![]() |
มวลเหตุเหล่านี้ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของการเกิดศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก และอีกหนทางหนึ่งของคนอยากมีลูกที่หลายต่อหลายคนหมดกำลังใจ
ในการพึ่งแพทย์แผนปัจจุบัน
ก็มักจะหันไปพึ่งแพทย์ทางเลือก อย่าง "หมอแมะ"
หมอแมะที่หลายๆ คนรู้จักคือการรักษาด้วยศาสตร์ของคนจีน หมอแมะจะจับชีพจรจากซ้าย 3 จุด จากขวา 3 จุด ก็จะสามารถรู้สมมติฐานอาการต่างๆ ของร่างกาย
หมอแมะ เกษม เจริญพานิชสันติ แห่งสถานพยาบาลเกษมเวชกรรม แผนโบราณ ให้สัมภาษณ์ถึงภาวะของคนมีบุตรยากในยุคนี้ว่ามีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้หญิงทำงานหลายคนมักเป็นโรคสาวออฟฟิศ ซึ่งเป็นโรคที่นับว่ามีผลต่อการตั้งครรภ์
"สมัยนี้การเจ็บป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากการดำเนินชีวิตล้วนๆ เช่น พักผ่อนไม่พอ ความเครียด รับประทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าก็นำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เมื่อเราไม่สบาย ไปโรงพยาบาลหมอให้ยารักษา เช่น นอนไม่หลับก็ให้ยานอนหลับ ปวดหัวก็กินยาพารา มันเป็นเพียงการรักษาที่ปลายทาง แต่วิถีชีวิตของคนป่วยคนนั้นก็ไม่ได้ปรับ แต่ถ้าเป็นแพทย์ทางเลือกจะมองว่าการดำเนินชีวิตคุณเป็นอย่างไร ผิดรูปแบบเยอะไหม อาหารการกินเป็นอย่างไร หรือพอเราตรวจชีพจรแล้ว พบว่าตับเต้นแรงซึ่งจะวิเคราะห์ได้ว่าตับเป็นที่เก็บของอารมณ์ คนคนนั้นอาจจะมีเรื่องเครียด"
จากประสบการณ์ของหมอแมะกว่า 30 ปี พบว่า ระยะหลังๆ มีคู่แต่งงานเข้ามาปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุ คือ ผู้หญิงยุคนี้ส่วนใหญ่เป็น "โรคสาวออฟฟิศ" ซึ่งโรคนี้มีผลต่อการมีบุตร
"ผู้หญิงยุคนี้เก่งมากขึ้น ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับงาน อยู่กับความเครียด เป้าหมายหลักของชีวิตคือ ความก้าวหน้าของหน้าที่การงาน ทำให้ผู้หญิงมีความเครียดมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันผู้หญิงก็แต่งงานช้าลง พอตั้งใจจะมีลูกก็มีลูกแบบที่ตั้งอยู่บนความเครียด สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงเหล่านี้มีลูกยากขึ้น"
หมอแมะบอกว่าผู้หญิงที่มารับการรักษาส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 30-38 ปี ส่วนใหญ่จะผ่านการรักษาแพทย์ปัจจุบันมาแล้วและยังไม่ประสบผลสำเร็จ จึงอยากจะเปลี่ยนแนวทางการรักษา
"การรักษาของหมอทางเลือกนั้น เน้นการทำให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของการรักษาทุกโรค ไม่เว้นแม้แต่ภาวะมีบุตรยากก็ตาม ผมเชื่อว่าเมื่อสุขภาพดีแล้วการมีบุตรก็ไม่ใช่เรื่องยาก" หมอแมะทิ้งท้าย
หมอแมะที่หลายๆ คนรู้จักคือการรักษาด้วยศาสตร์ของคนจีน หมอแมะจะจับชีพจรจากซ้าย 3 จุด จากขวา 3 จุด ก็จะสามารถรู้สมมติฐานอาการต่างๆ ของร่างกาย
![]() |
หมอแมะ เกษม เจริญพานิชสันติ แห่งสถานพยาบาลเกษมเวชกรรม แผนโบราณ ให้สัมภาษณ์ถึงภาวะของคนมีบุตรยากในยุคนี้ว่ามีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้หญิงทำงานหลายคนมักเป็นโรคสาวออฟฟิศ ซึ่งเป็นโรคที่นับว่ามีผลต่อการตั้งครรภ์
"สมัยนี้การเจ็บป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากการดำเนินชีวิตล้วนๆ เช่น พักผ่อนไม่พอ ความเครียด รับประทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าก็นำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เมื่อเราไม่สบาย ไปโรงพยาบาลหมอให้ยารักษา เช่น นอนไม่หลับก็ให้ยานอนหลับ ปวดหัวก็กินยาพารา มันเป็นเพียงการรักษาที่ปลายทาง แต่วิถีชีวิตของคนป่วยคนนั้นก็ไม่ได้ปรับ แต่ถ้าเป็นแพทย์ทางเลือกจะมองว่าการดำเนินชีวิตคุณเป็นอย่างไร ผิดรูปแบบเยอะไหม อาหารการกินเป็นอย่างไร หรือพอเราตรวจชีพจรแล้ว พบว่าตับเต้นแรงซึ่งจะวิเคราะห์ได้ว่าตับเป็นที่เก็บของอารมณ์ คนคนนั้นอาจจะมีเรื่องเครียด"
จากประสบการณ์ของหมอแมะกว่า 30 ปี พบว่า ระยะหลังๆ มีคู่แต่งงานเข้ามาปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุ คือ ผู้หญิงยุคนี้ส่วนใหญ่เป็น "โรคสาวออฟฟิศ" ซึ่งโรคนี้มีผลต่อการมีบุตร
"ผู้หญิงยุคนี้เก่งมากขึ้น ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับงาน อยู่กับความเครียด เป้าหมายหลักของชีวิตคือ ความก้าวหน้าของหน้าที่การงาน ทำให้ผู้หญิงมีความเครียดมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันผู้หญิงก็แต่งงานช้าลง พอตั้งใจจะมีลูกก็มีลูกแบบที่ตั้งอยู่บนความเครียด สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงเหล่านี้มีลูกยากขึ้น"
หมอแมะบอกว่าผู้หญิงที่มารับการรักษาส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 30-38 ปี ส่วนใหญ่จะผ่านการรักษาแพทย์ปัจจุบันมาแล้วและยังไม่ประสบผลสำเร็จ จึงอยากจะเปลี่ยนแนวทางการรักษา
"การรักษาของหมอทางเลือกนั้น เน้นการทำให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของการรักษาทุกโรค ไม่เว้นแม้แต่ภาวะมีบุตรยากก็ตาม ผมเชื่อว่าเมื่อสุขภาพดีแล้วการมีบุตรก็ไม่ใช่เรื่องยาก" หมอแมะทิ้งท้าย
ที่มา-
