พุทธพจน์เตือนใจ: ธรรมะเพื่อประชาชนในชีวิตประจำวัน
ค้นพบพุทธพจน์ที่สอนใจเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผ่านมุมมองธรรมะเพื่อประชาชน และความเข้าใจในอำนาจแห่งมฤตยูที่ทุกคนต้องเผชิญ
ชีวิตมนุษย์ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งโง่เขลา ทั้งเฉลียวฉลาด
ย่อมไปสู่อำนาจแห่งมฤตยู มีมัจจุราชสกัดอยู่ข้างหน้า
เพจ พุทธพจน์เตือนใจ
ธรรมะเพื่อประชาชน
ทวทูตสูตร
อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 3,415
“สัตว์ที่เกิดมาย่อมมีภัยโดยความตายเป็นนิตย์ เหมือนผลไม้ที่สุกแล้วย่อมมีภัยโดยการหล่นไปในเวลาเช้าฉะนั้น ภาชนะดินที่นายช่างทำแล้วทุกชนิดมีความแตกสลายไปในที่สุด ชีวิตมนุษย์ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งโง่เขลา ทั้งเฉลียวฉลาด ย่อมไปสู่อำนาจแห่งมฤตยู มีมัจจุราชสกัดอยู่ข้างหน้า เมื่อมนุษย์เหล่านั้น ถูกมัจจุราชสกัดอยู่ข้างหน้าแล้ว ถูกมัจจุครอบงำแล้ว บิดาก็ต้านทานไว้ไม่ได้ หรือพวกญาติก็ต้านทานไม่ได้ มนุษย์ทั้งหลายย่อมรำพันกันอยู่เป็นอันมากนั่นเอง"เทวทูตสูตร
มัจจุ คือ ความตาย หากมาปรากฏต่อหน้าของเราก่อนจะละโลกนี้เพื่อเดินทางไปสู่ปรโลก เมื่อถึงยามนั้นไม่มีใครเลยที่จะมาช่วยเหลือเราได้ เราต้องช่วยตัวเอง ธรรมะและบุญกุศลที่เราได้ทำเอาไว้จะเป็นที่พึ่งแก่เราในยามนั้น ความตายที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่มีอยู่ 2 สาเหตุด้วยกัน คือ ตายปัจจุบันทันด่วน เป็นการตายก่อนถึงเวลาสมควร เช่น อุบัติเหตุ รถชนตาย จมน้ำตาย ตายอย่างที่สอง เป็นการตายตามปกติ เช่น เจ็บป่วยตาย สุดท้ายเมื่อกายหยาบนี้แตกดับทนอยู่ไม่ได้ กายมนุษย์ละเอียดก็ต้องถอดออกไป ไปถือกำเนิดในกายใหม่ จะเป็นกายทิพย์หรือกายของสัตว์นรกก็แล้วแต่บุญทำกรรมแต่ง แล้วแต่ใจของเราในตอนนั้นว่าเศร้าหมองหรือผ่องใส
เมื่อตายไปแล้วจะไปที่ไหน ความตายเป็นอย่างไร ความตายก็คือความขาดแห่งชีวิตินทรีย์ ขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่นี้ มีบุญคอยหล่อเลี้ยงรูปกายเราให้สดใสไปมาเคลื่อนไหวได้ เมื่อใดหมดบุญขาดชีวิตินทรีย์ เราก็เคลื่อนไหวไปมาไม่ได้ หมดความรู้สึก มีกายแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ถ้าจะเปรียบก็เหมือนไฟตะเกียง อาศัยน้ำมันชุบที่ไส้จึงมีแสงสว่าง ถ้าน้ำมันหมดไฟก็ดับลง รูปกายของเรานี้เหมือนกับตะเกียง ชีวิตินทรีย์เหมือนน้ำมัน
เพราะฉะนั้น เมื่อหมดบุญ ชีวิตินทรีย์ขาดก็สิ้นลมหายใจ ครั้นหมดลมวิญญาณก็ดับ ตาก็ไม่เห็น หูก็ไม่ได้ยิน จมูกก็ไม่ได้กลิ่น ลิ้นก็ไม่รู้รส กายก็หมดความรู้สึกเหมือนท่อนฟืนที่รอการเคลื่อนเข้าเตาไฟ ไม่หวั่นไหวต่อความเย็นร้อนอ่อนแข็ง ถ้าทิ้งไว้ก็มีแต่จะเน่าเหม็นพุพอง น่าเกลียด น่าชัง คนที่เคยคลั่งไคล้หลงใหลกันมาก่อน ก็ไม่อยากเข้าใกล้ ถึงขั้นนี้แล้วก็ไม่น่าทะนุถนอม จำต้องเอาไปเผาในป่าช้า
"จากส่วนหนึ่ง ของรายการธรรมะเพื่อประชาชน โดย หลวงพ่อธัมมชโย"
#เพจพุทธพจน์เตือนใจ
Facebook|https://www.facebook.com/Ven.Apirak/