อานิสงส์ถวายน้ำอ้อย

“นายโคบาลย่อมต้อนโคทั้งหลาย ไปสู่ที่หากินด้วยท่อนไม้ ฉันใด ความแก่ชราและความตายย่อมต้อนอายุ ของสัตว์ทั้งหลายไป ฉันนั้น” (ขุ.ธ.) https://dmc.tv/a20512

บทความธรรมะ Dhamma Articles > Review รายการ
[ 8 ก.ย. 2558 ] - [ ผู้อ่าน : 18274 ]
อานิสงส์ถวายน้ำอ้อย

 เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙
และพระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙
ภาพประกอบ : กองพุทธศิลป์
จากวารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๘


“นายโคบาลย่อมต้อนโคทั้งหลาย
ไปสู่ที่หากินด้วยท่อนไม้ ฉันใด
ความแก่ชราและความตายย่อมต้อนอายุ
ของสัตว์ทั้งหลายไป ฉันนั้น”
(ขุ.ธ.)


      นายโคบาล คือ คนเลี้ยงโค มีหน้าที่ต้อนฝูงโคไปหากินตามทุ่งหญ้าทั้งวัน พอตกเย็นก็ต้อนฝูงโคกลับเข้าคอก ทำเช่นนี้เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี จนกว่าฝูงโคจะเติบโตเต็มที่ และเมื่อถึงเวลาก็จะต้อนเข้าสู่โรงฆ่าสัตว์ เช่นเดียวกับชีวิตของเราที่ถูกชรา คือ ความแก่และมัจจุคือ ความตาย ต้อนไปสู่ความเสื่อมสลายทุกขณะ ทันทีที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ชีวิตของเราก็เหมือนเทียนที่ถูกจุดขึ้น และส่องแสงสว่างไสวไปเรื่อย ๆ จนเมื่อไส้เทียนหมดลงเทียนเล่มนั้นก็ต้องถึงกาลเวลาวูบดับในที่สุด

     แต่บางครั้งเราจะพบว่า เทียนบางเล่มเมื่อถูกลมพัด ก็จำต้องดับวูบลงกลางคัน ไม่อาจให้ความสว่างไสวจนไส้เทียนหมดเล่มเสมอไปเปรียบเสมือนชีวิตของบางคนที่ต้องตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา บ้างก็ตายตอนเด็ก บ้างก็ตายตอนยังเป็นหนุ่มสาว อยู่ได้ไม่ถึงตอนแก่บางคนตายเพราะถูกโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนบางคนตายเพราะอุบัติเหตุ ดังนั้นการตายของแต่ละคนจึงมีสมุฏฐานที่ต่างกัน ความแน่นอนของชีวิตว่าจะตายเมื่อไรเป็นสิ่งที่กำหนดไม่ได้แล้วแต่บุญทำกรรมแต่งของแต่ละบุคคลแต่ถึงอย่างไรก็ต้องตายกันทุกคน เพียงแต่จะเร็วหรือช้าเท่านั้น

     อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะตายเร็วหรือตายช้า ก็ไม่ได้เป็นเครื่องวัดความมีโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ หากต้องดูกันตรงที่ขณะยังมีชีวิตอยู่ แต่ละคนได้สั่งสมบุญกุศลอะไรบ้างและมองไกลไปถึงชีวิตหลังความตายด้วยว่าตายแล้วไปไหน มีสุคติหรือทุคติเป็นที่ไป เมื่อเข้าใจเช่นนี้แล้ว เราจึงไม่ควรประมาทในวัยและชีวิต ต้องหมั่นหาโอกาสสั่งสมบุญให้มากที่สุด ก่อนที่ความตายจะมาถึง

     หนทางในโลกนี้ทุกแห่งหนล้วนแล้วแต่ไม่ปลอดภัย เพราะหากเราจะเดินทางไปทางน้ำก็ต้องเสี่ยงกับคลื่นลมมรสุม อาจเป็นเหตุให้เรืออับปางได้ หรือเดินทางไปทางอากาศก็ต้องเสี่ยงกับเมฆหมอกพายุฝนหรือทัศนวิสัยที่ไม่ดีถ้าไปทางบกก็ต้องเสี่ยงกับอุบัติเหตุระหว่างทางแม้หนทางที่แสวงหากำไรจากการประกอบธุรกิจ ก็ต้องเสี่ยงกับภาวะขาดทุนเมื่อเผชิญกับคู่แข่งหรือความแปรปรวนทางเศรษฐกิจ มีเพียงหนทางสายกลางทางเอกสายเดียวเท่านั้น ที่จะนำพาชีวิตไปสู่ความสุขและความปลอดภัยอย่างแท้จริง เป็นหนทางที่ไปได้ด้วยการทำใจหยุดนิ่ง ส่วนหนทางไปสู่สวรรค์นั้น ก็ต้องเริ่มจากความไมป่ ระมาทและสั่งสมบญุ เปน็ ประจำ ก่อนที่มัจจุราชจะคร่าชีวิตของเราไปก่อน
 

     ในสมัยพุทธกาล มีพระภิกษุรูปหนึ่งออกเดินบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ เพื่อไปเป็นเนื้อนาบุญแก่พุทธศาสนิกชนตามปกติวันหนึ่ง สะใภ้ของหญิงผู้เป็นมิจฉาทิฐิเห็นพระบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านด้วยอาการที่สงบสำรวม จึงอยากถวายภัตตาหารพระ แต่ก็เกรงว่าแม่ของสามีจะทำร้ายเอา เพราะนางเป็นคนดุร้ายและไม่ศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย อีกทั้งยังห้ามเธอตักบาตรพระอีกด้วย แต่เนื่องจากเธอมีจิตเลื่อมใสอยากทำบุญสักครั้ง เมื่อแม่ของสามีไม่ให้ตักบาตรด้วยข้าวปลาอาหารเธอก็ทำบุญด้วยการน้อมถวายท่อนอ้อยแด่พระคุณเจ้า

     หลังจากพระคุณเจ้าเดินคล้อยหลังไปแม่ของสามีก็กลับถึงบ้าน บังเอิญว่ารู้สึกอยากดื่มน้ำอ้อย จึงเดินเข้าไปหาท่อนอ้อยในครัว แต่หาไม่เจอ เลยถามลูกสะใภ้ว่าเอาอ้อยไปเก็บไว้ที่ไหน เธอไม่อยากโกหก แม้รู้ว่าแม่ของสามีจะโกรธ เธอจึงตอบไปตรง ๆ ว่า ไม่ได้เอาไปทิ้งที่ไหน และไม่ได้รับประทาน แต่ถวายพระภิกษุไปแล้ว ถ้าหากแม่สามีอยากรับประทาน เธอจะไปหามาให้ใหม่
 

     แม่สามีฟังเช่นนั้นก็โกรธจัด บริภาษลูกสะใภ้ด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับคว้าก้อนดินขนาดใหญ่ทุ่มใส่ศีรษะของเธออย่างแรงจนถึงแก่ความตาย แม้ร่างกายเธอจะปวดร้าวเพราะก้อนดินขนาดใหญ่ แต่ในขณะนั้นเธอก็ยังสามารถนึกถึงบุญที่ทำไว้ได้ และด้วยจิตที่ผ่องใส ครั้นละโลกแล้ว ก็ได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทองที่สว่างไสว

     พระมหาโมคคัลลานเถระได้เหาะขึ้นไปบนสวรรค์และเห็นวิมานทองของนาง จึงเข้าไปไต่ถามบุพกรรมว่า “รัศมีกายของท่านส่องสว่างเหมือนดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ รุ่งโรจน์ทั่วทั้งเทวโลก ด้วยสิริ วรรณะ ยศ และเดชเหมือนดังท้าวมหาพรหม รุ่งโรจน์ล้ำทวยเทพชั้นไตรทศพร้อมทั้งองค์อินทร์ ดูก่อนเทพธิดาผู้เลอโฉม ท่านทัดทรงมาลัยดอกอุบล มีดอกไม้กรองบนศีรษะ มีผิวพรรณผุดผ่องดุจดังทองประดับองค์ทรงภูษาอันสูงสุด ท่านเป็นใครจึงมาไหว้อาตมา เมื่อกอ่ นท่านได้ทำกรรมใดไว้ ท่านสั่งสมทานหรือรักษาศีลมาอย่างไร จึงได้เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เป็นผู้มียศมาก มีบริวารมาก ดูก่อนเทพธิดา ท่านถูกอาตมาถามแล้วขอท่านช่วยตอบหน่อยเถิด นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร”

      เทพธิดาได้ฟังคำชื่นชมจากพระเถระก็ตอบคำถามด้วยความปลาบปลื้มปีติใจว่า “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดิฉันคืออดีตผู้เคยทำบุญด้วยการถวายท่อนอ้อยแด่พระเถระรูปหนึ่ง”นางเล่าถึงบุพกรรมของนางด้วยความเบิกบานในบุญ เรื่องราวของนางแสดงให้เห็นได้ว่าการทำบุญเพียงครั้งเดียว แต่ทำด้วยจิตที่ผ่องใสไม่อาลัยในชีวิต บุญนั้นก็ส่งผลยิ่งใหญ่ไพศาลทำให้เธอได้เป็นเทพนารี เสวยสุขอยู่ในสวรรค์

     นี้เป็นตัวอย่างของผู้ที่รักตัวและไม่กลัวตายอย่างแท้จริง เป็นชีวิตของผู้ที่ใจถึง คือ รักบุญยิ่งชีวิต เพราะรู้ว่าความตายไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าความตายก็คือ การมีชีวิตอยู่แต่ไม่ได้สั่งสมบุญเลยชีวิตหลังความตายก็ต้องไปเสวยผลกรรม ในอบายภูมิ เพราะชีวิตของคนทั่วไปนั้น หากไม่ทำบุญก็ทำบาป ส่วนผู้ที่มีใจเป็นกลาง ๆเป็นอัพยากตา คือ ไม่ทำบุญและบาป มีน้อยเหลือเกิน โดยส่วนใหญ่หากไม่ทำบุญ บาปก็จะได้โอกาสเข้าแทรกให้ทำความชั่ว ดังนั้นเมื่อโอกาสแห่งการทำบุญมาถึงแล้ว ผู้ฉลาดจึงทำบุญโดยไม่หวั่นไหว แม้กระทั่งความตายก็ไม่เป็นอุปสรรค
 

     นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างของผู้ที่ทำบุญด้วยจิตที่เลื่อมใส โดยไม่หวั่นไหวต่อปัญหาและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น มาเล่าเป็นคติสอนใจอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวการทำความดีของเทพนารีท่านนี้ มีลักษณะคล้ายกับเรื่องที่แล้วแต่เนื้อนาบุญที่นางถวายท่อนอ้อย คือ พระมหาโมคคัลลานเถระ เมื่อแม่ของสามีทราบเรื่องดว้ ยความโกรธเคืองสุดขีดก็เลยคว้าตั่งที่ตัวเองกำลังนั่งอยู่ทุ่มใส่ศีรษะนางอย่างแรง จนนางถึงแก่ความตาย บุญนั้นส่งผลให้นางไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และมีวิมานทองที่สว่างไสวเช่นเดียวกัน

     เราจะเห็นได้ว่า แต่ละช่วงของชีวิตนั้นมีการชิงช่วงและช่วงชิงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากกรรมที่เราทำเอาไว้ในอดีตมีทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล วิบากกรรมจะตามมาส่งผลเมื่อไรก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรประมาท ต้องทำ  ความดีในทุกโอกาส เพราะแม้ว่าจะทำบุญหรือไม่ก็ตาม เมื่อถึงเวลาก็ต้องตายอยู่ดี ใครตายเรว็ ตายช้าหรือตายเพราะเหตุใดไม่สำคัญสำคัญอยู่ที่ว่า ก่อนตายใครสั่งสมบุญไว้มากกว่ากัน ใจใครผ่องใสกว่ากัน และตายแล้วจะไปบังเกิดที่ไหน ดังนั้นเมื่อตัดสินใจจะทำความดีแล้ว อย่าได้รอช้าและอย่าลังเลใจ ให้ทุ่มเททำไปเลย เมื่อใจแช่อิ่มอยู่ในบุญ บุญจะหนุนนำให้เรามีความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และเมื่อบุญเต็มเป่ยี ม เราจะได้เข้าถึงพระรัตนตรัยกันทุกคน




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      วันลอยกระทง 2566 ประเพณีและประวัติวันลอยกระทง วิธีทำกระทงง่ายๆ
      วันตรุษจีน 2566 ประวัติวันตรุษจีน การ์ดและคำอวยพรตรุษจีน
      วันครูแห่งชาติ 2567 ประวัติความเป็นมาของวันครู กิจกรรมวันครู
      วันพ่อแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาความสำคัญ กลอนวันพ่อ การ์ดวันพ่อ
      วันปิยมหาราช ประวัติและความสำคัญของวันปิยมหาราช
      วันแม่แห่งชาติ 2566 กลอนวันแม่ ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันแม่แห่งชาติ
      กลอนวันแม่ กลอนวันแม่สั้นๆ ซึ้งๆ จากใจลูกน้อย
      วันสื่อสารแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของการสื่อสาร
      วันภาษาไทยแห่งชาติ 2566 ประวัติ ความสำคัญของวันภาษาไทยแห่งชาติ
      วันสิ่งแวดล้อมโลก World Environment Day
      วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2566 World No Tobacco Day
      วันครอบครัว 14 เมษายน ประวัติความเป็นมาและความสำคัญ
      วันสตรีสากล ประวัติความเป็นมาความสำคัญของวันสตรีสากล




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related