รายงานบรรยากาศการตักบาตรที่บ้านแป้ง จังหวัดสิงห์บุรี
นับตั้งแต่สร้างบ้านแป้งมากว่า 170ปี บัดนี้ ได้เกิดภาพแห่งความมหัศจรรย์แห่งศรัทธาของสาธุชนจากทั่วทุกสารทิศ ที่เดินทางไปร่วมงานตักบาตรที่บ้านแป้งกันเนืองแน่นขนัด จนแทบจะไม่มีแม้แต่ทางเดิน แน่นจนล้นตั้งแต่หน้าวัดกลางธนรินทร์ไปจนถึงริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ทุกตารางเมตรล้วนเต็มไปด้วยผู้มีบุญที่แต่งชุดขาวพร้อมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอิ่มเอิบปีติด้วยบุญ
หลายๆคนมาพักค้างกันข้ามคืน เดินทางมาข้ามจังหวัด บางคนเดินทางมาจากต่างประเทศ เพราะอยากมาตักบาตรบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นมาตุภูมิเป็นแดนเกิดของคุณครูไม่ใหญ่ มาทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ มาจากทุกทิศทุกทาง แล้วเดินเท้ามุ่งตรงเข้าสู่วัดกลางธนรินทร์ เช่นเดียวกันกับเมนูอาหารจานเด็ดที่มีรสเด็ด สุดยอดของความอร่อยที่รอรับผู้มีบุญ นำทีมโดย ร้านขนมถมยาของโยมน้าวัลภา ถมยา ร้านแม่จุรี แม่น้ำหอม ร้านดุสิตบุรี ที่เรียกน้ำย่อยผู้มีบุญ โดยมี พี่ถาวร พรหมถาวร เป็นผู้เชิญชวนคนเข้าร้าน
จุดที่เป็นที่ดึงดูดตา ดึงดูดใจ ให้ใจของทุกคนมารวมกัน คือ พระประธานขนาดใหญ่ที่เด่นสง่า ประดิษฐานอยู่ที่ศูนย์กลางพิธี ที่เสมือนหนึ่งว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้มาเป็นหลักเป็นประธานในพิธีตักบาตรครั้งประวัติศาสตร์นี้ ทุกคนที่ได้เห็นพระประธานต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า งามจริงๆ ชนิดที่เรียกว่า งามแบบจับจิตจับใจ จนเข้าไปอยู่ในใจกันเลยทีเดียว

จุดที่สองที่จะไม่พลาดซึ่งลูกพระธัมฯต่างเสาะแสวงหา เพื่ออยากจะขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก คือ เสาเรือนเกิดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ และบุคคลที่ทุกคนในงานอยากเจอตัวจริงเสียงจริง คือ โยมน้าวัลภา ถมยา ประธานแก้วของการตักบาตรครั้งนี้
โยมน้าวัลภา ถมยา ได้ฝากความในใจมาถึงคุณครูไม่ใหญ่ว่า “โยมน้าปลื้มปีติใจมากๆค่ะ ตอนเช้าเห็นฟ้าครึ้มๆก็กราบบรรพบุรุษทั้งหมดให้มารับบุญกุศลด้วยค่ะ เพราะวันนี้หลวงพ่อธัมมะฯ ท่านจะทำบุญใหญ่ โยมน้าดีใจนึกถึงภาพตั้งแต่หลวงพ่อเป็นเด็กๆรู้สึกปีติและปลื้มในบุญของท่าน หลวงพ่อท่านบริสุทธิ์ผุดผ่อง ท่านผิวพรรณผุดผ่องมาตั้งแต่เด็ก ยังนึกถึงตอนที่โยมแม่จุรีไปกราบขอหลวงพ่อเพชร ขอให้มีลูกชายที่เป็นผู้มีบุญมาเกิด ให้หน้าตาหล่อเหลาเหมือนเทพบุตร พอกลับมาบ้านแป้งได้ไม่นาน ท่านก็ฝันว่าท่านเดินริมน้ำได้พระพุทธรูปมา แล้วไม่นานหลวงพ่อก็มาเกิด โยมน้าต้องกราบขอบพระคุณหลวงพ่อธัมมะฯจริงๆ โยมน้าปลื้มมาก เพราะเป็นบุญใหญ่ที่หลวงพ่อทำให้พวกเราชาวบ้านแป้งได้บุญนี้ จะได้เอาบุญใหญ่ให้บรรพบุรุษค่ะ”


ตั้งแต่เช้ามืด เวลา 4นาฬิกาของวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2552 เริ่มตั้งแต่ทางเข้าวัดกลางธนรินทร์ ได้มีพระภิกษุสงฆ์จากสิงห์บุรีและจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งสาธุชนจากทุกสารทิศ เริ่มทยอยเดินทางเข้าสู่ลานตลาดบ้านแป้ง วัดกลางธนรินทร์ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อร่วมงานตักบาตรครั้งประวัติศาสตร์ของชาวบ้านแป้งกันไม่ขาดสาย จนแม้เพียงเวลา 5นาฬิกาพื้นที่รองรับการจัดตักบาตรก็เริ่มมีผู้มีบุญเข้านั่งเต็มพื้นที่ จากนั้นก็ยังมีสาธุชนเริ่มเดินทางเข้ามาร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย จนเนืองแน่นเต็มบริเวณพิธี

การที่มีผู้มีบุญบารมีดังเช่น พระเดชพระคุณเจ้าคณะจังหวัด ถึง 5จังหวัด ได้แก่ พระเดชพระคุณพระราชกิตติเมธี เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี พระเดชพระคุณพระธรรมปิฎก เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี พระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี พระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และ พระเดชพระคุณพระราชอุทัยกวี เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ที่ได้เมตตาเดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก
อีกทั้งท้องฟ้าที่บ้านแป้งวันนี้ มีเมฆแผ่คลุมบังแดดจนทำให้มีแต่ความร่มเย็น และมีสายลมพัดผ่านเบาๆเป็นระยะๆ ทำให้อากาศสดชื่นและมีบรรยากาศสงบร่มเย็นเป็นอย่างดี และแม้ขณะกำลังประกอบพิธีจนถึงเสร็จพิธี บรรยากาศก็ยังคงร่มเย็นไม่มีแดดร้อนอบอ้าวแต่อย่างใด

โดยเฉพาะในการประกอบพิธีปลูกต้นโพธิ์ ยังได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 5จังหวัด ได้เป็นผู้นำในการโปรยรัตนชาติ โปรยดอกไม้ และรดน้ำต้นโพธิ์ ขณะที่สาธุชนทุกคนต่างปลื้มปีติเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตอนุโมทนา

การตักบาตรที่บ้านแป้งครั้งนี้ ถือว่าเป็นความสำเร็จของงานพระพุทธศาสนาที่ได้ก่อให้เกิดบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ ที่ถือเป็นผลงานร่วมกันอีกครั้งหนึ่งของเจ้าหน้าที่ลูกพระธัมฯจากหลายแผนกหลายฝ่าย และลูกพระธัมฯจากทั่วทุกสารทิศ จนสามารถกล่าวได้ว่า “ผลบุญเป็นของทุกท่าน ผลงานเป็นของทุกคน”
พระเดชพระคุณพระราชกิตติเมธี เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ประธานฝ่ายสงฆ์ ได้กล่าวว่า “เป็นงานครั้งประวัติศาสตร์ของชาวบ้านแป้งอย่างแท้จริง ในยุคนี้เราโชคดีที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ มาเกิดในร่มเงาของพระพุทธศาสนา ชาวสิงห์บุรีโชคดีที่ในยุคนี้มีดวงตะวันเกิดขึ้น ส่องสว่างนำทางธรรมทั่วโลก จนทำให้วัดพระธรรมกายเป็นที่รู้จักแผ่ขยายไปทั่วโลก เหมือนดวงตะวันมีดวงเดียวแต่แผ่ขยายแสงสว่างไปทั่วโลก และถือเป็นการทำบุญร่วมกันครั้งยิ่งใหญ่ของลูกพระธัมฯทั่วโลก ที่แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อครูบาอาจารย์ มาร่วมกันสร้างบุญใหญ่ในดินแดนแห่งมาตุภูมิ ที่จะเป็นภาพแห่งความทรงจำไปตลอด อย่างมิรู้ลืม”