วัดพิชัยสงคราม
วัดพิชัยสงคราม
วัดไทย ในจังหวัดสมุทรปราการ
     เมืองสมุทรปราการด่านสมุทร     ตระเตรียมยุทธป้องกันอาจหาญกล้า
ปัจจามิตรรุกล้ำน่านน้ำมา เป็นด่านหน้าป้องแดนแผ่นดินไทย
ทั้งเป็นเมืองศาสนาปรากฎเห็น เจดีย์เด่นกลางน้ำงามไสว
วัดพิชัยสงครามงามเกรียงไกร อยู่เคียงใกล้ป้อมเมืองเลื่องลือชา
ปัจจามิตรรุกล้ำน่านน้ำมา เป็นด่านหน้าป้องแดนแผ่นดินไทย
ทั้งเป็นเมืองศาสนาปรากฎเห็น เจดีย์เด่นกลางน้ำงามไสว
วัดพิชัยสงครามงามเกรียงไกร อยู่เคียงใกล้ป้อมเมืองเลื่องลือชา
วัดพิชัยสงคราม

พระสมุทรเจดีย์
      สัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรปราการคือ พระเจดีย์กลางน้ำหรือพระสมุทรเจดีย์  ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๒ เพื่อให้ผู้ที่เดินทางมาสยามประเทศเห็นว่าไทยเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา ดินแดนแห่งความสงบสุขไม่เบียดเบียนกัน จังหวัดสมุทรปราการเป็นจังหวัดริมน่านน้ำทิศเหนือจรดกรุงเทพมหานคร  ทิศใต้จรดอ่าวไทยจึงเป็นปราการสำคัญของประเทศมาแต่โบราณ     

วัดเก่าแก่แต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
วัดพิชัยสงคราม
      วัดพิชัยสงครามตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นวัดเก่าแก่แต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเดิมเรียกว่า วัดโพธิ์ หรือ วัดนอก ด้านหน้าวัดปัจจุบันเป็นตลาด สุดตลาดฝั่งตรงข้ามวัดเป็นท่าน้ำข้ามไปพระสมุทรเจดีย์ เมื่อครั้งรัชกาลที่ ๒ พระยาพิชัย สงครามได้มาสร้างป้อมปราการไว้ป้องกันข้าศึกและได้บูรณะวัดนอกเมื่อรัชกาลที่ ๒ เสด็จพระราชดำเนินมาทอดผ้าพระกฐินได้พระราชทานนามวัดว่า วัดพิชัยสงคราม   

ปัจจุบันกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ
     พระอุโบสถหลังเดิมสมัยอยุธยาตอนปลายชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ยังคงรักษาไว้ในสภาพที่ดี ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ พระอุโบสถหลังใหม่สร้างในสมัยปัจจุบันเป็นทรงปราสาทจตุรมุขสวยงาม  อยู่ด้านหน้าพระอุโบสถหลังเก่า  ด้านหน้าพระอุโบสถหลังเก่ามีเจดีย์สมัยอยุธยาทรงเครื่องคือมีการประดับประดาองค์พระเจดีย์งดงาม  โดยการนำถ้วยชามเบญจรงค์มาตกแต่งด้วยลายปูนปั้นเป็นสร้อยสังวาลย์ มีบัวกลุ่มปูนปั้นประดับรอบเจดีย์ ๓ ชั้น           

สำหรับประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา 
     มีศาลาการเปรียญทรงไทยสร้างในโอกาสเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา ๕ รอบอยู่ด้านหน้าวัดจุได้หลายร้อยคน สำหรับประกอบพิธีทางพระพุทธศานา หอประชุมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สร้างเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๗ จุได้ประมาณ ๔๐๐-๕๐๐ คน สำหรับใช้ประชุมพระสังฆาธิการและจัดกิจกรรมต่างๆรวมทั้งใช้เป็นที่สอนวิปัสสนาด้วย  จึงใคร่ขอเชิญชวนทุกท่านได้มาใช้หอประชุมนี้ให้เป็นประโยชน์ทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน











