สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
เวียดนาม เป็นชนชาติที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร เมื่อประกอบกับวิญญาณแห่งนักสู้ผู้รักเสรี เรื่องราวของพวกเขาจึงน่าติดตามอย่างยิ่ง
ในอดีต เวียดนามเคยอยู่ภายใต้อิทธิพลของมหาอำนาจทั้งซีกโลกตะวันออกและตะวันตก เคยถูกแยกเป็น 2ประเทศ คือ เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ แต่ด้วยวิญญาณนักสู้จากครั้งบรรพชน ชาวเวียดนามจึงกัดฟันสู้ เอาชนะข้าศึก รวมชาติจนเป็นหนึ่งได้อย่างน่ายกย่อง
ปัจจุบัน ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม มีประชากร 85ล้านคน มากเป็นอันดับ 13 ของโลก โดยเป็นชนชาติเวียดนาม 90% ภาษาราชการ คือ ภาษาเวียดนาม ส่วนภาษาต่างชาติที่ใช้อย่างกว้างขวางได้แก่ ภาษาจีนกลาง, จีนกวางตุ้ง, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และรัสเซีย
ศาสนาและปรัชญาสำคัญ ได้แก่ศาสนาพุทธ, ขงจื้อ, เต๋า และคริสต์ โดยนับถือศาสนาพุทธ 92 % มีสถูปเจดีย์กว่า 20,000แห่ง













ชาวเวียดนาม มักไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อย ๆ พวกเขาจะหาอะไรทำตลอดเวลา ชีวิตที่ลำบาก ยากจนขนาดกินมันต่างข้าวในสมัยสงคราม หล่อหลอมให้ต้องอดทนและทำงานหนักแต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่เคยมองข้ามการศึกษา นักเรียนทุกคนเรียนฟรี โดยภาครัฐ จะบังคับให้นักเรียนในชนบทต้องเรียนจนจบ ม.ต้น ส่วนนักเรียนในเมืองต้องจบ ม.ปลาย มีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั่วประเทศถึง 200แห่ง และยังมีหลักสูตรการเรียนรู้ชีวิต เพื่อให้นักเรียน-นักศึกษามีจิตใจเสียสละแก่สังคม โดยให้ออกไปช่วยชาวนาในชนบท ระหว่างปิดภาคเรียนด้วย ปัจจุบัน เวียดนามมีผู้อ่านออกเขียนได้สูงถึง 99% นับว่ามีผู้รู้หนังสือมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก
กฎหมายในเวียดนาม ค่อนข้างเข้มงวด เช่น ในเขตชุมชนห้ามขับรถเกิน 30กม./ชม. นอกจากจะเสียค่าปรับแพง ถ้าทำผิด 3ครั้งจนใบขับขี่ถูกเจาะครบ 3รู จะถูกยึดรถ 15วัน ทำมาหากินไม่ได้
ด้านสุขภาพ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2550 ทางการประกาศห้ามสูบและจำหน่ายบุหรี่ในสถานที่ทำงาน โรงเรียน โรงพยาบาล และระบบขนส่งมวลชนทั้งหมด รวมถึงห้ามโฆษณา ห้ามจำหน่ายทางโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตด้วย
ที่เป็นเช่นนี้เพราะชาวเวียดนามต่างมุ่งมั่นพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของตนอย่างจริงจัง มุ่งมองไปข้างหน้า ด้วยคำขวัญประจำใจว่า “อนาคตจะต้องดีขึ้น”










