชของเราช่างสง่างามจริงๆ จิตก็เปี่ยมไปด้วยเมตตา” “ใช่ๆ พระองค์ทรงปฏิบัติธรรมและทรงบำเพ็ญทานบารมีมิได้ขาดเลยนะ” “ท่านแม่ถ้าข้าโตขึ้นนะ ข้าจะเป็นคนดีเหมือนองค์มหาราชของเรา”
 
พระมหาสีลวะมหาราชของปวงชนพาราณสี
 
พระมหาสีลวะมหาราชของปวงชนพาราณสี
 
    “โอ้! ลูกข้าอายุแค่ 3 ขวบ แต่ฉลาดกว่าพ่อของเจ้าอีก” “เจ้าอย่ามาประชดข้าได้มั๊ย? เพราะตอนนี้เขาให้เถิดทูนมหาราชา ไม่ได้ให้ประชดผัว ไม่รู้เรื่องเลย” ด้วยจิตใจที่เปี่ยมเมตตาของพระราชาเป็นเหตุให้อำมาตย์คนหนึ่งในพระราชวังเหิมเกริม มิได้กลัวเกรงต่อกฏมนเทียรบาลต่างๆ
 
อำมาตย์ชั่วบุกรุกเข้าในพระราชวังลอบแอบมอง พระธิดาและเหล่านางกำนัล
 
อำมาตย์ชั่วบุกรุกเข้าในพระราชวังลอบแอบมองพระธิดาและเหล่านางกำนัล
   
    ในพระราชวงศ์ถึงขั้นบุกรุกเข้าไปในพระราชวังชั้นในเสมอแม้จะถูกจับได้หลายครั้งก็ไม่กลัวเกรง “เฮ้ย...สาวๆ สวยๆ ทั้งนั้นเลย คนนั้นก็เอวบางร่างน้อย อุ๊ย…คนนั้นก็สวยคนนี้ก็ขาวใส น้ำลายจะไหลเลย อย่างกับนางฟ้านางสวรรค์” “ว้าย! ตาอำมาตย์ลามกนั้นน่ะ แอบเข้ามาอีกแล้ว
 
อำมาตย์ลามกถูกเรียกตัวเข้าเฝ้า
 
อำมาตย์ลามกถูกเรียกตัวเข้าเฝ้า
 
    ตายแล้ว องค์หญิงเพคะเสด็จเข้าไปข้างในก่อนเถอะเพคะตาแก่หัวงูนั้นน่ะ แอบเข้ามาอีกแล้ว” “พาองค์หญิงเข้าไปก่อน ทางนี้ข้าจะจัดการให้เอง หัวงูนักใช่มั๊ย? ต้องโดนฤทธิ์ของข้าบ้างแล้ว” “พระอาญามิพ้นเกล้า อำมาตย์ผู้นี้ทำผิดข้อหมิ่นพระบรมเดชานุภาพบ่อยครั้งความผิดถึงขั้นประหารชีวิตพะย่ะค่ะ”
 
พระมหาสีลวะทรงละเว้นโทษประหารแก่อำมาตย์ 
 
พระมหาสีลวะทรงละเว้นโทษประหารแก่อำมาตย์
  
“อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลย แค่ยึดทรัพย์แล้วให้ออกไปอยู่ที่อื่นให้พ้นเมืองของเราก็พอแล้ว” อำมาตย์นั้นแทนที่จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ละเว้นโทษประหาร กลับเคียดแค้นโกรธเคือง “ตะวันรุ่งพรุ่งนี้เจ้าต้องออกไปจากพระนคร ความผิดนี้ไม่ให้ยื่นอุทรด้วย”
 
อำมาตย์ชั่วโกรธเคืองและเคียดแค้นพระราชายิ่งนัก
 
อำมาตย์ชั่วโกรธเคืองและเคียดแค้นพระราชายิ่งนัก
 
    “โกรธ...ทำกับเราเช่นนี้ได้อย่างไร คอยดูเถอะข้าจะกลับมาแก้แค้นให้ได้ ต่อไปข้าจะไม่ได้ดูนางฟ้านางสวรรค์เหล่านั้นแล้วหรือ? เสียดายจัง ยิ่งคิดยิ่งโกรธ เดี๋ยวเอาหอกเสียบดีมั๊ยเนี่ย” “น่าหมั่นไส้จริงๆ เลยยัง ไม่สำนึกอีก” “ข้าจะไปอยู่แคว้นโกศลก็ได้ คอยดูข้าจะต้องเป็นใหญ่ให้ได้ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
 
อำมาตย์ชั่วพาเมียสาวออกเดินทาง ไปยังแคว้นโกศล
 
อำมาตย์ชั่วพาเมียสาวออกเดินทางไปยังแคว้นโกศล
 
     “ท่านพี่อย่าอารมณ์เสียสิค่ะ เดี๋ยวน่ามืดเป็นลมไปอีกนะ น้องน่ะไม่อยากหามท่านพี่นะ น้องหนักนะค่ะ” อำมาตย์ผู้นี้พกความแค้นพาเมียสาวเดินทางข้ามน้ำข้ามภูเขาหลายวัน แล้วก็มาถึงนครโกศลซึ่งมีพรมแดนติดกัน ได้รับความช่วยเหลือจากสหายเก่า
 
อำมาตย์ชั่วและเมียสาวเดินทางถึงแคว้นโกศล
 
อำมาตย์ชั่วและเมียสาวเดินทางถึงแคว้นโกศล
 
    ซึ่งเป็นเสนาบดีทหารจนสามารถได้เข้ารับราชการในแคว้นโกศลได้สำเร็จ อำมาตย์ชั่วเมื่อได้เข้าเฝ้าพระเจ้าโกศลหลายครั้งก็ทำการยุแย่จนพระองค์หลงเชื่อ อยากก่อสงครามยึดพาราณสีมาเป็นของตนทุกครั้งไป “เชื่อข้าพระองค์เถอะเจ้าพาราณสีน่ะอ่อนปวกเปียกจะตาย แค่มดตัวเดียวยังไม่กล้าฆ่า
 
อำมาตย์ชั่วได้เข้ารับราชการในแคว้นโกศล
 
อำมาตย์ชั่วได้เข้ารับราชการในแคว้นโกศล
  
    ถ้ารบทางฝ่ายเราต้องชนะแน่ๆ พระองค์พิจารณาดูเถิด เสียแรงเพียงน้อยนิด แต่ได้ราชสมบัติเต็มท้องพระคลัง ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ฮ้าๆๆ”  “มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ โม้รึเปล่าท่านอำมาตย์ โลกนี้ยังมีคนดีอย่างนี้ด้วยหรอ เราน่ะไม่อยากจะเชื่อเลยมดตัวเดียวก็ไม่อยากจะฆ่าเนี่ยนะ เค้าเป็นมหาพระราชาหรือนักบวชกันแน่”
 
พระเจ้าโกศลได้รับการยุยงจากอำมาตย์ชั่ว ให้ก่อศึกกับพาราณสี
 
พระเจ้าโกศลได้รับการยุยงจากอำมาตย์ชั่วให้ก่อศึกกับพาราณสี
 
    “จริงๆ พะย่ะค่ะ ถ้าพระองค์ไม่เชื่อ ก็ลองทดสอบดูให้มันรู้แจ้งได้เลยพะย่ะค่ะ” “ฮืม..พวกเจ้าจงทำตามแผนข้าให้พวกเจ้าแกล้งปลอมเป็นโจร แล้วก็ไปปล้นพวกสดมพวกชาวพาราณสี พวกเจ้าจงยอมแพ้ให้กับทหารที่จับตัวพวกเจ้าไป แล้วก็ยอมรับผิดว่าเป็นเพราะความจนถึงต้องมาเป็นโจร
 
พระเจ้าโกศลส่งทหารปลอมเป็นโจร ปล้นชาวเมืองพาราณสี
 
พระเจ้าโกศลส่งทหารปลอมเป็นโจรปล้นชาวเมืองพาราณสี
  
    ข้าน่ะอยากรู้ว่ามหาสีลวะจะทำอย่างไรกับพวกเจ้า” “ช่างเป็นแผนที่แยบยลสุดยอดพะย่ะค่ะ พระองค์อัจฉริยะจริงๆ” แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนพระเจ้าโกศล โจรปลอมทั้งหมดถูกทหารพาราณสีจับคุมตัวไปพบมหาสีลวะได้ในวันหนึ่ง “ข้าน้อยผิดไปแล้ว เพราะความจนข้นแค้น อดมื้อกินมื้อ
 
