ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือน ให้เพิ่มความพยายามในการกระตุ้นให้ผู้คนในโลกกำลังพัฒนาตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ ว่า ไม่ว่าจะเป็นการเคี้ยวใบยาสูบ การสูบผ่านท่อ หรือการสูบผ่านมวนใบยา ล้วนแต่ทำให้เสี่ยงเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเพิ่มขึ้นทั้งนั้น

คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ มณฑลออนตาริโอ ประเทศแคนาดา วิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตาย 12,400 คน ใน 52 ประเทศ เปรียบเทียบกับคนสุขภาพแข็งแรง 14,000 คน ศึกษาทั้งการเคี้ยวใบยาสูบ การสูบบุหรี่ผ่านท่อที่นิยมในตะวันออกกลาง และการสูบบุหรี่แบบมวนใบไม้ยัดไส้ยาสูบที่นิยมในเอเชียใต้

โดยภาพรวมแล้วผู้สูบบุหรี่เสี่ยงเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย 3 เท่าของผู้ไม่เคยสูบบุหรี่เลย ส่วนผู้เคี้ยวใบยาสูบมีโอกาสเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเพิ่มขึ้น 2 เท่า เทียบได้กับการสูบบุหรี่วันละ 8-10 มวน

ผลวิจัยพบด้วยว่า ความเสี่ยงเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจะลดลงตามเวลาเมื่อเลิกสูบบุหรี่ ผู้สูบบุหรี่ไม่เกินวันละ 10 มวน จะไม่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในช่วง 3-5 ปีหลังเลิกสูบ แต่คนที่สูบไม่ต่ำกว่าวันละ 20 มวน ยังคงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ในช่วง 20 ปีหลังเลิกสูบ ขณะที่การสูบบุหรี่มือสองก็เป็นอันตรายต่อหัวใจเช่นกัน ผู้ที่สูดดมควันบุหรี่ของผู้อื่นสัปดาห์ละ 22 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำ เสี่ยงเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายประมาณร้อยละ 45

นักวิจัยระบุว่า ผลการศึกษานี้เป็นหลักฐานสนับสนุนว่าการสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดล้วนแต่เป็นอันตราย
ร้ายแรงต่อสุขภาพ ประมาณกันว่าทั่วโลกมีผู้สูบบุหรี่ราว 1,300 ล้านคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 82 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา

ที่มาจากหนังสือพิมพ์

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง