ฮือฮา คองเกรสผ่านร่างกฎหมายประวัติศาสตร์
ควบคุมอุตสาหกรรมบุหรี่ชนิดครบวงจร
นักวิเคราะห์ชี้เป็นความพ่ายแพ้ของกลุ่มล็อบบี้ยาสูบ
หลังทรงอิทธิพลมานานหลายทศวรรษ
"ดิ อินเดอเพนเด็นท์"รายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายควบคุมอุตสาหกรรมบุหรี่ ด้วยคะแนนเสียง 79-17 ซึ่งจะเปิดทางให้องค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ มีอำนาจที่จะควบคุมบริษัทอุตสาหกรรมบุหรี่ ที่จะผลิตบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อประชาชน โดยมีสิทธิออกมาตรการจำกัดและควบคุมต่าง ๆ ได้แก่ การห้ามบริษัทบุหรี่ออกบุหรี่รสลูกกวาดและรสชาติอื่น ๆ ที่พยายามดึงดูดกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ควบคุมการโฆษณาบุหรี่ เพิ่มการจำกัดการขายบุหรี่ให้แก่วัยรุ่นที่อายุน้อย รวมทั้งการบังคับให้บริษัทบุหรี่จะต้องขออนุญาตเอฟดีเอในการออกบุหรี่ตัว ใหม่ ๆ รวมทั้งห้ามการใช้คำโฆษณาประเภทบุหรี่ว่า"ขนาดนุ่ม"หรือ"รสนิ่ม"ที่พยายามจะ โน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจว่ามีอันตรายน้อยลง และยังสามารถกำหนดระดับนิโคตินในบุหรี่ได้
"ดิ อินเดอเพนเด็นท์"รายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายควบคุมอุตสาหกรรมบุหรี่ ด้วยคะแนนเสียง 79-17 ซึ่งจะเปิดทางให้องค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ มีอำนาจที่จะควบคุมบริษัทอุตสาหกรรมบุหรี่ ที่จะผลิตบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อประชาชน โดยมีสิทธิออกมาตรการจำกัดและควบคุมต่าง ๆ ได้แก่ การห้ามบริษัทบุหรี่ออกบุหรี่รสลูกกวาดและรสชาติอื่น ๆ ที่พยายามดึงดูดกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ควบคุมการโฆษณาบุหรี่ เพิ่มการจำกัดการขายบุหรี่ให้แก่วัยรุ่นที่อายุน้อย รวมทั้งการบังคับให้บริษัทบุหรี่จะต้องขออนุญาตเอฟดีเอในการออกบุหรี่ตัว ใหม่ ๆ รวมทั้งห้ามการใช้คำโฆษณาประเภทบุหรี่ว่า"ขนาดนุ่ม"หรือ"รสนิ่ม"ที่พยายามจะ โน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจว่ามีอันตรายน้อยลง และยังสามารถกำหนดระดับนิโคตินในบุหรี่ได้
ทั้งนี้
สำหรับร่างกม.นี้จะถูกส่งต่อให้แก่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ให้ลงนาม
ซึ่งที่ผ่านมาเขาได้สนับสนุนกม.นี้
ด้านนายริชาร์ด ดูร์บิน วุฒิสภารัฐอิลลินอยส์ ชี้ว่า
การผ่านร่างกม.นี้ถือเป็นการตัดสินจำคุกตลอดชีวิตต่ออุตสาหกรรมบุหรี่
ซึ่งจะทำให้เราสามารถปกป้องเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศให้มีชีวิตที่
ปลอดภัยจากบุหรี่มากขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การผ่านร่างกฎหมายนี้
ถือเป็นชัยชนะของกลุ่มผู้สนับสนุนเอฟดีเอที่ต้องต่อสู้กับอุตสาหกรรมบุหรี่
ที่ถือว่าทรงอิทธิพลตลอดในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 2000
ศาลสูงสุดสหรัฐมีมติ 5 ต่อ 4
ตัดสินให้องค์การอาหารและยาไม่มีสิทธิกำหนดหรือควบคุมอุตสาหกรรมบุหรี่
ขณะที่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
ยังคัดค้านความพยายามของสภาคองเกรสที่จะออกร่างกม.ใหม่เล่นงานต่ออุตสาหกรรมบุหรี่ด้วย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สำนักงบประมาณรัฐสภาประเมินว่า
กฎใหม่ของเอฟดีเอสามารถลดการสูบบุหรี่ของเยาวชนอายุน้อยได้ราว 11 % ในอีก
10 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบัน สหรัฐมีผู้สูบบุหรี่กว่า 40 ล้านคนทั่วประเทศ
ที่มา-
