เมื่อวันที่
21 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า
เจ้าหน้าที่ของจีนได้ใช้ปลาลิ่นซึ่งกินสาหร่ายเป็นอาหารในการทำความสะอาดทะเลสาบเฉาหู ที่จัดว่าสกปรกและเป็นมลพิษมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
โดยนายอู๋ ฉาง จุน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงเฉาหู กล่าวว่า
จะมีการนำปลาลิ่นมากกว่า 50,000 ตัว
มาปล่อยในทะเลสาบในวันเดียวกันนี้และจะนำมาปล่อยเพิ่มอีก 1.55 ล้านตัว
ในอีก 20 วันให้หลังทั้งนี้ คาดว่าปลาลิ่นแต่ละตัวเมื่อโตแล้วจะกินสาหร่ายสีฟ้าระหว่าง 40-50 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการช่วยทำความสะอาดทะเลสาบที่เป็นมลพิษ และเมื่อปลาลิ่นโตเต็มวัยแล้วชาวประมงสามารถจับปลาเหล่านี้ไปขายในตลาดได้
โดยจะมีราคาสูงขึ้น
15 เท่าจากราคาที่ซื้อมาตอนที่นำไปปล่อย
เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการประมงของท้องถิ่นอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับทะเลสาบเฉาหู เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของจีน อยู่ในมณฑลอานฮุยทางตะวันออกของประเทศ โดยเมื่อปีที่แล้วทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยสาหร่ายสีฟ้าเขียวที่มีกลิ่นไม่เหม็น เป็นภัยคุกคามต่อสภาพน้ำและชีวิตของสัตว์น้ำที่อยู่อาศัยในทะเลสาบ โดยสาหร่ายดังกล่าวทำให้จำนวนปลาไวท์เบทซึ่งเป็นหนึ่งในปลาสำคัญ
สำหรับทะเลสาบเฉาหู เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของจีน อยู่ในมณฑลอานฮุยทางตะวันออกของประเทศ โดยเมื่อปีที่แล้วทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยสาหร่ายสีฟ้าเขียวที่มีกลิ่นไม่เหม็น เป็นภัยคุกคามต่อสภาพน้ำและชีวิตของสัตว์น้ำที่อยู่อาศัยในทะเลสาบ โดยสาหร่ายดังกล่าวทำให้จำนวนปลาไวท์เบทซึ่งเป็นหนึ่งในปลาสำคัญ
ที่เป็นหัวใจหลักของอุตสาหกรรมการประมงท้องถิ่นในทะเลสาบแห่งนี้ลดลง
20 เปอร์เซ็นต์
โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการของรัฐบาลจีนระบุว่า
โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการของรัฐบาลจีนระบุว่า
กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของทางน้ำ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง และกว่า 90
เปอร์เซ็นต์ของแหล่งน้ำใต้ดินของจีนปนเปื้อนมลพิษ
ซึ่งส่วนมากเป็นผลมาจากการปล่อยน้ำเสียโดยไม่บำบัดและมลพิษจากอุตสาหกรรม
โดยปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมได้ส่งผลกระทบไปยังระบบอุปทานอาหารของประเทศ
ที่นำไปสู่กรณีอื้อฉาวที่พบอาหารที่ผลิตในจีนปนเปื้อนมลพิษ
สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับจีนเป็นอย่างมาก (เอเอฟพี)
ที่มา-
