ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2553
ปรโลกนิวส์-ทำบุญแล้ว...มาเสียดายในภายหลัง 
 
ปรโลกนิวส์ ตอน ทำบุญแล้ว...มาเสียดายในภายหลัง
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
        ตั้งแต่จำความได้...ตอนผมยังเป็นเด็ก คุณแม่ต้องทำงานหนัก ทั้งดูแลงานบ้าน เลี้ยงลูกและช่วยค้าขาย ท่านเป็นคนจีนคนเดียวในบ้านที่มีแต่ญาติพี่น้องของคุณพ่อซึ่งเป็นคนไทย เพราะก๋งของผมเสียไปตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้ แต่ความที่คุณแม่เป็นคนเก่ง ฉลาดและค้าขายเก่ง ประสบความสำเร็จ จึงได้รับความไว้วางใจจากคุณย่าในภายหลัง ให้ช่วยดูแลกิจการการค้าขายและคุมเรื่องเงินทอง แต่ลึกๆแล้ว...คุณแม่ไม่ค่อยมีความสุข ท่านมีความน้อยใจคุณพ่อ ที่ไม่ได้ช่วยในการส่งเงินช่วยเหลือญาติของคุณแม่ทางเมืองจีน คุณแม่เป็นคนวิตก ระแวงในแง่ร้าย ซึมเศร้า แต่ท่านได้ทำหน้าที่ดูแลลูกๆทุกคนให้ได้รับการเล่าเรียนอย่างเต็มที่ ร่วมกับคุณพ่อที่ช่วยสนับสนุนการศึกษาของลูกทุกคน จนจบปริญญา และได้เรียนต่อที่ต่างประเทศ 
ขอกราบขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่อย่างมากครับ ในความเมตตาในครั้งนี้
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
คำถามข้อที่ 1.คุณพ่อเสียชีวิตแล้วไปอยู่ที่ไหน ท่านได้รับบุญที่ผมและภรรยาทำไปให้ และทำให้ชีวิตโลกหน้าของท่านดีขึ้นบ้างหรือไม่ครับ ผมควรจะทำบุญอะไรไปให้ท่านอีกครับ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

        ซึ่งตอนนี้ คุณพ่อของลูกก็มีความสุขสบายดี และกำลังศึกษาสังคมใหม่อยู่ อีกทั้งท่านก็กำลังตรวจตราทิพยสมบัติอยู่ด้วยความปลื้มปีติใจ แต่ด้วยความที่คุณพ่อของลูกยังมีความเข้าใจในเรื่องผลแห่งกรรมเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น จึงเป็นผลทำให้ท่านมีความคิดว่า “ทิพยสมบัติที่ท่านได้รับนั้น ล้วนเกิดมาจากคุณความดีที่ตัวท่านได้สั่งสมเอาไว้เท่านั้น”
 
        สำหรับบุญที่ลูกควรจะทำ และอุทิศส่วนบุญส่งไปให้ท่านนั้น ก็คือบุญทุกๆบุญ และโดยเฉพาะในช่วงนี้ก็มีบุญใหญ่ที่สำคัญอยู่บุญหนึ่ง นั่นก็คือ...1บุญกฐินสร้างอาคารหนึ่งร้อยปีปีคุณยาย ก็ให้ลูกตั้งใจและทุ่มเททำบุญนี้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง และเมื่อลูกทำบุญทุกๆบุญแล้ว ก็ให้อุทิศส่วนบุญส่งไปให้ท่านบ่อยๆ เพราะเมื่อใดที่ตัวลูกได้อุทิศส่วนบุญส่งไปให้ท่าน ภาพของลูกก็จะมาปรากฏขึ้นในใจของท่าน อีกทั้งใจของท่านก็จะสว่างขึ้น และกายของท่านก็จะสว่างตามไปด้วย นอกจากนี้ ก็ยังทำให้ท่านมีทิพยสมบัติเพิ่มมากขึ้นไปจากเดิมอีกด้วย 

คำถามข้อที่ 2.คุณแม่เชื่อแต่เรื่องไหว้เจ้า ไม่ค่อยมีศรัทธาในพระรัตนตรัย ลูกๆไม่อาจเปลี่ยนแปลงความคิดท่านได้ ท่านจะพูดว่า...ท่านเป็นแม่ ลูกต้องมีหน้าที่เชื่อฟังเถียงไม่ได้ เราจะทำอย่างไรจึงจะทำให้ท่านมีสัมมาทิฐิได้ครับ 

คำถามข้อที่ 3.คุณแม่ทำกรรมอะไรมาจึงต้องจากครอบครัวที่เมืองจีน มาอยู่ต่างถิ่นในประเทศไทยอย่างตัวคนเดียว ไม่ค่อยมีความสุขในชีวิต แม้ในปัจจุบันจะมีทรัพย์สมบัติแต่ก็กลัวจน ไม่ค่อยยอมนำทรัพย์สมบัติออกมาใช้ครับ 
 
