บุญไม่มีขาย
อยากได้ต้องทำเอง

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสพระคาถาว่า
“ปุญฺญญฺ เจ ปุริโส กยิรา กยิราเถนํ ปุนปฺปุนํ ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย”
แปลความว่า
ถ้าบุรุษพึงทำบุญไซร้, พึงทำบุญนั้นบ่อยๆ
พึงทำความพอใจในบุญนั้น,
เพราะว่าความสั่งสมบุญทำให้เกิดสุข.
ถวายข้าวตอก มีวิมานประดับขันและข้าวตอกทองคำ
เหตุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสบทนี้มาจากเรื่องราวของ
เหตุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสบทนี้มาจากเรื่องราวของ
‘ลาชเทวธิดา’ ที่ถวายข้าวตอกแด่พระมหากัสสปเถระ ที่เพิ่งออกจากฌานสมาบัติ ระหว่างทางเดินกลับบ้านเธอถูกงูพิษกัดตาย ละโลกด้วยจิตผ่องใสเพราะนึกถึงบุญได้ ไปบังเกิดเป็นเทพธิดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทอง 30 โยชน์ ประตูวิมานประดับด้วยขันทองคำ เต็มด้วยข้าวตอกทองคำห้อยระย้าอยู่ เทพธิดาตรวจดูทิพยสมบัติด้วยทิพยจักษุแล้วทราบว่า ด้วยผลแห่งข้าวตอกที่ได้ถวายพระมหากัสสปเถระนั่นเอง จึงมายังโลกมนุษย์เพื่ออุปัฏฐากพระเถระ เพื่อหวังสั่งสมบุญกุศลเพิ่มขึ้น แต่โดนพระเถระไล่ เพราะเห็นว่า ไม่เหมาะสมที่มีผู้หญิงแม้เป็นเทพธิดามาดูแล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบด้วยข่ายพระญาณ จึงทรงแผ่พระรัศมีดุจประทับเฉพาะหน้าเทพธิดา ทรงตรัสพระคาถา
“ปุญฺญญฺ เจ ปุริโส กยิราฯ”
เมื่อจบพระเทศนา เทพธิดาได้บรรลุโสดาปัตติผล
(ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท)
อยากประสบความสุข ต้องสั่งสมบุญบ่อยๆ
จากประวัติชีวิตของ‘ลาชเทวธิดา’ เราจะเห็นได้ว่า บุญที่เธอได้ทำคือ การถวายทานกับพระเถระ ทำให้บังเกิดในสวรรค์ เมื่อเทพธิดารู้ว่าบุญตัวเองยังน้อยและยังไม่หมดกิเลส ต้องสั่งสมบุญต่อจึงมาตามอุปัฏฐากพระเถระ และด้วยบุญจากการฟังธรรมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ดังนั้น การสั่งสมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะบุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จของสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เมื่อเราทราบดังนี้ จึงต้องหมั่นสั่งสมบุญบ่อยๆต้องมีความอุสาหะในการทำบุญและด้วยความรู้อันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้เราทราบความจริงของชีวิตที่ว่า
"เราและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่ต้องเวียนเกิดเวียนตายเพราะยังไม่หมดกิเลส ชีวิตที่เกิดมาจึงมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ นอกเหนือจากการดำรงชีวิตทำมาหากินแล้ว นั่นคือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี เพราะ บุญ เป็นพลังงานบริสุทธิ์ เกิดขึ้นที่ใจของเรา ทุกครั้งที่เราสั่งสมความดี ด้วยการทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา เป็นเครื่องชำระล้างใจให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ผ่องใส ห่างไกลจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย เมื่อสั่งสมบุญมากเข้าๆ ใจก็บริสุทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดกิเลสในที่สุด"

ทางมาแห่งบุญ 10 ประการ
บุญกิริยาวัตถุ แปลว่า เหตุ เป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ
หมายถึง เหตุเกิดบุญ,หรือ ทางมาแห่งบุญ วิธีการทำบุญ, วิธีที่เมื่อทำแล้วได้ชื่อว่าทำบุญและจะได้รับผลเป็นความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
บุญกิริยาวัตถุโดยย่อมี 3 ประการคือ ทาน ศีล ภาวนา
โดยพิสดาร มี 10 ประการ คือ |
|
|
|
1. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ทาน |
|
2. ศีลมัย บุญสำเร็จด้วยการักษาศีล |
|
3. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญสมาธิภาวนา |
|
4. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน |
|
5. เวยาวัจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือผู้อื่นในกิจการที่ชอบ |
|
6. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการอุทิศแผ่ส่วนบุญกุศล |
|
7. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาบุญ |
|
8. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม |
|
9. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม |
|
10.ทิฏฐุชุกรรม บุญสำเร็จด้วยการทำความเห็นให้ตรงตามความเป็นจริง หรือ เป็นสัมมาทิฏฐิ |
|

สร้างวัด-สร้างพระ-สร้างคน-สร้างบุญ
วัดพระธรรมกาย สร้างมาได้ 40 ปีแล้ว โดยการนำของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายและประธานมูลนิธิธรรมกาย ด้วยมโนปณิธานที่ว่า “สร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระ สร้างคนให้เป็นคนดี”

เรื่องการสร้างวัดให้เป็นวัด ในส่วนอาคารสถานที่ ใช้หลักที่ว่า “ประโยชน์สูง ประหยัดสุด” ดูแลรักษาง่าย สร้างเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ในส่วนของกิจกรรม ทุกพิธีกรรมที่ทางวัดจัดขึ้นต้องมีการนั่งสมาธิก่อนเสมอ ทั้งการถวายทาน พิธีสร้างเสนาสนะ
หรือการฟังธรรมต่างๆ เพื่อให้ทุกคนสั่งสม
ความบริสุทธิ์ของใจตลอดต่อเนื่อง
เรื่องการสร้างพระให้เป็นพระ ก่อนบวชต้องได้รับการฝึกอบรมก่อนเสมอ ในเรื่องวินัย เคารพ อดทน ซึ่งเป็นหลักคุณธรรมพื้นฐานของ ศีล สมาธิ ปัญญา ผ่านการอบรมเรื่องศีลาจารวัตรแล้วจึงจะได้รับการพิจารณาให้บวชเป็นพระภิกษุได้ และเมื่อบวชแล้วก็ปลูกฝังการบวชตลอดชีวิต เพื่อให้ฝึกหัดขัดเกลาตัวเองได้เต็มที่และเป็นกำลังเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นที่พึ่งให้กับตนเองและชาวโลกได้
เรื่องการสร้างคนให้เป็นคนดี สาธุชนที่มาวัดต้องไม่นำเรื่องร้อนใจเข้าวัด คือ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ฯลฯ
เรื่องการสร้างพระให้เป็นพระ ก่อนบวชต้องได้รับการฝึกอบรมก่อนเสมอ ในเรื่องวินัย เคารพ อดทน ซึ่งเป็นหลักคุณธรรมพื้นฐานของ ศีล สมาธิ ปัญญา ผ่านการอบรมเรื่องศีลาจารวัตรแล้วจึงจะได้รับการพิจารณาให้บวชเป็นพระภิกษุได้ และเมื่อบวชแล้วก็ปลูกฝังการบวชตลอดชีวิต เพื่อให้ฝึกหัดขัดเกลาตัวเองได้เต็มที่และเป็นกำลังเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นที่พึ่งให้กับตนเองและชาวโลกได้
เรื่องการสร้างคนให้เป็นคนดี สาธุชนที่มาวัดต้องไม่นำเรื่องร้อนใจเข้าวัด คือ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ฯลฯ
และใส่ชุดขาวมาวัด โดยชี้แนะให้หมั่นสั่งสมบุญให้เต็มที่ทั้งทาน ศีล และภาวนา เช่น ให้กำลังใจในการรักษาศีล 5เป็นปกติทุกวัน จากนั้นชักชวนมาถือศีล 8 ในวันพระหรือมาอยู่ธุดงค์ที่วัดในวันหยุดศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ส่วนกุลบุตรชายที่มีกุศลศรัทธา ก็เชิญชวนมาบวชเพื่อรักษาศีล 10 ของสามเณร
และศีล 227 ข้อของพระภิกษุ เป็นต้น

บางคนเห็นแต่ว่า วัดพระธรรมกาย ชวนทำทานอย่างเดียว แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้งจะเห็นชัดว่า เรื่องศีล ทางวัดได้สอนตั้งแต่ศีล 5จนถึงศีล 227 ข้อ จนปัจจุบัน พ.ศ. 2553 ที่วัดพระธรรมกาย มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษากว่า 2,000 รูป และยิ่งเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาจากโครงการอุปสมบทหมู่เข้าพรรษา 100,000 รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย และโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 100,000 คน และ 500,000 คน ทั่วประเทศและทุกทวีปทั่วโลก
เหตุผลสำคัญที่วัดพระธรรมกาย มีพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา และสาธุชน มาปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอและเป็นจำนวนมาก เพราะสอนเรื่องสมาธิเป็นหลัก เมื่อผู้ปฏิบัติได้รับความสงบแห่งจิตใจ ย่อมรักในการปฏิบัติธรรม รักในการฟังธรรม รักและมีกำลังใจในการสร้างบุญข้ออื่นๆ ตามมาเป็นลำดับๆ
เป็นความจริงที่ว่า เป้าหมายของทุกคน คือ ทำความบริสุทธิ์ให้กับตนเองเพื่อให้หมดกิเลสเข้าพระนิพพาน จะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก แต่ระหว่างที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสาร จำเป็นต้องมีเสบียงในการเดินทาง ซึ่งในปรโลกหรือโลกหน้า มีเพียงบุญกับบาปเท่านั้น ผู้สั่งสมบุญย่อมมีสุคติเป็นที่ไป ผู้สั่งสมบาปย่อมมีทุคติเป็นที่ไป ...ดังนั้น เมื่อยังไม่หมดกิเลส ต้องสร้างบุญให้เต็มที่ เพราะ “การสั่งสมบุญเป็นเหตุนำมาซึ่งความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า” นั่นเอง … และที่สำคัญ ‘บุญไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง’ และไม่มีบุญหล่นทับ ต้องทำเองทุกประการดังที่ยกมานี้แล
พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ วัดพระธรรมกาย