เดลิเมล์ - ผลวิจัยระบุการออกกำลังกายแบบที่ทำให้เสียเหงื่อเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ช่วยลดความเสี่ยงของอาการสายตาเสื่อมในผู้สูงอายุได้ถึง 70%


ทั้งนี้ นักวิจัยเชื่อว่า การออกกำลังกายช่วยรักษาสายตาได้ จากการช่วยปกป้องเส้นเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงดวงตา

โรคจอประสาทตาเสื่อม (macular degeneration) ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อบริเวณเล็กๆ ของเรตินาที่รับสีและรายละเอียดของภาพ ส่งผลต่อความสามารถในการมองเห็นของคนกว่าครึ่งที่อายุ 75 ปีขึ้นไป

ผู้ที่ประสบปัญหานี้จะพบว่า จุดศูนย์กลางการรับภาพค่อยๆ เสื่อมลง ทำให้ทำกิจกรรมบางอย่างลำบากขึ้น เช่น อ่านหนังสือ ขับรถ และดูทีวี

แม้ผู้มีอาการสายตาเสื่อมยังสามารถมองเห็นขอบด้านข้างของภาพได้ ทว่า ความเสียหายที่เกิดกับศูนย์กลางการรับภาพ อาจทำให้บางคนถูกวินิจฉัยว่าตาบอด หรือมองเห็นเพียงบางส่วน

การศึกษานี้พิจารณาจากผลของการออกกำลังกายที่มีต่อภาวะที่เรียกว่าโรคจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก (wet age-related macular degeneration) ซึ่งเกิดจากการมีเส้นเลือดผิดปกติงอกอยู่บริเวณใต้จอประสาทตา เส้นเลือดเหล่านี้แตกง่าย ทำให้เลือดและของเหลวที่อยู่ภายในไหลซึมออกมา จุดศูนย์กลางรับภาพจึงบวม ผู้มีอาการจะเริ่มมองเห็นภาพตรงกลางบิดเบี้ยว ต่อมาอาจเกิดการทำลายของจอประสาทตาอย่างรวดเร็ว เมื่อเซลล์ประสาทตาตาย ผู้ป่วยจะสูญเสียการมองเห็น

ในการศึกษานี้ ชาย-หญิงอายุระหว่าง 43-86 ปีจำนวนกว่า 4,000 คน ถูกตั้งคำถามว่า ออกกำลังกายแบบเสียเหงื่อ อาทิ การขี่จักรยาน เต้นรำ และวิ่ง บ่อยแค่ไหน หรือขึ้น-ลงบันไดหรือเดินมากแค่ไหนในแต่ละวัน อย่างไรก็ดี การขึ้น-ลงบันไดไม่มีผลต่อโรคจอประสาทตาเสื่อม

จากการวิเคราะห์ข้อมูลของนักวิจัยมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐฯ พบว่าคนที่ออกกำลังกายแบบเสียเหงื่ออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียกลดลง 70%

ส่วนคนที่ออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น เดินวันละเกิน 12 ช่วงตึก มีแนวโน้มที่จะมีอาการดังกล่าวน้อยลง 30%

ผลลัพธ์นี้ถูกต้องแม้เมื่อพิจารณาปัจจัยด้านน้ำหนักตัว อายุ และปัจจัยอื่นๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมประกอบด้วยก็ตาม

ในวารสารบริติช เจอร์นัล ออฟ ออปทัลโมโลจี นักวิจัยระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่โภชนาการอาจมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพดวงตา โดยก่อนหน้านี้มีผลวิจัยอีกหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า คนที่กินน้ำมันปลาเป็นประจำมีแนวโน้มเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมลดลง โดยเชื่อกันว่า กรดไขมันจากปลา ซึ่งรวมถึงโอเมกา-3 มีความสำคัญต่อสุขภาพดวงตาเช่นเดียวกัน

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง