เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2552 พระพรหมมุนี แม่กองธรรมสนามหลวง
กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.)
กล่าวสัมโมทนียกถาในการประชุมสัมมนาผู้แทนเจ้าคณะผู้ปกครอง
ผู้อำนวยการสำนักงานพระ
พุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.) และพิธีมอบสื่อนิทรรศการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-บาลี ณ วัดอาวุธวิกสิตาราม ว่า ยอมรับว่า
พุทธศาสนิกชนของเรานั้น นับถือพระ
พุทธศาสนาตามบรรพบุรุษ ถามว่า
ชาวพุทธที่มีอยู่ร้อยละ 90 มีความรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหรือไม่ ตอบได้เลยว่า น้อยมีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ คนไม่รู้มากกว่าคนรู้
ส่วนคนที่จะนำไปศึกษาและปฏิบัติจริงก็ยิ่งมีน้อยที่สุด
แม้แต่พระสงฆ์ที่นำหลักทางพระ
พุทธศาสนาไปปฏิบัติให้เกิดผลจริงๆก็มีน้อยเช่นกัน โดยที่พระสงฆ์ไม่ได้นึกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อพระ
พุทธศาสนา
พระพรหมมุนี กล่าวต่อไปว่า ผู้แทนเจ้าคณะจังหวัด ต้องช่วยกัน
โดยเฉพาะการศึกษาสงฆ์ ทุกวันนี้ทำกันตามมีตามเกิดไม่จริงจิง
มีจริงจังก็ไม่เท่าไหร่
ซึ่งทางแม่กองธรรมเคยออกไปตรวจสนามสอบนักธรรมตามวัดต่างๆทั่วประเทศ พบว่า
การสอบ การออกใบประกาศก็ไม่มีคุณภาพ จึงคิดที่จะปรับปรุงให้เกิดคุณภาพ
โดยลดสนามสอบ และส่งผู้แทนแม่กองธรรมออกไปดูแลสนามสอบ แต่ก็พบอุปสรรค คือ
หลายจังหวัดขอขยายสนามสอบมากขึ้น จาก 1 แห่ง เป็น 5 แห่ง
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พระภิกษุสามเณร ทางแม่กองธรรมฯก็เข้าใจ
แต่แม่กองธรรมฯจำเป็นต้องยุบสนามสอบในการรักษาคุณภาพของนักธรรมให้คงไว้
เพราะการขยายสนามสอบมากๆทำให้การดูแลไม่ทั่วถึง
“ตามหัวเมืองต่างๆไม่มีการเรียนการสอนธรรม-บาลี
แต่ก็ส่งพระภิกษุสามเณร
มาสอบธรรมสนามหลวงสอบกันได้อย่างไรโดยไม่ได้เรียนแล้วจะเอาอะไรมาสอบ
ทำให้พระไม่มีความรู้ ไม่มีคุณภาพ ถ้าปล่อยให้การสอบธรรม-บาลีไม่มีคุณภาพ
พระที่จะเป็นนักธรรม ที่จะต้องเป็นเจ้าคณะพระสังฆาธิการในอนาคต
ไม่มีความรู้ทางพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ลองคิดดูว่า ต่อไปพระพุทธศาสนาจะเป็นอย่างไร อาตมาขอฝากผู้แทนเจ้าคณะผู้ปกครองให้เข้าใจเรื่องนี้
และช่วยกันดูแลการศึกษาสงฆ์ให้มีคุณภาพ
อีกทั้งจะทำอย่างไรให้พระสงฆ์นำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปสู่การปฏิบัติมากขึ้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาและศรัทธาของพุทธศาสนิกชน” แม่กองธรรมสนามหลวงกล่าว
ที่มา-