“อุบาสิกาแก้ว คือ ผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย แต่จะนั่งใกล้แค่ไหนก็ต้องดูอีกทีว่า เป็นอุบาสิกาแก้วพันธุ์ปาณุเปตัง เหมือนอย่างที่ได้กล่าวคำปฏิญญาหรือไม่ ซึ่ง ปาณุเปตัง นั่นหมายถึงการมอบกายถวายชีวิตในพระรัตนตรัย จะเป็นจะตายก็ต้องอยู่ในพระพุทธศาสนา ต้องช่วยปกป้องพระพุทธศาสนา ไม่ใช่มีเรื่องมีราวอะไรก็หนี้เอาตัวรอด ทิ้งพระพุทธศาสนาไว้ อย่างนี้ ไม่เรียกว่า อุบาสิกาแก้วพันธุ์ปาณุเปตัง และการมาบวชอุบาสิกาแก้วในครั้งนี้ ยังถือว่าเป็นการ...สร้างบุญ เสริมบุญ สานบุญ เพราะนอกจากเราจะได้มาสร้างบุญเสริมบุญให้กับตนเองแล้ว ทางวัดพระธรรมกาย ยังมีโครงการบวชพระ 100,000-รูปทั่วไทย เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา โดยอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทุกท่านที่มาร่วมบวชในครั้งนี้ ยังคงต้องช่วยกันสานบุญต่อ โดยการออกไปเชิญชวนชายแมนแมนให้มาบวชในโครงการกันเยอะๆ...

 

        ถ้าคนมาบวชกันเยอะๆ พระพุทธศาสนาของเราก็จะมั่นคง เราไม่ได้มุ่งหวังแค่อยากจะให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย แต่มุ่งหวังให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำโลก ถ้าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำโลกแล้ว โลกนี้ก็จะสงบ และสันติอย่างแท้จริง”

 

        ตอนนี้ไม่ว่าที่ไหนๆ ไม่ว่าจังหวัดอะไรๆ ก็คึกคักอบอวลไปด้วยกลิ่นศีลกลิ่นธรรม เพราะได้มีอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนกว่าหนึ่งล้านคนทั่วโลก ได้พร้อมใจกันประพฤติปฏิบัติธรรม รักษาศีลแปด และร่วมกันนั่งสมาธิ-ทุกศูนย์อบรมล้วนบอกว่า บรรยากาศการบวชอุบาสิกาแก้วรุ่นนี้คึกคักเป็นพิเศษ มีทั้งอุบาสิกาแก้ว รุ่นที่หนึ่ง รุ่นที่สอง รุ่นที่สาม และรุ่นที่สี่ มาร่วมชุมชุมทำความดีพร้อมกัน เป็นโครงการที่รวมกลุ่มกันทำความดีได้แบบง่ายๆใกล้ๆบ้าน มีคุณป้า คุณน้า คุณอา หลายต่อหลายท่านล้วนบอกว่า “โครงการนี้ดีจริงๆ สมกับที่ใครต่อใครเขาพูดกัน เพราะนอกจากจะสอนเรื่องบาป บุญ คุณโทษแล้ว เขายังสอนแม้กระทั่งเรื่องของการล้างห้องน้ำ การพับผ้า การกวาดการถูอย่างถูกวิธี”-บางคนก็บอกว่า “เกิดมาอายุปูนนี้ อีกไม่กี่ปีก็จะลาโลกนี้ไปแล้ว ก็เพิ่งจะมาเรียนรู้วิธีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องก็วันนี้แหละ”

 

        ถึงแม้ว่าจะเหลือเวลาอบรมอีกเพียงไม่กี่วัน อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทุกคนก็ล้วนบอกว่า “จะทำเวลาที่เหลืออยู่นี้ ให้เป็นเวลาที่มีค่าและคุ้มค่าที่สุดในชีวิต จะตั้งใจบวชให้ได้สองชั้น ให้คุ้มค่ากับที่เราเสียสละเวลาอันมีค่า มาประพฤติปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ค่ะ”