ผลปฏิบัติธรรม
สามเณรเจี๋ยน หมิน เฉวียน (ไต้หวัน)

ผมชื่อ สามเณรเจี๋ยน หมิน เฉวียน ชาวไต้หวัน อายุ 40ปีครับ “โลกนี้โลกหน้ามีจริงไหม...สิ่งที่ไหว้ไป จะถึงบรรพบุรุษหรือไม่” นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นกับผมตั้งแต่วัยเด็ก ในทุกครั้งที่ติดตามคุณพ่อคุณแม่ไปไหว้เจ้าที่ศาล ผมเห็นท่านทั้งสองต้องฆ่าสัตว์เพื่อเป็นเครื่องเซ่นไหว้อยู่เป็นประจำ ผมจึงรู้สึกสลดใจ และไม่ชอบการรับประทานเนื้อสัตว์ตั้งแต่เด็กๆ

ตั้งแต่นั้นมา ผมจึงหันมาศึกษาพระพุทธศาสนาเถรวาท ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมไทเปอย่างจริงจัง และฝึกสวดมนต์ทุกวัน เวลาขับรถไปตามที่ต่างๆ ก็จะฟังเสียงสวดมนต์ไปด้วย จนขณะนี้ผมสามารถสวดมนต์ได้โดยไม่ต้องเปิดหนังสือเลย และได้เริ่มฝึกทำสมาธิด้วย แต่เนื่องจากต้องทำงาน จึงเก็บเกี่ยวความสงบได้แค่ช่วงสั้นๆ เพียงวันละ 10-15นาทีเท่านั้น
จนกระทั่ง ปี พ.ศ.2547 เมื่อคุณพ่อเสียชีวิต ผมจึงนิมนต์พระอาจารย์จากวัดภาวนาไทเป มาสวดพระอภิธรรมให้ ท่านได้แสดงธรรม จนผมเกิดความกระจ่างว่า ควรจะทำอะไรเพื่อตอบแทนพระคุณของคุณพ่อ นั่นคือ การบวชครับ ผมอยากบวชมากๆ แต่งานที่ทำอยู่ ไม่เปิดช่องให้ลาครั้งละนาน ๆได้ ผมจึงได้แต่อธิษฐานจิตขอให้มีโอกาสได้บวชเถิด ใช้เวลาอธิษฐานอยู่ถึง 3 ปี จนกระทั่งในปีนี้ เมื่อผมเปลี่ยนงานใหม่ จึงทำให้มีโอกาสบวชเป็นสามเณรใน โครงการอบรมธรรมทายาท ภาคภาษาจีน รุ่นที่3 ของไต้หวัน เพื่อตอบแทนพระคุณของคุณพ่อได้สมความปรารถนา อีกทั้งภรรยาและลูกๆของผม ต่างก็ดีใจและอนุโมทนาบุญกับผมด้วยครับ
ผลการปฏิบัติธรรม

และคืนวันนั้น ผมนั่งสมาธิต่อเลยครับ โดยนึกนิมิตดอกบัวไว้ที่กลางท้อง บนดอกบัวนั้นมีหยดน้ำใสๆ กลมๆ นุ่มๆวางอยู่ ผมก็มองหยดน้ำนั้นอย่างเพลินๆ จากนั้นไม่นาน ผมก็เห็นฟองอากาศผุดขึ้นมา นานประมาณ 9วินาที แล้วก็เปลี่ยนเป็น หยดน้ำกลมใส ไหลพรั่งพรูขึ้นมามากมาย เหมือนศูนย์กลางกายของผมเป็นแหล่งผลิตน้ำพุ และที่สำคัญเป็นน้ำพุแห่งสันติสุขครับ ผมปีติใจมากๆ
เมื่อถึงวันบวชในขณะที่กำลังประกอบพิธีกรรม ผมนั่งพับเพียบ ฟังพระอุปัชฌาย์ให้โอวาทด้วยความปลื้มใจ เพราะนี่คือวันแห่งความสมหวังหลังจากที่อธิษฐานมา 3ปีเต็ม ผมหลับตาเบาๆ วางใจนึกดวงแก้วใสๆไว้ที่กลางท้องอย่างมีความสุข ขณะที่พระอุปัชฌาย์กำลังให้พร ผมก็กรวดน้ำ พร้อมกับนึกถึงน้ำที่กรวดไว้กลางท้อง เพื่ออุทิศบุญแด่คุณพ่อ-คุณแม่ ใจของผมละเอียดอ่อนมาก ไม่นานความสว่างก็เกิดขึ้น เป็นแสงสีทองปรากฏขึ้นมาพร้อมๆกับองค์พระประธานที่อยู่ด้านหลังพระอุปัชฌาย์ ท่านผุดมาอยู่ที่กลางท้องของผมโดยอัตโนมัติ ใจของผมในขณะนั้นล้นปรี่ไปด้วยความสุขครับ สุขมากๆ จนความสุขนั้นทะลักออกมาเป็นน้ำตาเย็น
ต่อมา องค์พระก็หายไป แต่มีน้ำพุแก้วใสผุดขึ้นมาแทน ผมเห็นชัดมาก เป็นหยดน้ำใสๆ เหมือนหยดน้ำค้าง ผมชุ่มชื่นใจมาก รีบอุทิศส่วนบุญให้คุณพ่อ-คุณแม่และสรรพสัตว์ทั้งหลายทันที เพราะคิดว่า ถ้าทำแบบนี้คงจะถูกหลักวิชชาแน่ๆ เพราะใจผมขณะนั้นสว่าง เต็มอิ่ม เหมือนมีก้อนพลังความสว่างอยู่ที่กลางท้อง ช่างมหัศจรรย์จริงๆครับ ผมเหมือนอยู่ท่ามกลางสายฝนแห่งความสุข ที่ชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์ เย็นสบาย และน้ำพุแก้วภายใน ก็ชัด ใส สว่าง มากขึ้นๆ
จากประสบการณ์ตรงของผม ขอชูธงเลยว่า การนั่งสมาธิมีประโยชน์หลายประการ ทำให้หลังเพลแม้ไม่ทานอาหาร ก็ไม่หิว และรู้จักประมาณในการทานโดยอัตโนมัติ ร่างกายสบาย นอนแค่ 4-6 ชั่วโมงก็อิ่ม และทำให้ผมมีสัมมาทิฐิ โดยเรียนรู้ที่จะหันกลับมามองตัวเองเป็นหลัก เพราะมองตัวเองแล้วเห็นดวงใจตัวเองเป็นสุข มัวมองคนอื่นแต่ไม่เห็นดวงใจตัวเองเป็นทุกข์ครับ

ผมไม่เคยคิดเลยว่า ตนเองจะมีวันนี้ วันที่ได้ปลงผม บวชเป็นสามเณร การท่องคำบาลีขอบวช ถือเป็นเรื่องยากสำหรับคนจีนอย่างผม ขณะที่ผมรับผ้าไตร ผมจึงเห็นคุณค่าของธงชัยพระอรหันต์เป็นอย่างมาก นับเป็นบุญวาสนาของชีวิตนี้ ที่ครั้งหนึ่งได้มาบวชครับ
ตอนแรกผมคิดแต่เพียงว่า จะบวชเพื่อแทนคุณของคุณพ่อคุณแม่เท่านั้น แต่เมื่อมาบวชและได้ปฏิบัติธรรม ทำให้ผมซาบซึ้งว่า การปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย และการทำพระนิพพานให้แจ้งต่างหากคือจุดมุ่งหมายของการบวชที่แท้จริง
สุดท้ายนี้ ผมกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่จัดให้มีการจัดบวชขึ้นที่ไต้หวัน และผมตั้งใจจะทำหน้าที่กัลยาณมิตรเป็นแสงสว่างให้กับชาวไต้หวันต่อไปครับ