ชีวิตนี้คุณเคยบวชหรือยัง

    กระแสโชนนิรันดร์ ในการทำหน้าที่ชวนกองพันพี่เลี้ยงและพระแสนรูป กลายเป็นกระแสยึดครองเรทติ้งสูงสุดในหัวใจลูกพระธัมฯทุกท่าน ทำให้ตอนนี้เราได้ว่าที่พระพี่เลี้ยงแสนรูปทะลุจากกองร้อยเป็นกองพันเรียบร้อยแล้ว แต่ตราบใดที่ภารกิจยังไม่บรรลุเป้าหมาย ลูกพระธัมฯก็พร้อมสวมหัวใจทุ่มเททำหน้าที่แบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน นำความสำเร็จเป็นอัศจรรย์มาให้จงได้

 

    หนึ่งในยอดขุนพลผู้กล้า กัลยาณมิตรสาธิน ชีวสุทธิ อายุ 45ปี เจ้าของกิจการขนมทามาโกะ ขนมไข่อินเตอร์ ที่กำลังอินเตอร์ ขายดิบขายดี แต่ตอนนี้ ขอพักงานด้านธุรกิจไว้ชั่วคราวให้ลูกน้องทำแทนไปก่อน ส่วนตัวเองมาสมัครบวชเป็นว่าที่กองพันพี่เลี้ยง และยังจับมือเทพธิดาข้างกายเร่งทำหน้าที่ชวนคนมาบวชด้วย เพราะรู้ว่าหน้าที่หลัก คือ การเกิดมาสร้างบารมี เรื่องอื่นจึงเป็นเรื่องรองทั้งหมด

 

    กัลยาณมิตรสาธิน ชีวสุทธิ กล่าวว่า “ผมตั้งใจว่าจะทำลายสถิติการบวช ให้มากที่สุดในโลก โดยขอบันทึกไว้ใน Mind book ครับ ผมบวชไปหมดครับ ตั้งแต่บวชธรรมทายาทรุ่นที่31, บวชบูชาธรรม 60ปีพระราชภาวนาวิสุทธิ์, บวชรุ่นเข้าพรรษา, บวช 100ปีคุณยายอาจารย์ฯ, และบวชพระกองพลสถาปนาที่ผ่านมา

 

    ใครๆอาจจะมองว่า ผมว่างหรือ จึงมาบวชได้บ่อยๆ เปล่าครับ...ผมว่าไม่เกี่ยวว่าว่างหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้ความสำคัญกับอะไรในชีวิตมากกว่า ผมขอสารภาพว่า เมื่อก่อน ผมใช้ชีวิตลูกผู้ชายมาอย่างโชกโชน ทั้งกิน เล่น เที่ยว แต่พอได้มาเจอพระเดชพระคุณหลวงพ่อและหมู่คณะ ได้มาบวช ผมเข้าใจแล้วครับว่า ชีวิตที่มีคุณค่ามันเป็นอย่างไร ที่สำคัญผมตั้งใจจะทำความดีให้มากพอที่จะกราบตัวเองได้ ผมรู้สึกว่าเราช่างโชคดีเหลือเกินที่เจอครูดีที่สอนให้เรารู้หลักในการดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัยในวัฏสงสาร ผมจึงพร้อมที่จะถวายชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนาครับ

 

    แต่ชีวิตคนเรามันก็ไม่ได้สำเร็จรูปเหมือนบะหมี่ แม้ใจผมจะเกินร้อย แต่ร่างกายของผมก็ช่างไม่เป็นใจเอาเสียเลย ผมป่วยเป็นมะเร็งที่เยื่อบุน้ำลายระยะเริ่มต้น ต้องรักษาด้วยการฉายแสง และผลจากการฉายแสง ทำให้ในขณะที่บวชเป็นพระกองพลสถาปนา ผมฉันได้แต่ข้าวกับน้ำ แต่ฉันกับข้าวไม่ได้ เพราะเยื่อบุผนังในปากระคายเคืองง่าย แต่ผมก็อดทนจนถึงแก่นของความอดทน คือไม่ต้องอดทนแล้ว เพราะมันเลยจุดที่ต้องทนไปแล้ว ผมตั้งใจปฏิบัติสมณกิจโดยตลอด น้ำหนักลดถึง 17กิโลกรัม

 

    แต่เรื่องป่วยไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้ผมท้อเลย ในรุ่นกองพลสถาปนา ผมอยากบวชต่อแต่พระพี่เลี้ยงให้ไปรักษาตัวก่อน ผมจึงจำต้องลาสิกขา ตอนนี้อาการของผมก็ดีวันดีคืน และผมก็ยังยืนยันเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ว่า จะบวชทุกครั้งที่ยังมีโอกาสให้บวชครับ คือ ยังไม่ตายเสียก่อน

 

    นอกจากบวชเองแล้ว ผมยังตามหาพระธรรมทายาทในทุกรุ่นที่เคยบวชมาด้วยกัน ให้มาสมัครบวชเป็นพระพี่เลี้ยง ตอนนี้ได้มาแปดรูปแล้วครับ และได้ไปร่วมกับผู้นำบุญจังหวัดปทุมธานี ทำหน้าที่ใน 400หมู่บ้าน มีเป้าหมายชวนบวชพระแสนให้ได้หมู่บ้านละหนึ่งคนเป็นอย่างน้อย ที่ตำบลหน้าไม้ แค่เพียงเริ่มต้นก็ได้มาห้าคนแล้วครับ พวกเราสนุกสนานบุญบันเทิงกันมากครับ กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ดำริโครงงานดีๆมาให้พวกเราได้สร้างบุญใหญ่ๆกัน

 

    แต่ผมก็แอบสงสัยนะครับว่า เหตุไฉนลูกๆบางคนจึงคิดว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อบุญเยอะ อย่างไรก็สำเร็จอยู่แล้ว ก็จริงครับ แต่เราจะยอมได้หรือครับ หากความสำเร็จนั้นไม่มีเราเป็นส่วนหนึ่ง มาทำหน้าที่ร่วมกันเถอะครับ ยอดนักรบกล้ากองทัพธรรม ถึงเวลาแล้วที่เราต้องออกมาสู้เพื่อกอบกู้พระศาสนา จะได้เป็นมหาปีติและเป็นบุญใหญ่ให้เราระลึกได้ก่อนจะหลับตาลาโลก”

 

 

    ที่จังหวัดสุรินทร์ แดนดินที่ไม่เคยหลับใหลในการสร้างบารมี เพราะทั้งพระและญาติโยมที่นี่ ต่างตื่นตัวในการทำหน้าที่ชวนคนบวช บ่ายวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2552 ได้มีการจัดสัมมนาเรื่อง “พุทธบริษัทสี่ร่วมใจ พลิกวิกฤติพระพุทธศาสนา” ที่โรงแรมเพชรเกษม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีคณะสงฆ์จากวัดสาขาและวัดกัลยาณมิตรในจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์กว่า 200รูป รวมทั้งญาติโยมกว่า 300คน เข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้

 

    โดยได้รับความเมตตาจาก พระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะภาค14 ได้มาบรรยายเรื่อง “สถานการณ์ของพระพุทธศาสนา” ซึ่งในตอนท้าย ท่านได้กล่าวว่า เรื่องของพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของชาวพุทธทุกคนจะต้องร่วมมือกัน และขอให้พระทุกรูปช่วยกันทำหน้าที่ชวนคนมาบวชให้มากๆ อย่าปล่อยให้เป็นเพียงหน้าที่ของโยมแต่เพียงฝ่ายเดียว

 

    ในการนี้ พระเดชพระคุณพระธรรมโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ก็ได้เข้าร่วมสัมมนาด้วย ท่านกล่าวกับทีมงานด้วยความเบิกบานว่า “หลวงพ่อดีใจที่มีโครงการนี้ หลวงพ่อเคยคิดจะชวนคนมาบวชให้มากๆ แต่ไม่มีทีมทำ เมื่อทุกฝ่ายมาร่วมมือกันอย่างนี้ก็เป็นนิมิตหมายที่ดี หลวงพ่อเต็มใจที่จะเป็นที่ปรึกษาในทุกกิจกรรม ก็ขอให้ช่วยกันไปตามคนมาบวช ทำหน้าที่กันให้เต็มที่ ให้ไปตามคนที่วัดต่างๆ ให้ได้วัดละ 3-5รูป ส่วนหลวงพ่อก็จะแจ้งข่าวให้ลูกศิษย์ลูกหาที่มาปฏิบัติธรรมกันอยู่เสมอ ให้ได้ทราบข้อมูลและสมัครบวชกัน หากมีสิ่งใดให้ช่วยเหลือ หลวงพ่อก็ยินดีสนับสนุนทุกประการ”

 

    การสัมมนาในครั้งนี้ ได้สร้างกระแสตื่นตัวครั้งใหญ่ให้กับคณะสงฆ์และสาธุชนทั้งจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ หลายท่านบอกว่า สิ่งที่ได้ยินได้ฟังวันนี้ ทำให้ยิ่งตระหนักในหน้าที่ของชาวพุทธที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันในการปกป้องพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่ผืนแผ่นดินไทย และอยู่เป็นหลักใจให้อนุชนรุ่นหลัง และหน้าที่นี้ พุทธบริษัทสี่ต้องร่วมด้วยช่วยกันทำหน้าที่ในทันที รอช้าไม่ได้แล้ว ต้องรีบไปเชิญชวนชายแมนแมน มาบวนแสนให้มากที่สุด เพื่อพลิกวิกฤตพระพุทธศาสนา