กลุ่มโจรถูกจับได้และได้รับการปล่อยตัว
 
กลุ่มโจรถูกจับได้และได้รับการปล่อยตัว
 
    ลูกๆ อีก10 ชีวิตไม่มีใครกินอิ่มได้สักวัน เศร้า! จน! เครียด! ถึงเป็นโจร” “ถ้าอย่างนั้นเราจะปล่อยตัวพวกเจ้าไปแต่พวกเจ้าต้องสัญญาก่อนว่าจะเลิกประพฤติชั่วปล้นเขากินโดยเด็ดขาด เราจะให้พระคลังมอบทุนการทำมาหากินให้ทุกคน” “โอ้น้ำใจดีงามแท้ๆ ข้าพเจ้าขอสัญญาว่า จะเลิกเป็นโจร จะเป็นพลเมืองดี ใช้ชีวิตพอเพียงต่อไป
 
ทหารที่ปลอมเป็นโจรกลับมารายงานพระเจ้าโกศล
 
ทหารที่ปลอมเป็นโจรกลับมารายงานพระเจ้าโกศล
 
    ขอให้เจริญรุ่งเรืองโดยสุจริตเถิด” พวกโจรกลับมาทูลให้พระเจ้าโกศลทรงทราบถึงน้ำพระทัยอันดีงามของมหาสีลวะ “มหาสีลวะอ่อนปวกเปียกจริงๆ พระเจ้าคะ ไม่กล้าหาญเข้มแข็งเหมือนพระองค์เลยสักนิด เทียบกันก็เหมือนฟ้ากับเหว” “ถ้าเช่นนั้นก็เหมาะเลย ฮ้าๆๆ  พาราณสีต้องตกอยู่ในกำมือเราแน่ๆ”
 
พระเจ้าโกศลยกทัพไปตีเมืองพาราณสี
 
พระเจ้าโกศลยกทัพไปตีเมืองพาราณสี
 
    “เอ้า..ท่านแม่ทัพเตรียมออกรบได้” กองทัพแคว้นโกศลเข้าประชิดเมืองพาราณสีอย่างรวดเร็ว ด้วยหมายมั่นเอาราชสมบัติทุกอย่างของมหาสีลวะมาครอบครอง ทางด้านของมหาสีลวราชเมื่อทรงทราบถึงสงครามที่มาถึงเมือง ก็มิได้ทรงกลัวเกรงแต่อย่างใด ด้วยน้ำพระทัยอันดีงาม
 
พระมหาสีลวะทรงมอบบัลลังค์ให้พระเจ้าโกศลโดยดี
 
พระมหาสีลวะทรงมอบบัลลังค์ให้พระเจ้าโกศลโดยดี
 
    พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ทหารออกไปรบร้างผลาญชีวิตกัน กลับเปิดประตูเมืองมอบบรรลังค์ให้โดยดุษฎี “อ่อนจริงๆ ยังไม่ทันได้ออกแรงเลยทำไมได้สมบัติมาง่ายขนาดนี้ ทหารจับทุกคนมัดแล้วไปฝังไว้ในป่าผีดิบ เป็นอาหารสุนัขจิ้งจอกซะ” “ช่างเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมจริงๆ พะย่ะคะ พระองค์ช่างกล้าหาญ แข็งแกร่งดุจหินผาจริงๆ”
 
พระมหาสีลวะและทหารโดนจับฝังไว้ในป่าช้า
 
พระมหาสีลวะและทหารโดนจับฝังไว้ในป่าช้า
 
    กลางดึกคืนนั้นมีเสียงร้องด้วยความโลภของพระเจ้าโกศล และความซะใจของอำมาตย์ลามกที่สามารถแก้แค้นได้ แต่ในป่าช้าเหล่าทหารและมหาสีลวะถูกจับมาฝังไว้นั้นช่างหน้ากลัวยิ่งนัก เมื่อเห็นสุนัขรายล้อมเข้ามาเพื่อหวังกัดกินคนเหล่านี้เป็นอาหาร
 
พระมหาสีลวะและทหารช่วยกันตะโกนไล่พวกหมาป่า
 
พระมหาสีลวะและทหารช่วยกันตะโกนไล่พวกหมาป่า
  
    “ทุกคนต้องตั้งสติไว้ให้มั่น พวกเราต้องช่วยกันตะโกนไล่หมาป่าพวกนี้ไป ไปๆ” “เฮ้ยๆ หมาป่ามันวิ่งหนีไปหมดแล้ว มันกลัวเราจริงๆ ด้วยพระเจ้าคะ” แต่เมื่อหมาป่ามันเจอแผนขับไล่นี้หลายครั้งเข้า ไอ้ตัวจ่าฝูงดูศีรษะไหนเป็นผู้นำ จึงตั้งใจเล่นงานคนนั้นก่อนตามวิธีของสัตว์ป่า
 
