ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558


เมื่อถึงเวลาสว่างผู้มีบุญได้พร้อมใจกันนั่งสมาธิ กลั่นใจใสๆ หลวงพ่อพระอินทะญาณะได้นำอธิษฐานจิตและสวดมนต์เป็นภาษาเมียนม่าร์ และทันทีพี่พระธุดงค์ได้ก้าวเข้าสู่ อบต.ท่าทราย เพื่อโปรดญาติโยม เสียงสาธุการก็ดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่สงบศักดิ์สิทธิ์และลมพัดโชยสบายๆ

เกือบครบ 1 เดือนแล้ว "ห่างแค่กาย แต่หัวใจเกินร้อย"

(เป็นวัดที่ชาวเมียนม่าร์ไปสั่งสมบุญเป็นประจำ)
เมตตาเดินนำคณะพระธุดงค์ 1,130 รูป โปรดญาติโยมที่ อบต.ท่าทราย จ.สมุทรสาคร
ทางท่าน นายก อบจ.สมุทรสาคร นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ วันนี้ได้มาต้อนรับพระด้วยตัวเอง ท่านกล่าวว่า “ผมมีความภูมิใจที่พระธุดงค์มาเป็นพันๆรูป ชาวสมุทรสาครและชาวต่างชาติได้ออกมาต้อนรับพระ ทำให้ประชาชนหันมาสนใจพระพุทธศาสนามากขึ้น ประเทศเมียนมาร์เขาเคร่งเรื่องศาสนามาก ตอนที่ผมไปเจอเขา เขาจะขอไปไหว้พระก่อนอันดับแรก แล้วค่อยมาคุยงาน เขาเห็นว่าพุทธศาสนาที่ตนเองนับถืออยู่นั้น เป็นที่พึ่งทางจิตใจ”

พระธุดงค์มาเป็นพันๆรูป ทำให้ประชาชนหันมาสนใจพระพุทธศาสนามากขึ้น”
ส่วนนายกสิริบูรณ์ ทองบางเกาะ อบต.ท่าทราย ให้ความร่วมมืออย่างดีในการเตรียมพื้นที่รองรับพระธุดงค์ ท่านกล่าวด้วยหัวใจของลูกผู้ชายว่า “ผมปลื้มใจและประทับใจมากตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นึกไม่ถึงว่าประชาชนทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาร์จะมาร่วมบุญกันมากมายขนาดนี้ ถ้าทุกภาคส่วนร่วมกันทำความดีแบบนี้ จะทำให้พุทธศาสนาของเราคงอยู่ตลอดไป”

ได้มารวมน้ำหนึ่งใจเดียวกันครับ”
ทางด้าน ลูกลี ลลิตภัทร เจนจบ เธอออกทำหน้าที่ลุยสะบั้นหั่นแหลกตลอดทั้งสัปดาห์ เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงปลื้มใจว่า "ชาวพม่าเขาตั้งใจมากอยากช่วยฟื้นฟูพุทธศาสนาให้กับเมืองไทย ทุกคนก็ตั้งใจมากันหมดเลย มาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทางด้านผู้ใหญ่ทุกองค์กรก็ให้การต้อนรับอย่างดีค่ะ”

ชาวเมียนม่าร์ ให้เป็นต้นบุญต้นแบบกับชาวไทยและชาวโลกค่ะ”
ขณะพระธุดงค์กำลังเดินโปรดญาติโยมอยู่นั้น สายตาทุกคู่ก็มองมาพร้อมกับเสียงสาธุการที่ออกมาจากกลางท้อง เมื่อท่านเดินผ่านจากรูปแรกไปจนถึงรูปสุดท้ายเสร็จแล้ว ชาวเมียนม่าร์ก็พร้อมใจกันสวดบทสรรเสริญคณะสงฆ์เป็นภาษาเมียนม่าร์ ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะอย่างพร้อมเพรียงกัน แปลเป็นภาษาไทยว่า ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย



เมื่อผู้สื่อข่าวบุญสว่างเข้าไปถามความรู้สึก ชาวเมียนม่าร์ต่างก็บอกว่า “ดีใจมาก ปลื้มมาก มีความสุขมาก ได้บุญใหญ่มาก” เช่น น้องเคน ชาวมอญ พูดภาษาไทยได้คล่อง บอกว่า “ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นพระเยอะๆ ขนาดนี้ ปลื้มใจมากจริงๆ ถ่ายรูปเอาไว้แล้วจะส่งไปที่พม่าให้แม่ดู ให้แม่รู้ว่า อยู่เมืองไทยเราไม่ลำบาก มีความสุขเหมือนอยู่บ้านเราทุกอย่าง เพื่อนบางคนวันนี้ไม่ใช่วันหยุด ก็ตั้งใจลางานมาต้อนรับพระ ไม่ว่าแดดจะร้อนขนาดไหนเราก็คิดว่าแดดไม่ร้อน ขอบคุณชาวไทยที่มีน้ำใจให้พวกเรา เมื่อกี้ก็อธิษฐานจิตว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนชาติไหนก็ตาม ขอให้เราได้เจอพระแบบนี้ทุกชาติไป”

"ขอบคุณชาวไทย ที่มีน้ำใจและให้พวกเราได้ทำบุญใหญ่ค่ะ"

ที่ได้เห็นพระเยอะๆขนาดนี้ เห็นแล้วอยากบวช เป็นบุญใหญ่มากจริงๆครับ”
ส่วนพี่น้องชาวเมียนมาร์ผู้ชายกลุ่มใหญ่ ได้ช่วยกันถ่ายทอดความรู้สึกว่า “ วันนี้สนุกดีครับ เหมารถสองแถวมากัน ได้บุญใหญ่มาก ไม่เคยเห็นพระเป็นพันรูปมาก่อน เป็นครั้งแรกในชีวิต รู้สึกอยากบวช มีความสุขอิ่มใจ อยากให้พ่อแม่มาเห็นแบบนี้บ้าง ที่เมียนมาร์ไม่เคยมีงานใหญ่โตขนาดนี้ ขอบคุณพี่น้องคนไทยที่ให้เราได้มาทำบุญใหญ่ๆ และให้เราได้มาอาศัยในประเทศไทย อยากให้มีบุญใหญ่แบบนี้ทุกปีครับ”

ยิ่งรักพระพุทธศาสนาและปีหน้าลูกชายสองคนจะกลับไปบวชที่ประเทศเมียนม่าร์
และชักชวนเพื่อนๆที่โรงงานเกือบ 200 คน มาร่วมต้อนรับพระธุดงค์ด้วย”

จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า "รู้สึกดีใจที่พระมาโปรดถึงหน้าห้าง เป็นบุญอย่างมาก
จึงอำนวยความสะดวกเรื่องที่จอดรถและถวายภัตตาหารพระด้วยครับ"

ส่วนเด็กดีวีสตาร์ก็มากันคึกคัก นั่งเปล่งเสียงสาธุการเจื้อยแจ้วแบบไม่กลัวร้อนกันเลย จำนวน 4,000 กว่าคน จากทั้งหมด 67 โรงเรียนค่ะ

แม้ป่วยจนเดินไม่ได้ ขอพรจากหลวงปู่ให้หายป่วย แล้วพานักเรียน 160 คน
มาเอาบุญใหญ่ต้อนรับพระธุดงค์ได้สำเร็จ

สวมชุดพื้นเมืองของชาวเจียงใหม่ "เห็นประชาชนทั้งไทยและต่างชาติมากันมากๆแล้วปลื้มใจ

เส้นทางพระผู้ปราบมารในวันนี้ คือ ภาพประวัติศาสตร์อันงดงามที่แสดงให้เห็นถึงความรักความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ เป็นภาพแห่งความทรงจำ ที่ทุกคนได้ร่วมกันทำสิ่งที่มีคุณค่าให้เป็นประวัติศาสตร์ชีวิตของทุกคน

และช่วยกันเก็บเสื่อ เพราะเห็นว่าเป็นบุญ


วัดบางตะคอย เมตตาเดินนำคณะพระธุดงค์เข้าจุดพักค้าง มหาวิทยาลัยธนบุรี