นักวิจัยญี่ปุ่นเผยผลวิจัยสารสกัดชาเขียวมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง
แนะดื่มชาเขียววันละ 10 แก้ว ควบคู่กับผักผลไม้ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
: ศ.ดร.ฮิโรตะ ฟูจิกิ ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยโทคุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น
เปิดเผยผลการวิจัยสารสกัดชาเขียวกับโอกาสในการพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง
ในการประชุมวิชาการนานาชาติด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ครั้งที่ 2
จัดโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยว่า
ชาเขียวเป็นพืชที่นักวิทยาศาสตร์สนใจศึกษาการออกฤทธิ์ยับยั้งโรคมะเร็งอย่างแพร่หลาย
ผลการวิจัยพบความเป็นไปได้
ในการนำชาเขียวมาพัฒนาเป็นยารักษาโรคมะเร็งในอนาคตอันใกล้
 |
งานวิจัยยืนยันว่าในชาเขียวมีสารแคททีชิน (catechin)
ซึ่งทำลายเซลล์มะเร็งได้
ผลจากการวิจัยยังพิสูจน์ว่าการดื่มชาเขียวอย่างต่อเนื่อง
ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นสารที่สกัดได้จากธรรมชาติ
ที่ผ่านมา
นักวิจัยได้ศึกษาประสิทธิผลของสารสกัดชาเขียวในอาสาสมัครที่เป็นมะเร็งแล้วไม่ต่ำกว่า
400 ราย เบื้องต้นพบว่าการดื่มชาเขียวสามารถชะลอการป่วยด้วยโรคมะเร็งออกไป
แต่หากป่วยแล้วก็ช่วยป้องกันการลุกลามของโรคได้
แต่ต้องดื่มถึงวันละ 10 ถ้วย อย่างไรก็ตาม
ผลของการบริโภคชาเขียวจะดียิ่งขึ้นหากรับประทานควบคู่กับผักผลไม้เป็นประจำ
ทั้งนี้เนื่องจากผักผลไม้มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้
ศ.เกียรติคุณ ดร.ไมตรี สุทธจิตต์ ภาควิชาชีวเคมี
สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) กล่าวว่า
ผักและผลไม้สามารถช่วยยับยั้งการเกิดของเซลล์มะเร็งเยื่อบุผิว เช่น
มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งผิวหนัง รวมถึงมะเร็งปอดได้จริง
จากการวิจัยที่มีการศึกษาในทั่วโลก โดยมะเร็งเยื่อบุผิวเป็นมะเร็งที่มีอัตราการเกิดมากที่สุดหรือ 80% ของมะเร็งที่มีทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ
หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ จะมีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งน้อยกว่า
เนื่องจากในผักผลไม้มีวิตามิน ไฟเบอร์ และสารอื่นๆ
ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ขณะที่เนื้อสัตว์อุดมไปด้วยไขมัน คอเลสเตอรอล สาเหตุสำคัญของโรค เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง เป็นต้น
การดื่มชาเขียวควบคู่กับผักผลไม้
มีส่วนช่วยยับยั้งกลไกของยีนก่อมะเร็ง
เหมาะสำหรับคนที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง และป้องกันการเป็นมะเร็งซ้ำ
ดังนั้น การรับประทานมังสวิรัติหรืออาหารเจ
น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคมะเร็ง