หลวงพ่อตอบปัญหาโดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: การเอาอาหารไปเช่นไหว้หน้าศพบรรพบุรุษนั้น อยากทราบว่า ท่านสามารถรับอาหารที่เราเซ่นไหว้ได้หรือไม่?
อาหารเซ่นไหว้หน้าศพบรรพบุรุษคำตอบ: ไม่ได้ อาหารที่ไปตั้งหน้าศพ แล้วจะให้ศพลุกขึ้นมากินได้อย่างไร กินก็ไม่ได้ สูดกลิ่นก็ไม่ได้ มีแต่ว่าเราเอาอาหารนั้นไปทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ จึงอาจจะได้ บางคนตอนยังมีชีวิตอยู่ป่วยนอนซม ยังกินไม่ค่อยจะได้เลย ตายแล้วจะลุกขึ้นมากินได้อย่างไรคำถาม: หลวงพ่อคะ วันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยเราสมัยนี้ เขาทำอะไรกันแปลกๆ หลายอย่าง การจัดงานสงกรานต์ที่เป็นธรรมเนียมไทยแท้ๆ เขาทำกันอย่างไรคะ?
คำตอบ: ในวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยเรามาแต่โบราณ ปู่ย่า ตาทวด ท่านทำหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจกรรที่ประสานงานทางโลกและทางธรรมให้กลมกลืนกันไป และงานสงกรานต์นี้ท่านก็ไม่ได้ทำกันเฉพาะในวันที่ 13 เมษายน ท่านประกอบพิธีแบบไทยๆ มาตั้งแต่วันตรุษ ซึ่งถือเป็นวันสิ้นปี นับทางจันทรคติตรงกับวันแรก 14 หรือ 15 ค่ำ เดือน 5 ก่อนวันสงกรานต์หลายวัน ท่านตั้งหลักการจัดงานไว้ดังนี้ คือ1. ถือความกตัญญูกตเวทีเป็นที่ตั้ง เพราะฉะนั้นช่วงนี้ลูกหลานว่านเครือทั้งหลาย ไม่ว่าจะไปทำมาหากินอยู่ที่ไหน ต้องจัดแจงการงาน จัดเวลาให้ว่างไว้ เพื่อกลับมาเยี่ยมบ้านในวันสงกรานต์ให้ได้ นอกจากจะกลับไปเยี่ยมผู้เฒ่าแล้ว เขายังไม่ไปมือเปล่าจะต้องมีสิ่งของที่สมควร เช่น ผ้าผ่อนท่อนสไบ ของกินบำรุงสุขภาพติดมือไปเป็นเครื่องกราบเครื่องไหว้ หรือที่เรียกว่า เครื่องสักการะ ปู่ย่าตายายที่บ้านแม้ล่วงลับไปแล้ว ก็ควรที่จะแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อท่าน ด้วยการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เพราะฉะนั้นประเพณีไทยในวันสงกรานต์ ท่านจึงกำหนดให้จัด พิธีทำบุญกระดูกบรรพบุรุษกันด้วย2. ถือหลักเมตตากรุณา ความเมตตากรุณาเป็นคุณธรรมค้ำจุนโลก ให้มีสันติสุขตลอดไป ท่านจึงจัดให้มีการปล่อยสัตว์ปล่อยปลาให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ในช่วงวันสงกรานต์ ชาวบ้านจะพากันไปดูตามห้วยหนองคลองบึงที่แห้งขอด ถ้าพบปลาเล็กปลาน้อยติดค้างรอวันตายอยู่ ก็จะจับช้อนเอาไปปล่อย ตามแม่น้ำลำคลองใหญ่ๆ3. ถือหลักอภัยทาน คนเราอยู่ด้วยกันก็เหมือนลิ้นกับฟัน อดที่จะกระทบกันโกรธกันไม่ได้ แต่ไม่ควรผูกโกรธ เก็บความอึดอัดขัดเคืองจากการกระทบกระทั่งไว้ในใจ เป็นแรมเดือนแรมปีตามธรรมเนียมไทยใครที่รู้ตัวว่าทำผิดทำพลาดล่วงเกินใครไว้ เขาจะใช้โอกาสวันสงกรานต์นี้ไปขอขมาลาโทษ ส่วนคนที่มีใครมาขอขมาลาโทษ มาขออภัยในความผิด ก็ต้องให้อภัยเขาด้วย แล้วเวลานั้นก็ไม่จำเป็นต้องรื้อฟื้นเรื่องที่ผิดพลาดขึ้นมาจาระไนอีกหรอกนะ เดี๋ยวพูดพลาดไปจะกลับโกรธขึ้นมาใหม่อีกคนที่มีใครมาขออภัยแล้ว ยังไม่ยอมให้อภัยเขา บัณฑิตทั้งหลายตำหนิว่าเป็นคนพาลคนเลว ด้วยเหตุนี้พุทธศาสนิกชนไทยเราแม้มีเรื่องบาดหมางใจกันหนักหนาแค่ไหนก็ไม่โกรธข้ามปี เขาจะถือโอกาสวันสิ้นปีเก่าขึ้นปีใหม่จัดการปิดบัญชีบาป เปิดบัญชีบุญกันเป็นประจำทุกปี ปู่ย่าตาทวดของเรานอกจากจะถือหลักให้มีอภัยทานแล้ว ท่านยังถือว่าเป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้แสดงน้ำใสใจจริงต่อกันกิจกรรมวันสงกรานต์ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยกิจกรรมในช่วงวันสงกรานต์ตามหลักการข้างต้น ท่านผู้ใหญ่ของแต่ละบ้านมักจะเตรียมงานกันอย่างรอบคอบ ใช้เวลาไม่น้อยทีเดียวถ้ามีการเลี้ยงพระที่บ้านด้วย สิ่งที่ท่านต้องเตรียมโดยทั่วไป ได้แก่1. เตรียมของใช้ในบ้าน เช่น โต๊ะหมู่บูชา ขันน้ำ พานรอง ดอกไม้ของหอม ของใช้ในพิธีรดน้ำดำหัว รวมตลอดไปถึงถ้วยโถโอชามต่างๆ2. เตรียมสถานที่ ได้แก่สถานที่สำหรับพระสงฆ์ที่นิมนต์มารับบาตร หรือมาฉันภัตตาหาร สถานที่สำหรับให้ลูกหลานมารดน้ำดำหัว มารดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ตลอดจนที่สำหรับเลี้ยงข้าวปลาอาหาร สังสรรค์กันระหว่างพี่ๆ น้องๆ เครือญาติที่เคารพนับถือ3. เตรียมคน ในการจัดงานจะต้องมีการหุงหาอาหารเลี้ยงคน แม่ครัวพ่อครัว ตลอดจนกระทั่งคนล้างถ้วยล้างชามคนปัดกวาดเช็ดถู จะต้องใช้ใครบ้างต้องรีบไปไหว้วาน ไปทาบทามเขาให้มาช่วยเสียเนิ่นๆ เพราะวันอย่างนี้ใครๆ ก็อยากจัดงานสำหรับครอบครัวของตนถ้าช้าไปไม่ได้คนที่เราหมายตาเอาไว้4. เตรียมกาย คือเตรียมเครื่องแต่งตัวให้เหมาะสม และควรเตรียมสุขภาพ ด้วยการไปหาหมอตรวจสุขภาพประจำปีเสียเลย5. เตรียมใจ คือทำใจว่า วันสงกรานต์คงมีลูกหลายมากราบขอขมา มากราบขอพร เราผู้ใหญ่ต้องเตรียมคำให้พรว่า ถ้าคนนั้นคนนี้มาจะให้พรเขาว่าอย่างไรเมื่อเตรียมพร้อมหมดทุกอย่างแล้วก็ลงมือทำงานได้ ส่วนมากปู่ย่าตาทวด ท่านจัดงานสงกรานต์กันอย่างนี้ สมัยปัจจุบันใครจะทำอย่างไร ก็อย่าให้หลุดไปจากหลักการที่ท่านผู้ใหญ่ท่านวางไว้ เมืองไทยจะได้ร่มเย็น เป็นสุขเป็นสยามเมืองยิ้มตลอดไป
http://goo.gl/EvOd2