พระมหาสีลวะกดพระหนุหนีบหัวสุนัขไว้ ทำให้ฝูงสุนัขที่เหลือตกใจและหนีไป
 
พระมหาสีลวะกดพระหนุหนีบหัวสุนัขไว้ทำให้ฝูงสุนัขที่เหลือตกใจและหนีไป
 
    “มาสิเจ้ามากัดที่คอเราเลย เรายืดคอไว้รอเจ้าแล้ว เข้ามาเลย ข้าไม่ยิงเจ้าหรอก” เจ้าสุนัขหัวหน้าฝูงสอดปากใต้พระหนุพริบตานั้นมหาสีลวราชก็ทรงกดพระหนุหนีบหัวสุนัขไว้ด้วยพลังทั้งหมด “นี่แหนะอยู่ล่ะไอ้หมาจ่าฝูง” เสียงร้องของหัวหน้าฝูงทำให้ฝูงสุนัขหนีเข้าป่าไปหมดในพริบตา
 
พระมหาสีลวะทรงขยับร่างขึ้นจากหลุมทรายได้สำเร็จ
 
พระมหาสีลวะทรงขยับร่างขึ้นจากหลุมทรายได้สำเร็จ
  
    ตามด้วยไอ้ตัวหัวหน้า ทิ้งไว้แต่รอยตะกุยดินที่ฝังร่างมหาราชไว้ซึ่งกลายเป็นหลุมกว้างทรงขยับพระวรกายได้สำเร็จ “สงสารหมาตัวนั้นอยู่เหมือนกันนะเนี่ยโดนเราหนีบซะเต็มแรง ไม่รู้ยังเจ็บอยู่รึเปล่า” “โอ๊ย..พระองค์อย่าห่วงหมาตัวนั้นอยู่เลย ห่วงหม่อมฉันดีกว่าหม่อมฉันจะตายแล้ว”
 
ยักษ์ 2 ตน ถกเถียงกันเกี่ยวกับศพ ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ระหว่างเส้นแบ่งเขต
 
ยักษ์ 2 ตน ถกเถียงกันเกี่ยวกับศพที่ถูกนำมาทิ้งไว้ระหว่างเส้นแบ่งเขต
   
    อีกด้านหนึ่งของป่าช้า มียักษ์ที่อาศัยอยู่ ยักษ์ได้แบ่งพื้นที่เขตอาหารกันไว้ชัดเจน แต่ในวันนี้มีผู้นำศพมาไว้ในเส้นแบ่งเขตจนเกิดปัญหาไม่สามารถตกลงกันได้ “เฮ้ยศพเนี่ยมันต้องเป็นของข้าเว้ย มันอยากให้ข้ากินมันมากกว่าเจ้า” “มันอยู่ในเขตข้าแสดงว่ามันเคารพข้ามากกว่า”
 
ยักษ์ 2 ตน ได้นำปัญหาที่แก้ไขไม่ได้มาให้ พระมหาสีลวะทรงตัดสินที่ป่าช้า
 
ยักษ์ 2 ตน ได้นำปัญหาที่แก้ไขไม่ได้มาให้พระมหาสีลวะทรงตัดสินที่ป่าช้า
  
    “มันอยากให้ข้ากินมากกว่า” “อย่ามั่วดิว่ะ ปัญหานี่ยากเกินไปเราต้องไปถามบัณฑิตคนดีแล้วแหละ” “ใช่ๆ ยากสุดๆ ไปเลยว่ะ ตอนนี้มหาสีลวราชอยู่ในป่าช้าด้วย ท่านทรงคุณธรรมยิ่งนัก เราให้พระองค์ตัดสินใจให้ดีกว่า” “เอาเถอะปัญหาของพวกท่านเราจะตัดสินให้เอง แต่ว่าเจ้าตนหนึ่งต้องไปนำพระขรรค์ของเราจากที่บรรทมมาก่อน”
 
ยักษ์ตนหนึ่งนำพระขรรค์คู่บัลลังค์ พระมหาสีลวราชมาคืนแก่พระองค์
 
ยักษ์ตนหนึ่งนำพระขรรค์คู่บัลลังค์พระมหาสีลวราชมาคืนแก่พระองค์
   
    ยักษ์ตนหนึ่งสัมแดงฤทธิ์ไปยังพระราชวัง อึดใจเดียวก็เหาะกลับมาพร้อมพระขรรค์คู่บรรลังค์ พระมหาสีลวราชผ่าศพเป็น 2_ส่วน ให้ยักษ์สองตัวอย่างเท่าเทียมกัน “ในที่สุดเราก็ได้กินแล้ว ข้าทั้งสองจะตอบแทนบุญคุณพระองค์ด้วยการพากลับกรุงพาราณสีเอง เจ้าทหารทั้งหลายขึ้นหลังข้าได้เลย”
 
ยักษ์ทั้งสองตนนำองค์มหาราช และขุนทหารกลับกรุงพาราณสี
 
ยักษ์ทั้งสองตนนำองค์มหาราชและขุนทหารกลับกรุงพาราณสี
 
    แล้วยักษ์ทั้งสองตนก็พาองค์มหาราชและขุนทหารทั้งหมดกลับกรุงพาราณสี ส่งองค์มหาราชกลับสู่ห้องบรรทมในราตรีนั้นเอง พระมหาสีลวราชทรงนำพระขรรค์วางบนวรกายของพระเจ้าโกศลเพื่อปลุกให้ตื่น ซึ่งเมื่อพระเจ้าโกศลทรงตื่นบรรทมก็ตกพระทัย
 
พระเจ้าโกศลทรงตกพระทัยยิ่ง ที่พระมหาสีลวะทรงมีชีวิตรอดกลับ
 
พระเจ้าโกศลทรงตกพระทัยยิ่งที่พระมหาสีลวะทรงมีชีวิตรอดกลับ
        มาได้
 
    “ห๊า! มหาสีลวะท่านเข้ามาได้อย่างไรกัน? ท่านรอดชีวิตมาได้อย่างไรกัน เฮ้ย..ข้า..งงไปหมดแล้ว” พระมหาสีลวราชตรัสเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าเมืองพระเจ้าโกศลฟัง เมื่อทรงทราบเรื่องราวแล้วพระเจ้าโกศลก็ทรงเสียพระทัย ว่าตัวเองเป็นมนุษย์แต่กลับไม่รู้คุณความดีของพระองค์
 
พระเจ้าโกศลถวายราชสมบัติทั้งหมด คืนแก่พระเจ้าพาราณสี
 
พระเจ้าโกศลถวายราชสมบัติทั้งหมดคืนแก่พระเจ้าพาราณสี
 
    สู้ยักษ์ซึ่งกินซากศพเป็นอาหารก็มิได้ ช่างน่าละอายยิ่งนัก “ข้านะขอสรรเสริญพระเกียรติคุณพระมหาสีลวะและขอถวายราชสมบัติทั้งหมดคืน พร้อมให้สัตย์สาบานว่า จะไม่ประทุษร้ายและขออารักษ์ขาพระองค์แล้วก็พลเมืองของพาราณสีมิให้มีอันตรายใดๆ มาแผ้วพาล” เท่ห์จริงๆ เจ้าเหนือหัวของเรา ช่างมีน้ำใจนักกีฬาจริงๆ”
 
ชาวเมืองพาราณสีได้ใช้ชีวิต กลับสู่ความสงบร่มเย็นอีกครั้ง
 
ชาวเมืองพาราณสีได้ใช้ชีวิตกลับสู่ความสงบร่มเย็นอีกครั้ง
  
    พระมหาสีลวราชเมื่อทรงรับพระราชสมบัติปกครองพาราณสีกลับคืนมาก็ทรงรำพึงอนุภาพของความมานะต่อสู้ครั้งนี้ว่า “บุรุษผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความหวังไม่พึงเบื่อหน่ายผลแห่งความเพียรย่อมสำเร็จเป็นอัศจรรย์” เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเทศนาจบแล้ว ภิกษุผู้ท้อถอยความเพียรก็มีกำลังใจบังเกิดปิติเข้าถึงพระธรรม
 
 
ในพุทธกาล อำมาตย์ชั่วร้าย ต่อมาเป็นพระเทวทัต
ขุนทหารพาราณสี ต่อมาเป็นพุทธบริษัท
พระเจ้ามหาสีลวราช เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
 

รับชมคลิปวิดีโอ
ชมวิดีโอ   Download ธรรมะ

http://goo.gl/4dIjA


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