กว่าจะมาเป็นอาคาร 82 ปี หลวงพ่อธัมมชโย
 

บทสรุปการสัมภาษณ์จากรายการสู้ต่อไป ออกอากาศวันที่ 3 สิงหาคม 2568 อาคาร 82 ปี หลวงพ่อธัมมชโย เป็นโครงการสำคัญที่มีเป้าหมายในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ "ความจริงของชีวิต" ให้กับสาธุชนทั่วโลก. โครงการนี้ถือเป็นความปรารถนาและดำริของหลวงพ่อธัมมชโยมาอย่างยาวนานตั้งแต่เริ่มสร้างวัด. โดยพระอาจารย์ไชยยศ ยสํโส ผู้อำนวยการ สำนักพุทธศิลป์แห่งโลก  และ พระอาจารย์ศิริพงษ์​ สิริวํโส ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักพุทธศิลป์แห่งโลก ต่อไปนี้คือรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับโครงการนี้ 

1. วัตถุประสงค์และที่มาของโครงการ

ดำริของหลวงพ่อธัมมชโย: หลวงพ่อธัมมชโยมีความปรารถนาที่จะมีสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน โดยไม่เพียงแค่บอกเล่าทั่วไป. ท่านต้องการสร้างทีมงานเพื่อถ่ายทอดความจริงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนรก สวรรค์ พุทธประวัติ หรือธรรมะต่างๆ.

เป้าหมายหลัก: เพื่อปรับทัศนคติของผู้คน โดยเฉพาะเด็กๆ ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ มีความรู้คู่คุณธรรม และเกิดแรงบันดาลใจในการทำความดี ละเว้นความชั่ว และมีความรับบุญกลัวบาป. เพื่อให้ทุกคนพ้นจากความทุกข์และพบความสุขที่แท้จริง. โครงการนี้ตั้งชื่อว่า "อาคาร 82 ปี หลวงพ่อธัมมชโย" เพื่อเป็นการบูชาธรรมท่านเนื่องในโอกาสครบรอบ 82 ปีของท่าน. นิทรรศการถาวรอาคารนี้จะรองรับนิทรรศการถาวร "ความจริงของชีวิตของทุกๆ คนในโลก" ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องรู้.

2. เนื้อหาหลักของนิทรรศการ "ความจริงของชีวิต"

นิทรรศการนี้จะถ่ายทอดความรู้ทางพระพุทธศาสนาโดยเน้นเรื่อง "ความจริงของชีวิต" ที่ทุกคนต้องรู้. เนื้อหาจะครอบคลุม:

1. พุทธประวัติ: ตั้งแต่การบำเพ็ญบารมี การประสูติ ความเพียร (ทุกรกิริยา) การตรัสรู้ธรรม ไปจนถึงปรินิพพาน. โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็นหลัก.
2. นรกและสวรรค์: เน้นย้ำว่ามีอยู่จริงและเกี่ยวข้องกับตัวเราโดยตรง เพื่อให้ผู้คนเข้าใจกฎแห่งกรรม การทำดี และการทำชั่ว.
3. ประวัติของมหาปูชนียาจารย์: รวมถึงหลวงปู่ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย คุณยายอาจารย์ และหลวงพ่อธัมมชโย เพื่อให้คนรุ่นหลังเข้าใจมโนปณิธานและสิ่งที่ท่านปฏิบัติ.
4. ประวัติการสร้างวัดพระธรรมกาย: เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าวัดเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครเป็นผู้สร้าง และมีวิธีการคิดอย่างไรที่ทำให้วัดเป็นเช่นปัจจุบัน.
5. เรื่องราวหมุนเวียน: นอกจากเรื่องหลักแล้ว จะมีการเปิดนิทรรศการหมุนเวียนเรื่องราวต่างๆ เช่น งานวิสาขบูชา มาฆบูชา อาสาฬหบูชา เข้าพรรษา การอบรมพระภิกษุสามเณร และงานเด็กดี V-Star.

3. เทคโนโลยีและรูปแบบการนำเสนอ

นิทรรศการจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและระบบเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง. ตัวอย่างเช่น:

• จอพาโนรามา 270 องศา: โดยเฉพาะในห้องตรัสรู้ธรรม เพื่อโอบล้อมทุกมุมมอง.
• ระบบเสียงรอบทิศทาง (Immersive Audio): เพื่อความสมจริง.
• แสง สี เสียง 7 มิติ: เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกราวกับอยู่ในเหตุการณ์จริง มีการสั่นสะเทือน แสง สี กลิ่น.
• Projection Mapping: ใช้บนบอลลูนขนาดใหญ่ยักษ์เพื่อฉายความลับของความทุกข์.
• แอนิเมชัน 360 องศา: สร้างบรรยากาศชาวสวรรค์เหนือจินตนาการ.
• เทคนิค AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality): เพื่อให้สัมผัสธรรมะแบบไร้ขีดจำกัด เหมือนได้เยือนป่าหิมพาน หรือเข้าสู่โลกเสมือน.
• Interactive Exhibition: มีการตอบโต้กับผู้เข้าชม ไม่ใช่เพียงการจัดแสดงบอร์ดหรือตัวหนังสือ.
• นักแสดงธรรม: จะมีการใช้ "นักแสดงธรรม" ร่วมกับการแสดงเทคนิค เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าถึงบรรยากาศและเรื่องราวที่เล่าได้อย่างแท้จริง.

4. การพัฒนาโครงการและทีมงาน

จุดเริ่มต้น หลวงพ่อธัมมชโยมีความคิดนี้มาตั้งแต่เริ่มสร้างวัด. ท่านได้มีโอกาสพบกับพระอาจารย์ชัยยศ ยสวังโส ผู้จบด้านศิลปะจากมหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว ท่านจึงปิ๊งไอเดียและมอบหมายให้ลองวาดภาพเทพบุตร เทพธิดา และพระธุดงค์ตามคำบอกเล่า.

ช่วง 10 ปีแรก: เป็นการเฟ้นหาทีมงาน (พระและอุบาสกสิกา) ที่มีความรู้ด้านศิลปะ โดยเน้นงานฝีมือ เช่น การปั้นหลวงปู่ ปั้นประติมากรรมต่างๆ เช่น ครุฑ นาค ช้างเอราวัณ (โครงการมยุรนาวา).

ช่วง 10-20 ปี: เริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เนื่องจากมีการเปิดโรงเรียนอนุบาลในฝันวิทยา ทำให้ต้องผลิตสื่อการเรียนการสอนมากขึ้น มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก การตัดต่อวิดีโอ และทีมแอนิเมชัน เพื่อรองรับการเทศน์สอนของหลวงพ่อ.

ช่วง 20-30 ปี: มีการจัดนิทรรศการขนาดใหญ่เพื่อรองรับเด็กดี V-Star หลายแสนคน เช่น นิทรรศการ "ความลับของชีวิต" ที่วิหารคต. ในช่วงแรกเป็นแบบบิลบอร์ดและประติมากรรม แต่ต่อมาพัฒนาเป็นการกั้นห้อง ใช้แสง สี เสียงเต็มรูปแบบ.

ทีมงานปัจจุบัน: ประกอบด้วยทีมงานหลักจากสำนักสถาบันพุทธศิลป์แห่งโลก (พระและฆราวาส) และอาสาสมัครจำนวนมาก ซึ่งหลายท่านเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน. มีการฝึกอบรมทั้งด้านการพูด การแสดง และการผลิตสื่อ.

5. ประโยชน์และอานิสงส์ของการสร้างอาคาร

1. ปัญญาแตกฉาน: ผู้ที่ร่วมสร้างอาคารจะได้รับอานิสงส์ด้านสติปัญญาแตกฉานในธรรม.
2. เกิดในแวดวงพระพุทธศาสนา: จะได้เกิดในครอบครัวหรือตระกูลที่เป็นสัมมาทิฏฐิ และเติบโตมาพร้อมคุณธรรมความดี.
3. พ้นจากความทุกข์: ชีวิตจะพ้นจากความทุกข์ พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ทั้งทรัพย์สิน เงินทอง และสถานการณ์ที่ดีในชีวิต.
4. การให้ธรรมะเป็นทาน: การสร้างอาคารนี้ถือเป็นการให้ธรรมะเป็นทาน ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่าชนะการให้ทั้งปวง.
5. บุญใหญ่ต่อเนื่อง: การสร้างนิทรรศการถาวรนี้จะทำให้บุญส่งผลต่อเนื่องตลอดไป เพราะจะมีคนมาใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้ธรรมะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ.

6. กลุ่มเป้าหมายและการดำเนินงาน

กลุ่มเป้รหมายหลักของโครง ได้แก่ การอบรมต่างๆ ของวัด เช่น กลุ่มพระภิกษุ สามเณร และเด็กดี V-Star.

สำหรับสาธุชนทั่วไป จะเปิดให้สาธุชนทั่วไปเข้าชม โดยเฉพาะวันอาทิตย์ต้นเดือน. จะมีการกำหนดการปิด-เปิดที่ชัดเจน แจ้งผ่านช่องทางออนไลน์ และอาจมีการจองล่วงหน้าเพื่อควบคุมจำนวนและคุณภาพการเข้าชม.

นอกจากนั้นยังรองรับชาวต่างชาติ นิทรรศการนี้สามารถรองรับผู้เข้าชมจากทั่วโลกได้ โดยจะมีการใช้เทคโนโลยีแปลภาษาหรือเชื่อมโยงความรู้ด้วยภาษาต่างๆ เช่น การใช้ AI เพื่อรองรับชาวต่างประเทศ.

7. ความประทับใจและผลลัพธ์

สร้างสัมมาทิฏฐิ นิทรรศการนี้ตอบโจทย์การสร้างคนดี โดยมีผู้เข้าชมจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กๆ เขียนความประทับใจว่าอยากเป็นเหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรืออยากทำความดี.

ความฝันที่เป็นจริง การทำความฝันของหลวงพ่อให้เป็นจริง นำมาซึ่งความปลื้มปิติให้กับทุกฝ่าย.

8. การดำเนินงานปัจจุบัน

จะมีงานบุญใหญ่ มีการจัดทอดผ้าป่าเพื่ออาคาร 82 ปี หลวงพ่อธัมมชโย ในวันที่ 27 สิงหาคม เพื่อให้โครงการสำเร็จเป็นอัศจรรย์.

สถานที่ตั้งของอาคาร 82 ปี ตั้งอยู่ใต้พื้นที่วิหารคต ตรงบริเวณ C6 และ C7. แบ่งออกเป็น 2 โซนคือ โซนนิทรรศการและโซนสนับสนุน โดยโซนนิทรรศการประกอบด้วย 8 ห้องไฮไลต์.

ระยะเวลาการก่อสร้าง: โครงสร้างพื้นฐานประมาณ 10 เดือนถึง 1 ปี หลังจากนั้นจะเป็นรายละเอียดการใส่นิทรรศการ.

การสร้างอาคาร 82 ปี หลวงพ่อธัมมชโยนี้ถือเป็นบุญใหญ่ที่สำคัญ เป็นการให้ธรรมทานที่ชนะการให้ทั้งปวง และเป็นโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งดีงามเพื่อโลกใบนี้.