| นักวิชาการชี้ต่างชาติมุ่งลงทุนประเทศอื่นมากกว่าไทย
เหตุต้อง"ติดสินบน"  แถมขาดแคลนกำลังคนด้านวิทย์-เทคโนโลยีล้าหลัง
แนะปฏิรูปการศึกษาเน้นคุณภาพคู่คุณธรรม    ดร.อนุสรณ์        ธรรมใจ        คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์        มหาวิทยาลัยรังสิต        กล่าวในการสัมมนา"กำลังคนกับระบบการศึกษาไทย  มุมมองจากข้อมูลเชิงสถิติ" ที่ศูนย์ศึกษาสาทรธานี       มหาวิทยาลัยรังสิต   กทม. เมื่อเร็วๆนี้ว่า     การจัดการศึกษาและพัฒนากำลังคนของเวียดนามก่อนหน้านี้ล้าหลังกว่าไทย  แต่ตอนนี้พัฒนาไปไกลกว่าไทยแล้วเพราะเวียดนามทุ่มงบประมาณและกำลังคนเพื่อพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเต็มที่   นอกจากปัญหาเทคโนโลยีที่พัฒนาล่าช้าแล้ว  ยังมีเรื่องของการต้องติดสินบน   ทำให้ต่างชาติหันไปลงทุนในประเทศอื่นเช่น     เวียดนามมากกว่าไทย       ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าระบบการศึกษาไทยช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมาไม่อาจสอนคนให้มีความซื่อตรงได้    รัฐบาลจะต้องปฏิรูปการศึกษาโดยวางแผนผลิตกำลังคนให้ชัดเจนและมุ่งจัดการศึกษาเน้นคุณภาพและคุณธรรม ทั้งนี้ปัจจุบันการผลิตกำลังคนไม่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะระดับอุดมศึกษานั้น เด็กไม่ได้เลือกเรียนตามความชอบความถนัดและไม่ได้คิดถึงอนาคตตัวเอง      แต่เลือกเรียนตามเพื่อนและเป็นสาขาที่เรียนไม่ยาก    หากเป็นสาขาที่เพื่อนไม่เรียนและเรียนยาก เด็กๆจะไม่เลือกเรียน  เช่น   สาขาเศรษฐศาสตร์มีเด็กเรียนน้อยมาก    จึงมีคนเรียนสายสังคมมากกว่าสายวิทยาศาสตร์    เทคโนโลยีและคณิตศาสตร์ทั้งที่ประเทศขาดแคลนกำลังคนด้านนี้    รศ.ดร.พฤทธิ์       ศิริบรรณพิทักษ์       คณบดีคณะครุศาสตร์       จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  กล่าวว่า    ระบบการศึกษาไทยเน้นผลการเรียน  ทำให้เด็กไม่รู้จักตัวเองและไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนอะไรเมื่อเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา      จึงเลือกเรียนไปตามกระแสสังคมโดยไม่ได้คำนึงถึงความถนัดของตัวเองและความต้องการของประเทศ     ส่วนอาชีวศึกษาในสิงคโปร์นั้นคนที่ไม่จบปริญญาและจบปริญญาตรีได้รับเงินเดือนไม่ต่างกันมากนัก       แต่บ้านเรานั้นเด็กเรียนอาชีวะรู้สึกต่ำต้อยเพราะได้เงินเดือนต่ำกว่าคนจบปริญญามาก     จึงควรยกระดับอาชีวศึกษาให้ได้รับค่าตอบแทนมากขึ้น  เพื่อจูงใจเด็กมาเรียนอาชีวะมากขึ้น  |