วัดพระธรรมกาย จัดงานวันมหารำลึก ครั้งที่ 35
ข่าว BOONNEWS ประจำวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
วัดพระธรรมกาย ได้จัดงานวันมหารำลึก เพื่อรำลึกถึงนักสร้างบารมีที่ล่วงลับไปแล้ว ครั้งที่ 35
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พระภาวนาธรรมวิเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เมตตาเป็นประธานสงฆ์ในงานวันมหารำลึก ครั้งที่ 35 ณ ห้องแก้วสารพัดนึก 1 สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย โดยภายในงานมีสมาชิกภายในองค์กรวัดพระธรรมกาย ประกอบ พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ศรัทธาวาส สมาชิกศาสนูปถัมภ์ 1 และ 2 พร้อมทั้งสาธุชนผู้ใจบุญเข้าร่วมงานในครั้งนี้ โดยทุกท่านได้รับฟังรายงานความเป็นมาของการจัดงานวันมหารำลึก
ก่อนที่จะได้ประกอบพิธีมอบรางวัลเกียรติคุณมหารำลึกแด่สมาชิกศาสนูปถัมภ์ที่มีอายุงาน 45, 40, 35, 30, 25, 20, 15 และ 10 ปี รวม 102 ท่าน และมอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานของสมาชิกศาสนูถัมภ์ จำนวน 78 ทุน ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ เพราะทุกท่านที่มารับบุญทำงาน ณ วัดพระธรรมกาย เสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
จากนั้นทุกท่านก็ได้รับชมสื่อวันมหารำลึกและรับฟังโอวาทจากท่านประธานสงฆ์ ในเรื่องการเริ่มสร้างศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมและพัฒนาเป็นวัดพระธรรมกาย ใช้เป็นแหล่งรวมนักสร้างบารมีของโลกมาจนถึงปัจจุบันนี้
ต่อมาเป็นพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระพุทธมนต์เพื่อทำบุญทักษิณานุปทานอุทิศส่วนกุศลแด่สมาชิกองค์กรผู้ล่วงลับไปแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 159 รูป/ท่าน โดยได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระราชสุทธิธรรมาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดประยูรธรรมมาราม เป็นประธานสงฆ์ โดยมีพระมหาเถระร่วมสวด อาทิ พระเมธีธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร , พระสุธีรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเศวตฉัตร, พระครูวิจิตรอาภากร เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ พร้อมด้วยเจ้าคณะพระสังฆาธิการ จังหวัดปทุมธานี และพระอาจารย์สอนบาลี จำนวน 30 รูป เมตตามาเป็นเนื้อนาบุญในครั้งนี้
โดยวัดพระธรรมกายได้จัดงานวันมหารำลึกปีนี้เป็นครั้งที่ 35 ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2532 เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา เจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรมกายที่ล่วงลับไปแล้ว โดยให้สมาชิกในองค์กรได้รวมใจปฏิบัติธรรมเจริญจิตภาวนา อุทิศบุญและรำลึกถึงคุณูปการ คุณงามความดีของสมาชิกนักสร้างบารมีที่จากไป ให้เป็นคติเตือนใจเสมอว่า สุดท้ายทุกคนต้องตาย และความตายไม่มีนิมิตหมาย ทุกคนต่างมีวิบากกรรมเป็นของตนเอง เหมือนมีระเบิดเวลาแห่งชีวิตติดตัวกันมาทุกคน โดยมีนักสร้างบารมีผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้เป็นแบบอย่าง และให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงเมื่อครั้งที่ท่านเหล่านี้ ยังมีร่างกายแข็งแรงได้ทุ่มเททำงานให้กับพระพุทธศาสนา อย่างเต็มที่เพื่อให้พระพุทธศาสนาได้คงอยู่สืบต่อไป