Mobile Versionโครงการธุดงค์ธรรมชัย เส้นทางมหาปูชนียาจารย์พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ปีที่ 2ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม วันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2556
พระธุดงค์ธรรมชัย และสาธุชนร่วมพิธีจุดประทีปนับพันดวงถวายเป็นพุทธบูชา ณ พุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม / ในภาพเป็นพระธุดงค์ธรรมชัยสถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2555
ต้อนรับพระธุดงค์มหากุศลที่พลาดไม่ได้ในสมัยนี้การจะหาพระธุดงค์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบออกธรรมยาตราเป็นหมู่คณะใหญ่เพื่อให้ชาวพุทธได้พบเห็นเป็นบุญตาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ชาวไทยก็โชคดีที่จะได้พบเห็นพระ 1,128 รูป ออกเดินธุดงค์ในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ การเดินธุดงค์ผ่านเมืองครั้งนี้เพื่อปลุกใจชาวไทยให้มีพลังใจในการต่อสู่ชีวิต ให้เศรษฐกิจกับจิตใจไปด้วยกัน บางทีชาวโลกก็ทำงานหาเงินจนเพลิน เลยลืมที่จะหาบุญใส่ตัว ลืมคิดไปว่า...เราเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน อะไรคือสาระที่แท้จริงของชีวิต...
ประโยชน์ของการเดินธุดงค์เข้าเมือง
การเดินธุดงค์ผ่านเมืองในครั้งนี้ มีประโยชน์ใหญ่ทั้งต่อสาธุชนชาวไทยและชาวโลกอีกมากมาย คือ
1. การได้เห็นสมณะเป็นมงคล เป็นบุญลาภที่ชาวไทยได้มีโอกาสกราบไหว้และให้การต้อนรับพระธุดงค์หมู่ใหญ่ เมื่อพบเห็นแล้วเกิดจิตเลื่อมใส รีบไปเอาบุญใหญ่กับท่าน ไม่ว่าจะเป็นการยกมือไหว้ โปรยดอกไม้ตอนรับ หรือกล่าวคำ "สาธุ สาธุ สาธุ" นับเป็นการยังจิตของชาวไทยที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส ที่เลื่อมใสอยู่แล้วก็ให้มีจิตเลื่อมใสยิ่งๆ ขึ้นไป
2. การบูชาบุคคลที่ควรบูชาเป็นมงคล ทุกท่านจะได้โอกาสสักการะบูชาองค์หลวงปู่วัดปากน้ำทองคำ ซึ่งท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่เคารพศรัทธาของสาธุชนทั่วโลก
3. การได้ให้ทานเป็นมงคล ทุกท่านได้มีโอกาสทำบุญกับพระสงฆ์หมู่ใหญ่ที่ประพฤติธุดงควัตร ฉันมื้อเดียว เข้าพักตามแต่เจ้าหน้าที่จัดให้ แม้ขณะเดินธุดงค์ก็พยายามทำกาย วาจา ใจให้สะอาดบริสุทธิ์ตลอดเวลา ตามองกลาง ใจมองกลาง ท่านแวะพำนักที่ไหนก็ร่วมกันสวดมนต์ทำสมาธิกลั่นบริเวณนั้นให้สะอาดบริสุทธิ์ ทำความเป็นมงคลให้บังเกิดขึ้นกับสถานที่นั้นๆ การได้โอกาสถวายสังฆทานกับสงฆ์นับพันรูปถือเป็นมงคลอันสูงสุดของทายกทายิกาโดยแท้
4. ได้ทัสสนานุตริยะ การได้เห็นขบวนพระธุดงค์ซึ่งเป็นประดุจกองทัพธรรมย่ำธรรมเภรีโปรดสัตว์ถือเป็นเป็นการเห็นอันเยี่ยมพบเห็นแล้วใจสงบ เบิกบานใจและมีปีติที่ได้ออกมาต้อนรับ การได้เห็นภาพใดแล้วทำให้ใจผ่องใส การเห็นนั้นถือว่าเป็นการเห็นอันเยี่ยม เราอาจพลาดโอกาสดีๆ หลายอย่างในชีวิตแต่โอกาสได้ออกมาต้อนรับพระธุดงค์ครั้งนี้ พลาดไม่ได้เพราะนี่คือสะพานเชื่อมบุญหนุนส่งให้ไปสวรรค์นิพพาน
และในวันที่ 22 มกราคมนี้ ช่วงเย็นประมาณบ่าย 4 โมง พระธุดงค์จะเดินถึงพุทธมณฑลศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของชาติไทย ท่านผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ขอเชิญสาธุชนทุกท่านสวมชุดสีขาวๆ มาร่วมถวายการต้อนรับพระธุดงค์ทั้ง 1,128 รูปได้ที่พุทธมณฑล ซึ่งตอนค่ำจะมีพิธีจุดประทีปนับพันดวงถวายเป็นพุทธบูชาด้วยพิธีจุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชา และเจริญพุทธมนต์รัตนสูตรวันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556 ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม
18.20 น. พระธุดงค์สวดมนต์ทำวัตรเย็นและปฏิบัติธรรม
19.00 น. ประธานสงฆ์มาถึงศูนย์กลางพิธี
19.15 น. อาราธนาศีล 5
พิธีจุดประทีปเป็นพุทธบูชา
19.20 น. ประธานสงฆ์กล่าวถวายประทีปเป็นพุทธบูชา
ประธานสงฆ์และพระผู้ใหญ่จุดประทีปโคมเอก
พระธุดงค์และสาธุชนจุดประทีป
19.30 น. อธิษฐานจิตแผ่เมตตา
พิธีเจริญพุทธมณต์รัตนสูตร
19.35 น. คณะสงฆ์เจริญพุทธมนต์รัตนสูตร
20.00 น. ประธานสงฆ์ให้โอวาทพระธุดงค์
20.30 น. ประธานฆราวาสและเจ้าภาพถวายไทยธรรมแด่ประธานสงฆ์และพระผู้ใหญ่
20.35 น. คณะสงฆ์ให้พร / บูชาพระรัตนตรัย
จุดพลุ
-เสร็จพิธีสามารถเข้าไปดูรายละเอียดกิจกรรมและเส้นทางต้อนรับพระธุดงค์ได้ที่นี่
พุทธมณฑล
พุทธมณฑล เป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา อยู่ในอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มีเนื้อที่ 2,500 ไร่ สร้างขึ้นเพื่อฉลองวาระกึ่งพุทธกาล เมื่อ พ.ศ. 2500 มีพระพุทธรูปปางลีลาประจำพุทธมณฑล เรียกว่า พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ ออกแบบโดย ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี พระพุทธรูปนี้มีความโดดเด่นทางผ้าจีวรที่พลิ้วเหมือนจริง (พระพุทธรูปนี้สร้างเสร็จและฉลอง เมื่อ พ.ศ. 2525 คราวสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี)
พุทธมณฑลในปัจจุบันนอกจากจะเป็นศูนย์รวมการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาและจัดประเพณีกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปพักผ่อนได้อีกด้วยพระพุทธรูปพระประธานพุทธมณฑล ซึ่งได้รับพระราชทานนามว่า "พระศรีศากยะทศพลญานประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์" ซึ่งสร้างขึ้นใจกลางพุทธมณฑล ต้นแบบที่อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ออกไว้นั้นสูง 2.14 เมตร แต่ต้องการให้มีความหมายจึงได้ขยายแบบออกไป เพื่อให้ได้ 2,500 กระเบียด จึงต้องขยายออกไปอีก 7.5 เท่า เป็นความสูง15.875 เมตร เมื่อขยายแบบเสร็จแล้วการสร้างต้องแบ่งพระพุทธรูปออกเป็น 6 ส่วนคือ พระเศียร พระอุระ และพระพาหาข้างซ้าย พระนาภี และพระพาหาข้างขวา พระเพลา พระบาท และฐานบัวรองพระบาท พระกรซ้ายและขวา มีโลหะมาตรฐานเดียวกัน 137 ชิ้น มีสูตรของส่วนผสมที่แน่นอนเรียกว่า "โลหะสำริด" เริ่มสร้าง เดือนมิถุนายน 2523 โดยมี อาจารย์ สาโรช จารักษ์ อำนวยการสร้าง แล้วเสร็จในปี 2525
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ ได้เสด็จทรงเททองพระเกตุมาลาไว้เมื่อ 18 พฤษภาคม 2524 ได้ประกอบพิธีเชื่อมประกอบพระเศียร กับองค์พระพุทธรูป เมื่อ 23 สิงหาคม 2525 โดยสมเด็จพระสังฆราชเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ฯ เสด็จประกอบพิธีสมโภช เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2525 และระหว่างกำลังดำเนินการสร้างอยู่นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปทอดพระเนตรการสร้างองค์พระพุทธรูป
วิหารพุทธมณฑล ซึ่งหากมองจากถนนใหญ่จะเห็นชัดเจน แต่เมื่อมองจากองค์พระพุทธรูปประธาน มองตัดความงดงามของสวนไม้ดอกออกไปก็จะเห็นความงดงามอย่างยิ่ง เป็นอาคารชั้นเดียว สร้างแบบสถาปัตยกรรมไทยตามแบบวิหารของวัดราชาธิราช ผนังวิหารทำเป็น 2 ชั้น เพื่อให้ประตูหน้าต่าง เลื่อนเข้าภายในกำแพงได้ ภายในปูด้วยกระเบื้องหินอ่อน หลังคามุงด้วยกระเบื้องลวดลายภายนอกเป็นประติมากรรมรูปพระพุทธรูป 8 องค์ และพระโพธิสัตว์ 2 องค์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป 25 พุทธศตวรรษขนาด 2,500 มม. ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2518
ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมประยุกต์ หันหน้าไปทางทิศเหนือ ก่อสร้างเสร็จในปี 2524
ที่พักสงฆ์อาคันตุกะ อยู่ตรงข้ามกับตำหนักสมเด็จพระสังฆราช มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สองชั้น สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2526
หอประชุม สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประชุมทางพระพุทธศาสนา และให้ความรู้ อาคารแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สองชั้น ชั้นล่างด้านทิศเหนือใช้เป็นสำนักงานพุทธมณฑล สร้างเสร็จ พ.ศ.2529
หอกลอง สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานกลองชัยขนาดใหญ่ ตัวกลองทำด้วยไม้ขนุน และหนังควายเผือก เส้นผ่าศูนย์กลางมีขนาด 1.60 เมตร ผู้จัดทำกลองคือ พระพิชัย ธรรมจาโร วัดบัลลังก์ศิลาอาสน์ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เมื่อ พ.ศ.2526
สำนักงานพุทธมณฑล ลักษณะอาคารแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ สร้างเสร็จ พ.ศ.2525
การไปชมอาคารทุกหลังจะไปสะดวกมาก มีถนนที่ลัดเลาะไปสวนไม้ที่ร่มรื่น ริมสระน้ำที่มีน้ำเต็มเปี่ยม และมีป้ายบอกทิศทางไป อำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่
อาคารประชาสัมพันธ์ สถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2525
ศาลาราย สร้างตามแนวทางเท้าวงกลมรอบองค์พระประธานมีทั้งหมด 20 หลัง ด้านข้างโปร่ง
ศาลาปฏิบัติกรรมฐาน เป็นอาคารเพื่อใช้ปฏิบัติกรรมฐาน อยู่บริเวณสวนเวฬุวัน เป็นรูป 6 เหลี่ยม เชื่อมติดต่อกันทั้งหมด 8 หลัง
พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา อาคารทรงไทยเป็นรูปกลมวงแหวนด้านนอก แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกแสดงโบราณวัตถุต่าง ๆ ส่วนที่ 2 จัดนิทรรศการและการบรรยาย ส่วนที่ 3 ส่วนบริการ สุขา ห้องน้ำ ฯ
หอสมุดแห่งพระพุทธศาสนา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานนามว่า "หอสมุดพระพุทธศาสนามหาสิรินาถ" ห้องสมุดนี้ใหญ่โตมาก ห้องอ่านหนังสือจุถึง 500 คน มีหนังสือประมาณ 500,000 เล่ม เก็บหนังสือบนเพดานได้อีก หนึ่งล้านเล่ม วัดปากน้ำและสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ บริจาคเงินค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 250 ล้านบาท เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่เจริญพระชนมายุ 5 รอบ
มหาวิหารประดิษฐานพระไตรปิฎกหินอ่อน สถาปัตยกรรมไทยรูปทรงจตุรมุข มีพระเจดีย์ 9 ยอด ประดิษฐานในย่านกลาง และเป็นที่จารึกพระไตรปิฎกหินอ่อน ขนาด 1.10 x 2.00 เมตร จำนวน 1,418 แผ่น มีภาพวาดพระพุทธประวัติอยู่ด้านบนโดยรอบ เริ่มสร้างปี พ.ศ.2532 แล้วเสร็จในปี 2541 ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาท วัดปากน้ำ และสมาคมศิษย์เก่าหลวงพ่อฯ บริจาคผมเคยไปเห็นพระไตรปิฎกหินอ่อน ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนม่า แต่ความงดงามของสถานที่นั้นจะเทียบกันไม่ได้เลย
โรงอาหาร ก็เป็นแบบสถาปัตยกรรมไทย บริการด้านอาหารเมื่อมีกิจกรรมในพุทธมณฑล
หอฉัน ลักษณะสถาปัตยกรรมไทย ใช้เป็นที่อบรมศีลธรรม จริยธรรม ของนักเรียน นักศึกษาที่มาพักแรมเข้าค่ายพุทธบุตร
ท่าเทียบเรือ อยู่ด้านทิศเหนือ และทิศใต้ ด้านหลังใช้เป็นท่าขึ้นลงเรือ ซึ่งเรือแล่นไปได้รอบพุทธมณฑล
สระน้ำขนาดใหญ่ อยู่ด้านหลังวิหาร มีขอบสระใช้ประกอบกิจกรรมทางศาสนา หรือลอยกระทง
ศาลาอำนวยการ ใช้เป็นที่รับบริจาค ขายดอกไม้ธูปเทียน จำหน่ายวัตถุมงคล "พระ 25 พุทธศตวรรษประทับยืนปางลีลา" ยังมีจำหน่ายองค์ละ 100 บาท เมื่อตอนเริ่มสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกนั้น ผมเคยเช่าจากปะรำพิธีในสนามหลวงองค์ละ 10 บาท สิบบาทเมื่อ 45 ปีที่แล้ว น่าจะสูงกว่า 100 บาทในปัจจุบัน
ศาลาบำเพ็ญกุศล อยู่ด้านหลังศาลาอำนวยการใกล้องค์พระเช่นกัน เสาร์-อาทิตย์ ภาคเช้ามีถวายสังฆทาน อาทิตย์บ่ายมี พระธรรมเทศนา ไปติดกันเทศน์ทำบุญได้
สำนักงานย่อย อยู่บริเวณสวนเวฬุวัน เป็นที่ทำการของเจ้าหน้าที่
ศาลาสรีรสราญ มีห้องสุขาไว้บริการประชาชน เห็นมีแห่งเดียวและได้แนะแล้วว่าควรเป็นห้องสุขาแบบผสม
