เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม นางจุฬารัตน์
บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
กล่าวถึงกรณีสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ (พศจ.)
ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ขณะนี้จำนวนวัดร้างในจังหวัดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปี
2552 สำรวจพบวัดร้าง 32 แห่ง และมีวัดอีก 336 แห่งที่มีพระดูแลเพียง 1
รูปเท่านั้น ว่า ปัญหาวัดร้างนั้น
ส่วนใหญ่จะเป็นวัดที่ร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ และไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะวัดร้างก็มีสิทธิ์ที่จะยกฐานะขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์ได้ทุกเวลา
ดังนั้นจึงทำให้ยอดวัดร้าง และวัดที่มีพระสงฆ์เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา
ส่วนวัดที่สร้างใหม่และกลายเป็นวัดร้าง ตนยืนยันว่ายังไม่พบ โดยเฉพาะในรอบ
10 ปีที่ผ่านมายังไม่มีรายงานจำนวนวัดร้างเพิ่มขึ้นเลย
สำหรับปัญหาวัดร้างที่เกิดขึ้นใน จ.เชียงใหม่
เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่จำนวนวัดร้างทั้งหมด
ส่วนใหญ่จะเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาอยู่ประมาณ 1-2 รูป
พุทธศาสนิกชนก็เกรงว่าจะกลายเป็นวัดร้าง ขณะที่ในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหาวัดร้าง
เพราะในพื้นที่ดังกล่าวมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยนั้น
ก็ยังไม่พบว่ามีจำนวนวัดร้างมากขึ้นเช่นกัน
นางจุฬารัตน์ กล่าวต่อว่า
สำหรับวัดร้างต้องเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์อยู่เท่านั้น
หากมีพระจำพรรษาอยู่ไม่ว่าจะกี่รูปก็ตามจะไม่ถือว่าเป็นวัดร้าง
หรือถ้าหากเกิดกรณีที่บางวัดไม่มีพระอยู่เลยก็ต้องดูว่าเป็นเวลากี่วัน
หากไม่อยู่เพียง 1 วัน จะมาระบุว่าวัดนั้นเป็นวัดร้างก็ไม่ได้
ซึ่งยืนยันว่าเรื่องปัญหาวัดร้างเป็นเรื่องปกติ และยังไม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น
อีกทั้งในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) แต่ละครั้ง
ก็จะมีการเสนอขอยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่โดยตลอด
ที่มา-น.ส.พ.มติชนออนไลน์
ที่มา-น.ส.พ.มติชนออนไลน์