พระสัมมาสัมพุทธเจ้า: ผู้ตรัสรู้และบรรลุธรรม
เรียนรู้เกี่ยวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ และความหมายของบรมโพธิสัตว์ที่สั่งสมบุญบารมีจนเต็มเปี่ยม ผ่านเพจพุทธพจน์เตือนใจเพื่อเผยแพร่ธรรมะให้กับประชาชน
เดโดโด
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายถึง
พระบรมโพธิสัตว์ที่สั่งสมบุญบารมีจนเต็มเปี่ยม
แล้วได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
โดยชอบด้วยพระองค์เอง
เพจ พุทธพจน์เตือนใจ
ธรรมะเพื่อประชาชน
คุณครูไม่ใหญ่
www.
อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 3,488 (เข้าพรรษาวันที่ 17)
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายถึง พระบรมโพธิสัตว์ที่สั่งสมบุญบารมีจนเต็มเปี่ยม แล้วได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณโดยชอบด้วยพระองค์เอง คือ เมื่อพระองค์ได้เข้าถึงกายธรรมแล้ว เกิดธรรมจักษุ เห็นแจ้งด้วยธรรมจักษุ และรู้แจ้งด้วยญาณทัสสนะของธรรมกาย ได้ตรัสรู้อริยสัจ 4 เห็นว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมา ต่างมีความทุกข์เป็นพื้นฐาน แล้วมองเห็นต่อไปว่า สมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์นั้นคือตัณหา ตั้งแต่กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ทำให้เวียนวนอยู่ในสังสารวัฏไม่รู้จักจบสิ้น
การจะดับต้นเหตุแห่งทุกข์ต่างๆ เหล่านี้ได้ ใจต้องหยุด ซึ่งท่านเรียกว่า นิโรธ ซึ่งแปลว่า หยุดหรือดับ ถ้าหยุดใจได้ ความทะยานอยากทั้งหลายก็หมดสิ้นไป ที่ใจยังไม่หยุด เพราะว่ายังมีความอยากได้ อยากมี อยากเป็น เมื่อยังไม่สมปรารถนาก็ดิ้นรนไขว่คว้าเรื่อยไป หยุดใจได้เมื่อไร ก็หยุดการเวียนว่ายตายเกิด ตัดภพตัดชาติกันเลยทีเดียว แล้วหนทางที่นำไปสู่การดับทุกข์ที่เรียกว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทานั้น ต้องอาศัยมรรคมีองค์ 8 ตั้งแต่สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เมื่อมรรคมีองค์ 8 ประกอบกันถูกส่วน ก็เกิดเป็นดวงปฐมมรรค ซึ่งเป็นต้นทางนำไปสู่อายตนนิพพาน
จากนั้นพระพุทธองค์อาศัยใจหยุดนิ่งตามเห็นธรรมเข้าไปตามลำดับ ตั้งแต่เห็นดวงธรรมต่างๆ ภายใน เห็นกายในกาย จนเข้าถึงพระธรรมกาย แล้วเข้ากายธรรมในกายธรรม ตั้งแต่กายธรรมโคตรภู จนกระทั่งเข้าถึงกายธรรมอรหัต ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระสัพพัญญูผู้รู้แจ้งโลกทั้งปวง และที่พระพุทธองค์ได้นามว่า สัพพัญญูพุทธเจ้า เพราะได้บรรลุธรรมกายอรหัตนี่แหละ จึงทำให้มีญาณทัสสนะกว้างขวาง รู้เห็นได้ครอบคลุมไปหมด
พระบรมโพธิสัตว์ผู้ได้บรรลุเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้านั้น ไม่ใช่มีเพียงพระองค์เดียว 2 พระองค์ 10 พระองค์ หรือ 100 พระองค์เท่านั้น แต่มีเป็นล้านเป็นอสงไขยพระองค์ ท่านจึงใช้คำว่านับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน ที่ตรัสรู้ไปแล้วมีมากกว่าเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่ แล้วยังมีที่จะลงมาตรัสรู้อีกนับพระองค์ไม่ถ้วน บางท่านอาจเข้าใจว่า เรามีพระพุทธเจ้าคือ พระสมณโคดมพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว มีเยอะแยะมากมาย เฉพาะกัปของเรานี้ที่เรียกว่า ภัทรกัป มีถึง 5 พระองค์
"จากส่วนหนึ่ง ของรายการธรรมะเพื่อประชาชน โดย หลวงพ่อธัมมชโย"
#เพจพุทธพจน์เตือนใจ
Facebook|https://www.facebook.com/Ven.Apirak/