ไอซีทีดึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาฝึกสร้างเกม ภายใต้โครงการ
“เด็กชอบเกมสร้างเกม” จบแล้วกว่า 70 คน แถมได้รับรางวัลติดมือกลับบ้าน
นักวิชาการ แนะต่อยอดในระบบการศึกษาและติวเข้ม หลังเห็นไอเดียเจ๋ง
เทียบกับนักศึกษาปริญญาด้านคอมพิวเตอร์ นางมณีรัตน์ ผลิพัฒน์ รองปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวในงานพิธีมอบรางวัลเด็กสร้างเกมยอดเยี่ยมว่า นอกจากแนวทางการควบคุมประเภทของเกมไม่ให้เป็นอันตราย ดูแลจำนวนชั่วโมงการเล่นเกม การสร้างมาตรฐานร้านเกมแล้ว การสร้างกิจกรรมทางเลือกด้านบวกให้เด็กๆ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่กระทรวง ให้ความสนใจ โดยการเข้าไปส่งเสริมครั้งนี้จะช่วยเสริมทักษะ และเป็นกิจกรรมใน การจุดประกายการเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชน จากเกมคอมพิวเตอร์ จากการเล่นไปสู่การพัฒนาสร้างสรรค์เกมเกมด้วยตนเอง สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาบุคลากรของประเทศในด้านไอซีที
พิธีมอบรางวัลเด็กสร้างเกมยอดเยี่ยมจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (23 มกราคม) โดยมีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นแม่งานเปิดเวทีให้เด็กๆ ได้แสดงผลงานเกม 2 มิติ และ 3 มิติ ซึ่งเป็นผลงานของเด็กนักเรียนที่ผ่านการอบรมการออกแบบและสร้างเกม ตามโครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงไอซีทีและภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้ชื่อโครงการ “เด็กชอบเกมสร้างเกม” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมจินตนาการและการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการพัฒนากลุ่มเด็กชอบเล่นเกมสู่นักสร้างเกมรุ่นเยาว์
โครงการเด็กชอบเกมสร้างเกม เปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนที่ชอบเล่นเกมและอยากจะลองหัดสร้างเกมบ้าง ได้มาเข้ารับการฝึกอบรมวิธีการออกแบบและสร้างเกมโดยใช้เครื่องมืออย่างง่ายๆ เช่น โปรแกรมเกมเมคเกอร์ ซึ่งเป็นฟรีแวร์ โดยกระทรวงฯ ได้จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการมาแล้ว 2 รุ่น โดยในรุ่นแรกมีเด็กและเยาวชนสนใจมาเข้ารับการอบรมกว่า 70 คน ในช่วงปิดภาคฤดูร้อนที่ผ่านมา เด็กๆ ได้สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยม และมีความต้องการในการพัฒนาต่อยอดความรู้เพิ่มเติมอีก ดังนั้น ในช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. 2549 ที่ผ่านมา ทางโครงการฯ จึงได้จัดอบรมรุ่นที่ 2 โดยเปิดโอกาสให้เด็กๆ 45 คน มาเรียนรู้เพิ่มเติมในการสร้างเกมที่มีความยากและซับซ้อนยิ่งขึ้น คือเกม 3 มิติ ซึ่งเด็กๆ ก็ยังทำผลงานได้ดี
สำหรับรางวัลผลงานยอดเยี่ยม ประเภทเกม 3 มิติ อันดับ 1 ด.ช. ณภัทร ตั้งทรงเจริญ โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง จ.ระยอง อันดับ 2 ด.ช. ธนชาติ เพียรเจริญศักดิ์ Garden International จ.ระยอง อันดับ 3 นาย ประณิธิ วงศ์คำจันทร์ โรงเรียนตะกั่วป่าเสนานุกูล จ.พังงา และ ด.ญ. วริษา ปุณณรัตนกุล โรงเรียนสตรีวิทยา 2 กรุงเทพฯ รางวัลชมเชย ด.ช.นิธิ วัฒนศิริชัยกุล โรงเรียนสาธิตปทุมวัน กรุงเทพฯ
ส่วนผลงานยอดเยี่ยมประเภทเกมพื้นฐาน อันดับ 1 เป็นของ ด.ช. น้ำใส ตั้งเต็มเจริญ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเพียงรางวัลเดียวสำหรับเกมประเภทนี้ ซึ่งนักเรียนก็จะได้รับทุนการศึกษา จำนวน 10,000 บาท 5,000 บาท 3,000 บาท และ 2,000 บาท ตามลำดับ และของรางวัลจากบริษัทเกม 3 แห่งซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรม ได้แก่ บริษัทเอเชียซอฟท์ ผู้โด่งดังจากเกมแร็คนาร็อก และ โยกัง, บริษัทอินิทรีดิจิตอล เจ้าของเกมดังปังย่า และ บริษัทเอ็นซีทรู ซึ่งนักเล่นเกมรู้จักกันในนามของเกมลินเนจทู
นายวิษณุ โคตรจรัส อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากที่ได้อบรมแก่เยาวชนพบว่า เด็กมีความสามารถไม่ต่างจากนักศึกษาในระดับปริญญาตรี ในบางมุมยังมีความสร้างสรรค์ที่แตกต่างกว่า หากเด็กไทยได้รับการส่งเสริมตั้งแต่เริ่มต้น หรือให้กิจกรรมด้านไอซีที เข้าไปมากขึ้น จะช่วยให้แนวทางการสร้างบุคลากรของประเทศประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้
“ศักยภาพของเด็กไทยไม่แพ้เด็กชาติอื่นๆ ขอให้พ่อแม่ส่งเสริมให้เขาได้คิดและแสดงออก และอยากให้กระทรวงไอซีทีสานต่อโครงการนี้ไปอีกเรื่อยๆ แล้วเราจะได้โปรแกรมเมอร์ นักออกแบบเกม และผู้สร้างเกมที่เป็นคนไทยอย่างแน่นอน”
ที่มา-
