ประกวดสุนทรพจน์เพื่อการเปลี่ยนแปลงโลก (Change the World Speech Contest) ครั้งที่ 10 รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา มูลนิธิสถาบันการพูดแบบการทูต สถาบันพัฒนาเยาวชนโลก (GYDI) และองค์กรภาคี ได้ร่วมกันจัดโครงการประกวดสุนทรพจน์เพื่อการเปลี่ยนแปลงโลก (Change the World Speech Contest) ครั้งที่ 10 ภายใต้แนวคิด “คำพูดที่สร้างสรรค์ สานสายใยมิตรภาพ” (Constructive Speech brings about Friendship ,创意善语 友谊纽带) รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ณ อาคารสนม สุทธิพิทักษ์ อนุสรณ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กรุงเทพมหานคร
เพื่อเป็นเวทีสนับสนุนการใช้ทักษะภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ทักษะการพูดเชิงสร้างสรรค์ ทักษะการโน้มน้าวใจเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีในสังคม พร้อมแสดงศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านภาษาและการสื่อสารบนเวทีระดับโลก
โดยจัดการประกวดเป็น 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน แบ่งเป็น 4 ระดับชั้นคือ ระดับประถมศึกษาตอนปลาย , ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น , ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. และระดับอุดมศึกษา/ปวส.
ในพิธีเปิดการประกวดได้รับเกียรติจาก ดร.จอมพล สุภาพ ผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันการพูดแบบการฑูตและโรงเรียนสอนการพูดจอมพล ประธานคณะกรรมการจัดงานโครงการประกวดสุนทรพจน์เพื่อการเปลี่ยนแปลงโลก เป็นประธานกล่าวเปิดการประกวด
ดร.จอมพล สุภาพ กล่าวว่า “เราเป็นหนึ่งในคนที่ทำสิ่งที่มีค่า เขียนเก่งไม่การันตีว่าพูดเก่ง แต่พูดเก่งการันตีว่าเขียนเก่ง คนที่เป็นนักพูดจะกลั่นกรองคำในสมองเป็นคำพูด และเป็นตัวอักษร ครูบาอาจารย์พระสงฆ์ที่เขียนหนังสือเยอะ ๆ คือท่านกลั่นกรองคำของท่านมาแล้ว การพูดจึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ อย่างน้อยเราก็เก่งที่ผ่านการคัดเลือกจากคนนับพันมาแล้ว ขอให้มาร่วมโครงการนี้ต่อเนื่องเรื่อยๆ เมื่อใดที่เราฝึกฝนตนเองจนเชี่ยวชาญจนถึงระดับมหาวิทยาลัยจะภาคภูมิใจในตัวเองแน่นอน ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ทุกคน”
ในการประกวดสุนทรพจน์ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละภาษา ทุกคนได้ถ่ายทอดแนวคิดและมุมมองที่สร้างแรงบันดาลใจในคำพูดผ่านหัวข้อ "คำพูดที่สร้างสรรค์ สานสายใยมิตรภาพ" ได้เป็นอย่างดี ซึ่งบรรยากาศของการประกวดเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและพลังความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน ตลอดทั้งภาคเช้าและบ่าย
จากนั้นเป็นพิธีประกาศรางวัลชนะเลิศ และมอบโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตร
ในพิธีปิดการประกวดโดยได้รับเกียรติจาก ดร.วริศ ลิ้มลาวัลย์ คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวทิยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวปิดงาน
การประกวดครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแสดงศักยภาพด้านภาษา แต่ยังเป็นการส่งเสริมเยาวชนให้ตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่สังคมและโลกในอนาคต และเป็นเวทีให้เยาวชนได้มีโอกาสสร้างเสริมบุคลิกภาพและฝึกอุปนิสัยด้านการพูดได้อย่างถูกต้อง
สามารถสร้างผู้นําเยาวชนที่มีความรู้ ความดี และมีความสามารถด้านภาษาสู่เวทีประชาคมโลก และเป็นการสร้างเครือข่ายผู้นําความดีที่มีความสามารถด้านภาษาในกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาและ ครูอาจารย์ ที่เข้าร่วมโครงการได้ทํากิจกรรมเป็นทีม มีน้ำใจ มีความสามัคคี ดูแลช่วยเหลือและ แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์แก่กัน