        แต่เนื่องจากในภพชาติดังกล่าวนั้น คุณแม่ของลูกมีพี่น้องหลายคน จึงทำให้เกิดกระทบกระทั่งและก่อให้เกิดความวุ่นวายตามมา ซึ่งเมื่อมีการกระทบกระทั่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง คุณแม่ของลูกจึงรู้สึกเบื่อและรำคาญ จนเป็นผลทำให้ในที่สุด...คุณแม่ของลูกก็ได้ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน และได้อธิษฐานจิตว่า “ต่อไปขอให้ได้อยู่คนเดียว อย่าต้องให้ใครมาวุ่นวายกับชีวิตอีกเลย” ด้วยเหตุนี้ท่านจึงชอบอยู่คนเดียว
 
        ส่วนสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ของลูกแม้จะมีทรัพย์สมบัติแล้ว แต่ก็ยังกลัวจนโดยไม่ค่อยยอมนำสมบัติออกมาใช้นั้น ทั้งนี้เป็นเพราะวิบากกรรมในอดีตชาติที่ท่านเกิดความรู้สึกเสียดายทรัพย์ ภายหลังจากที่ท่านได้ทำบุญไปแล้ว มาส่งผล เรื่องก็มีอยู่ว่า...ในอดีตชาติอีกภพชาติหนึ่ง คุณแม่ของลูกก็ได้เกิดเป็นกุลธิดารูปงาม อยู่ในตระกูลที่ทำการค้าขายเช่นเดียวกัน โดยคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้นได้ทำหน้าที่ในการจัดหาตลาด และคอยรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรจากเมืองของตนเองแล้วนำไปขายยังเมืองต่างๆ อีกทั้งท่านยังได้ดูแลเกี่ยวกับระบบการเงินให้กับทางครอบครัวอีกด้วย
 
        ในภพชาติดังกล่าว คุณแม่ของลูกได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา และตัวท่านเองก็ได้ทำบุญทั้งในพระพุทธศาสนาและทำบุญแบบสงเคราะห์โลกอยู่เป็นประจำด้วย แต่การทำบุญของท่านเป็นไปเพื่อหวังอยากที่จะให้ตนเองมีชื่อเสียง และอยากได้รับการยกย่องนับถือจากมหาชน (หรือทำบุญเพื่อหวังสิ่งที่ตนต้องการเป็นผลตอบแทนนั่นเอง)
 
        ด้วยความที่บุญส่งผลไม่ทันใจ (ไม่ทันใช้)-ผลยังไม่เป็นไปตามที่ตนต้องการ เนื่องจากบุญกำลังรอระยะเวลาในการให้ผลอยู่ จึงทำให้คุณแม่ของลูกได้คิดเสียดายในภายหลังว่า “ทำดีไม่ได้ดีและไม่มีใครเห็น อีกทั้ง...บุญที่ทำไปแล้วก็ไม่เห็นจะส่งผล ดังนั้น เราสู้ไม่ทำดีกว่า เพราะถึงอย่างไรผลที่ได้รับก็เท่าเดิม เหมือนกับตอนที่เราไม่ได้ทำ”-เหตุที่ท่านคิดเช่นนี้ ก็เพราะท่านยังไม่ทราบความจริงที่ว่า...ผู้ที่ทำความดีแล้ว ก็ต้องได้รับผลแห่งความดีนั้นในที่สุด 
 
        ด้วยความที่คุณแม่ของลูกได้ทำบุญไว้ในพระพุทธศาสนา และทำบุญแบบสงเคราะห์โลก อยู่เป็นประจำนี้เอง จึงทำให้ท่านเป็นผู้ที่มีทรัพย์สมบัติ แต่เพราะความคิดเสียดายในทรัพย์ที่ทำบุญไปแล้วนั้น จึงทำให้ท่านไม่สามารถที่จะใช้ทรัพย์ที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่  
 
        แต่เมื่อภรรยาของลูกได้ทำบุญและอุทิศส่วนบุญส่งไปให้ท่านแล้ว ด้วยผลบุญนี้เอง...จึงส่งผลทำให้ท่านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีทิพยสมบัติและบริวารเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง...วิมานของท่านก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นั่นก็คือ...เปลี่ยนจากวิมานไม้เหลือบทอง กลายเป็นวิมานไม้สีทองที่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในตอนนี้...คุณพ่อภรรยาของลูกก็กำลังเพลิดเพลินกับทิพยสมบัติของท่านอยู่
 
 โปรดติดตามตอนต่อไป คลิกที่นี่
ปรโลกนิวส์ ตอน ทำบุญแล้ว...มาเสียดายในภายหลัง