เรือนแถว ที่พักของเจ้าหน้าที่ป้อมยาม มี 8 หลัง
พื้นน้ำของพุทธมณฑลนั้นงามยิ่ง น้ำเต็มเปี่ยม สนามขอบสระน้ำเรียบเขียวชอุ่ม โล่งเตียน เนื้อที่พื้นน้ำมีมากถึง 600 ไร่ สนามหญ้าและสวนต้นไม้มี 1,562 ไร่ เป็นถนนและทางเท้า 244 ไร่ เป็นอาคาร และสิ่งก่อสร้างเพียง 94 ไร่ จากจำนวนทั้งหมด 2,500 ไร่
"สังเวชนียสถาน 4 ตำบล" ซึ่งต้องตระเวนไปหาให้พบ หาไม่ยากเพราะมีป้ายนำคือ
"ตำบลประสูติ" ประดิษฐานหินรูปดอกบัว 7 ดอก แกะสลักหินเป็นรูปดอกบัวกำลังแย้มบาน ช่วงบนแกะสลักลายนูนรูปพระพุทธบาท กลางฝ่าพระบาทสลักชื่อแคว้นต่างๆ 7 แคว้น ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระธรรมคำสั่งสอน รวม 7 แคว้นคือ กาสี-โกศล,มคธ-อังคะ,สักกะ วัชชี,มัลละ,วังสะ,กุรุ
"ตำบลตรัสรู้" ประดิษฐานหินรูปโพธิบัลลังก์ ช่วงบนแกะสลักนูนเป็นลายบัวคว่ำและบัวหงาย มีรัศมีล้อมรอบช่วงล่าง
"ตำบลปฐมเทศนา" ประดิษฐานหินเป็นรูปธรรมจักร และรูปแท่นที่นั่งของปัญจวัคคีย์ทั้ง 5
"ตำบลปรินิพพาน" ประดิษฐานหินสัญลักษณ์ รูปแท่นไสยาสน์ ทุกตำบลมีพื้นที่ 50 ไร่ อยู่ท่ามกลางสนามหญ้า สวนไม้ดอก ไม้ประดับที่งดงาม
"สวน" ต้องขอยกย่องและเชิดชูความงดงามของสวนต่างๆ ในพุทธมณฑลแห่งนี้ได้แก่
"สวนเวฬุวัน" คือสวนไผ่ มีต้นไผ่ประมาณ 100 ชนิด
"สวนอัมพวัน" คือสวนมะม่วงเช่นกัน มีมะม่วงพันธุ์ต่างๆ เกือบร้อยชนิด
"สวนธรรม" คือสวนกระถินณรงค์
"สวนไทร" มีเนื้อที่น้อยกว่าสวนอื่นคือมี 5 ไร่ แต่ก็สวยและร่มรื่นยิ่งนัก
สวนลัฏฐิวัน คือ สวนตาล อยู่ตรงตำบล ปรินิพพาน
สวนสมุนไพร มีสมุนไพรอยู่ประมาณ 211 ชนิด ได้จัดเป็นโครงการนำร่อง เพื่อส่งเสริมให้วัดทั่วประเทศปลูกสมุนไพรในวัด มีที่จำหน่ายสมุนไพร เสียดายวันที่ไปยังไม่มีโอกาสไปชมและอุดหนุน
การเดินทาง
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ สามารถเข้าถึงได้หลายเส้นทาง คือเดินทางไปตามถนนเพชรเกษมถึงประมาณกิโลเมตรที่ 22 เลี้ยวขวาเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 ไปประมาณ 8 กิโลเมตร หรือเดินทางไปตามถนนสายปิ่นเกล้า-นครชัยศรี แล้วแยกเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 ไปเล็กน้อย
นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยใช้ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แยกเข้าสู่ถนนอุทยาน (อักษะ) เพื่อมุ่งเข้าสู่พุทธมณฑลได้ ถนนอุทยาน (อักษะ )เป็นถนนที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยแนวเสาไฟประดับรูปกินรี น้ำพุและไม้ประดับต่างๆ มีทัศนียภาพที่สวยงาม
..............................................................................................
โครงการธุดงค์ธรรมชัย เส้นทางมหาปูชนียาจารย์พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ปีที่ 2
http://goo.gl/MMxbV
พิมพ์บทความนี้
