กรมสรรพสามิตเตรียมปรับโครงสร้างภาษีเบียร์ใหม่ให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการและภาครัฐ ชี้ต้นทุนการผลิตไม่ต่างกันมาก ขณะที่ภาษีมีถึง 3 ระดับ ระบุรอข้อมูลราคาขายปลีกที่ชัดเจนก่อนตัดสินใจ รับตรวจสอบยาก เหตุผู้ประกอบการหนึ่งรายผลิตเบียร์หลายยี่ห้อ
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างสำรวจข้อมูลราคาขายปลีกเบียร์ในตลาดในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นฐานอ้างอิงในการพิจารณาปรับอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าดังกล่าว โดยสาเหตุที่ต้องพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีสินค้าเบียร์ใหม่ เพื่อต้องการให้มีความเป็นธรรมไม่เฉพาะผู้ประกอบการที่แข่งขันกันในตลาด แต่รวมถึงความเป็นธรรมสำหรับภาครัฐด้วย โดยกรมไม่ต้องการเห็นสินค้าอบายมุขมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอยู่แล้ว และเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีอนาคตที่ดีเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่คลังก็ต้องการภาษีเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
รายงานข่าวระบุว่า ปัจจุบันการจัดชั้นจัดเก็บภาษีเบียร์แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ กลุ่มราคาสูง (พรีเมียม) กลุ่มราคาปานกลาง (สแตนดาร์ด) และกลุ่มราคาต่ำ (อีโคโนมี) ในส่วนของเบียร์ราคาสูงจะจัดเก็บภาษีสูงสุดคือ 37 บาทต่อลิตร โดยสินค้าที่อยู่ในกลุ่มนี้คือ ไฮเนเก้น รองลงมาคือ กลุ่มเบียร์ราคาปานกลาง จัดเก็บภาษี 36 บาทต่อลิตร คือ สิงห์ และกลุ่มราคาต่ำ จัดเก็บภาษีในอัตราต่ำสุด คือ 28 บาทต่อลิตร กลุ่มนี้คือ ลีโอ และช้าง
