พิธีรับมอบพระบรมสารีริกธาตุจากเมียนมา
ถวายในวาระครบรอบ 55 ปี วัดพระธรรมกาย
ข่าว BOON NEWS ประจำวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2568
สมเด็จพระสังฆราชแห่งสหภาพเมียนมา ได้มอบหมายให้เหล่าศิษยานุศิษย์ชาวเมียนมา อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาถวายแด่วัดพระธรรมกาย ในวาระครบรอบ 55 ปี แห่งการสถาปนาวัดพระธรรมกาย และในวาระอายุวัฒนมงคล 81 ปี หลวงพ่อธัมมชโย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องแก้วสารพัดนึก 1 สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย ด๊อกเตอร์ภัททันตะจันทิมาภิวังสะ สมเด็จพระสังฆราชแห่งสหภาพเมียนมา ได้มอบหมายให้เหล่าศิษยานุศิษย์ พุทธบริษัทชาวเมียนมา ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาถวายแด่วัดพระธรรมกาย ในวาระครบรอบ 55 ปี แห่งการสถาปนาวัดพระธรรมกาย และในวาระอายุวัฒนมงคล 81 ปี หลวงพ่อธัมมชโย โดยได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อทัตตชีโว เป็นประธานสงฆ์ นำคณะสงฆ์ พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย และเมียนมา ปฏิบัติธรรม เพื่อกลั่นใจให้ผ่องใส ตามเสียงนำนั่งของหลวงพ่อธัมมชโย พร้อมกันนี้ทุกท่านได้รับฟังโอวาทจากสมเด็จพระสังฆราชแห่งเมียนมา ซึ่งท่านได้กล่าวประทานโอวาทอันเป็นมงคลแด่คณะสงฆ์และญาติโยม กัลยาณมิตรเหล่าศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ในโอกาสนี้กัลยาณมิตรสุเมธ สุเมธาอักษร ก็ได้อ่านโอวาทของสมเด็จพระสังฆราชแห่งสหภาพเมียนมาเป็นภาษาไทย
จากนั้นคณะผู้แทนจากสหภาพเมียนมา ก็ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุถวายแด่หลวงพ่อทัตตชีโว ท่านประธานสงฆ์ ในโอกาสนี้หลวงพ่อทัตตชีโว ก็ได้กราบขอบพระคุณในความเมตตาของสมเด็จพระสังฆราชแห่งสหภาพเมียนมา และอนุโมทนาต่อคณะพุทธบริษัทเมียนมาในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมามอบถวายแด่วัดพระธรรมกาย ในวาระครบรอบ 55 ปี แห่งการสถาปนาวัดพระธรรมกาย และในวาระอายุวัฒนมงคล 81 ปี หลวงพ่อธัมมชโย พระบรมสารีริกธาตุนับเป็นองค์แทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกอบด้วยพระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระปัญญาธิคุณ เป็นสัญญาลักษณ์แห่งการดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน ทั้งในประเทศเมียนมา และประเทศไทย
ทั้งนี้ยังเป็นโอกาสให้พุทธศาสนิกชนเมียนมา ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้มาเคารพสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ที่มาจากประเทศบ้านเกิดเมืองนอน อันจะนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันดีของพุทธศาสนิกชน ของทั้ง 2 ประเทศ ดังพุทธพจนที่กล่าวว่า สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี ความพร้อมเพรียงของหมู่คณะ ให้เกิดสุข ดังนั้น พุทธบริษัท และพุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว เพื่อธำรงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง เหมือนอย่างสมัยครั้งพุทธกาล